ในปี 1992 มีการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศเกาหลีใต้ ชอนแฮอุง (โจจินอุง) ผู้สมัครลงเลือกตั้งสมาชิกสภาเมือง
เค้ามีความหวังเต็มที่เพื่อจะรับตำแหน่งนี้ให้ได้ในฐานะตัวแทนจากพรรคประชาธิปไตย...
ซึ่งหนทางสู่สภาก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด เพราะว่าแฮอุง คุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดีรวมทั้งยังเป็นที่รักของชาวบ้านอีกด้วย
ทุกอย่างดูราบรื่นเหลือเกิน ไม่น่ามีปัญหาอะไร...
แต่ทว่าอยู่ดีดีเขากลับถูกทางพรรคปลดออกจากรายชื่อผู้สมัครไปซะอย่างนั้น
นั่นเป็นเพราะว่า ควอนซุนแท (อีซองมิน) ผู้มีอิทธิพลแห่งกรุงโซลที่คอยสนับสนุนพรรค
ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองซึ่งแน่นอนว่าจะให้ที่ดินในบริเวณดังกล่าวมีมูลค่ามหาศาล
ขณะที่แฮอุงหาเสียงโดยยกนโยบายปกป้องที่ดินของชาวบ้าน ซึ่งหากเป็นแบบนี้ต่อไปโครงการดังกล่าวคงจะมีปัญหาแน่ๆ
วิธีแก้ก็คือปลดแฮอุงออกไปให้พ้นทาง และดันคนอื่นที่ตัวเองควบคุมได้ขึ้นมารับช่วงต่อจากแฮอุง
แฮอุง ผิดหวังอย่างมาก เขาแอบนำข้อมูลโครงการพัฒนาเมืองดังกล่าวไปให้กับ คิมพิลโด (คิมมูยอล)
หัวหน้าแก๊งเงินกู้นอกระบบที่เขาติดเงินในการช่วยรณรงค์หาเสียงอยู่
โดยบอกว่าข้อมูลดังกล่าวที่เขานำมาให้จะทำให้ พิลโด ได้รับผลประโยชน์กลับมาไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่าในอนาคต
หากว่าเขาได้รับการเลือกตั้ง พิลโด จึงรับข้อเสนอของแฮอุงและตัดสินใจช่วยเป็นมือเป็นเท้า
เพื่อดันให้แฮอุง เอาชนะในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ให้ได้ในฐานะผู้สมัครอิสระ
การเลือกตั้งใกล้เข้ามา ด้วยการลงพื้นที่พบปะชาวบ้านของเจ้าตัว รวมถึงการทำงานในด้านมืดของพิลโด
ส่งผลให้คะแนนนิยมของแฮอุงพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก และแน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นผลดีต่อผู้สมัครคนใหม่ที่ควอนซุงแท จัดหามา..
เกมการเมืองสกปรกจึงเริ่มต้นขึ้น และนั่นทำให้ชอนแฮอุง พ่ายแพ้การเลือกตั้ง
แฮอุง หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เงินที่ลงทุนไปกับการหาเสียงก็หมดต้องหาทางจ่ายคืนซึ่งก็ไม่รู้จะหาจากไหน ..
ความเจ็บแค้นจากการที่ถูกควอนซุงแทดัดหลังเข้าเช่นนี้ทำให้เจ้าตัววางแผนเพื่อที่จะเอาคืน....
The Devil’s Deal หรือในชื่อเกาหลีว่า 대외비 (แปลประมาณว่า ข้อมูลลับเฉพาะ)
ผลงานการกำกับของอีวอนแต ซึ่งเคยฝากผลงานมาแล้วอย่าง Man of Will (2017) และ The Gangster, The Cop, The Devil (2019)
มาในครั้งนี้กับเรื่องราวการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองหักเหลี่ยมเฉือนคมของนักการเมืองสองรุ่นที่ไม่มีใครยอมใคร
ดาราดังทั้งนั้นครับ โจจินอุง (จาก The Admiral: Roaring Currents.. The Handmaiden และอีกเพียบ)
ในบทของชอนแฮอุง นักการเมืองหนุ่มที่มีอุดมการณ์ ต้องมาฟาดฟันกับผู้มีอำนาจเหนือพรรคการเมืองอย่าง ควอนซุนแท
ที่รับบทโดย อีซองมิน คนนี้ก็สุดยอดนักแสดงอีกคนครับ ผลงานเยอะพอๆกัน ล่าสุดก็อย่าง Remember กับ Hunt นั่นเอง
มาเรื่องนี้เจ้าตัวเปลี่ยนลุคพอสมควรตอนแรกจำแทบไม่ได้ เพราะหน้าตาพอเมคอัพไปแล้วผมว่าละม้ายคล้ายกับ อู๋ม่งต๊ะ
ดาราคู่บุญของโจวซิงฉือ ยังไงยังงั้น (ดูแล้วก็อดคิดถึงแกไม่ได้จริงๆ...)
รวมถึงคิมมูยอล (จาก Intruder และ Forgotten) ในบทของคิมพิลโด หัวหน้าแก๊งมาเฟียเงินกู้นอกระบบ
รวมถึงธุรกิจผิดกฎหมายอีกหลายอย่างที่เจ้าตัวดูแล ที่ทำให้เห็นว่านักการเมืองจะไปได้ไกลถึงเก้าอี้ที่ตัวเองหวังไว้ได้นั้น
แค่หาเสียงนำเสนอนโยบายแค่นั้นมันไม่ได้จริงๆ ของอย่างนี้มันต้องมีกำลังเงิน และกำลังคนที่คอยหนุนตัวเองอยู่มันถึงจะมีแรงส่งไปได้
The Devil’s Deal งานภาพตัดต่อองค์ประกอบต่างๆ ทำได้เยี่ยม การเล่าเรื่องทำได้ดี
ทำให้คนดูลุ้นระทึกตามไปจนถึงตอนใกล้จบก็ยังไม่สามารถเดาทางได้ว่าจะลงเอยในรูปแบบไหน
ซึ่งเป็นจุดเด่นอยู่แล้วของหนังแนวดราม่าทริลเลอร์ของเกาหลีเค้า
แต่น่าเสียดายตรงพาร์ทชีวิตครอบครัวของตัวเอกที่มีเกริ่นไว้ตั้งแต่ช่วงต้นเรื่อง แต่กลับปล่อยไปอย่างน่าเสียดาย
ถึงแม้ว่าจะไม่กระทบอะไรกับเส้นเรื่องหลักก็ตาม แต่ก็น่าจะพูดถึงอีกสักนิดทิ้งท้ายก็ยังดี
สุดท้ายแล้ว เมื่อดูหนังเรื่องนี้คุณก็จะเห็นด้วยกับประโยคที่ผมพิมพ์จั่วหัวกระทู้ไว้ว่า..
คนจะเป็นนักการเมืองมันต้องทำสัญญากับปีศาจเพื่ออำนาจที่มั่นคง..
อุดมการณ์มันกินไม่ได้ อำนาจนี่สิเป็นสิ่งที่หอมหวานกว่าและเมื่อได้ลิ้มลองมันไปสักครั้ง ก็ยากที่จะถอนตัวออกมาได้จริงๆ....
(ส่วนจะคล้ายคลึงกับการเมืองบางประเทศหรือไม่นั้น.. อีกไม่นานก็คงได้รู้กัน)
เพราะหนังมันฝังใจ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== The Devil’s Deal (2023) การเมืองคือการจับมือกับปีศาจ.. เพื่ออำนาจที่มั่นคง ==
ในปี 1992 มีการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศเกาหลีใต้ ชอนแฮอุง (โจจินอุง) ผู้สมัครลงเลือกตั้งสมาชิกสภาเมือง
เค้ามีความหวังเต็มที่เพื่อจะรับตำแหน่งนี้ให้ได้ในฐานะตัวแทนจากพรรคประชาธิปไตย...
ซึ่งหนทางสู่สภาก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด เพราะว่าแฮอุง คุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดีรวมทั้งยังเป็นที่รักของชาวบ้านอีกด้วย
ทุกอย่างดูราบรื่นเหลือเกิน ไม่น่ามีปัญหาอะไร...
แต่ทว่าอยู่ดีดีเขากลับถูกทางพรรคปลดออกจากรายชื่อผู้สมัครไปซะอย่างนั้น
นั่นเป็นเพราะว่า ควอนซุนแท (อีซองมิน) ผู้มีอิทธิพลแห่งกรุงโซลที่คอยสนับสนุนพรรค
ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองซึ่งแน่นอนว่าจะให้ที่ดินในบริเวณดังกล่าวมีมูลค่ามหาศาล
ขณะที่แฮอุงหาเสียงโดยยกนโยบายปกป้องที่ดินของชาวบ้าน ซึ่งหากเป็นแบบนี้ต่อไปโครงการดังกล่าวคงจะมีปัญหาแน่ๆ
วิธีแก้ก็คือปลดแฮอุงออกไปให้พ้นทาง และดันคนอื่นที่ตัวเองควบคุมได้ขึ้นมารับช่วงต่อจากแฮอุง
แฮอุง ผิดหวังอย่างมาก เขาแอบนำข้อมูลโครงการพัฒนาเมืองดังกล่าวไปให้กับ คิมพิลโด (คิมมูยอล)
หัวหน้าแก๊งเงินกู้นอกระบบที่เขาติดเงินในการช่วยรณรงค์หาเสียงอยู่
โดยบอกว่าข้อมูลดังกล่าวที่เขานำมาให้จะทำให้ พิลโด ได้รับผลประโยชน์กลับมาไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่าในอนาคต
หากว่าเขาได้รับการเลือกตั้ง พิลโด จึงรับข้อเสนอของแฮอุงและตัดสินใจช่วยเป็นมือเป็นเท้า
เพื่อดันให้แฮอุง เอาชนะในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ให้ได้ในฐานะผู้สมัครอิสระ
การเลือกตั้งใกล้เข้ามา ด้วยการลงพื้นที่พบปะชาวบ้านของเจ้าตัว รวมถึงการทำงานในด้านมืดของพิลโด
ส่งผลให้คะแนนนิยมของแฮอุงพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก และแน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นผลดีต่อผู้สมัครคนใหม่ที่ควอนซุงแท จัดหามา..
เกมการเมืองสกปรกจึงเริ่มต้นขึ้น และนั่นทำให้ชอนแฮอุง พ่ายแพ้การเลือกตั้ง
แฮอุง หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เงินที่ลงทุนไปกับการหาเสียงก็หมดต้องหาทางจ่ายคืนซึ่งก็ไม่รู้จะหาจากไหน ..
ความเจ็บแค้นจากการที่ถูกควอนซุงแทดัดหลังเข้าเช่นนี้ทำให้เจ้าตัววางแผนเพื่อที่จะเอาคืน....
The Devil’s Deal หรือในชื่อเกาหลีว่า 대외비 (แปลประมาณว่า ข้อมูลลับเฉพาะ)
ผลงานการกำกับของอีวอนแต ซึ่งเคยฝากผลงานมาแล้วอย่าง Man of Will (2017) และ The Gangster, The Cop, The Devil (2019)
มาในครั้งนี้กับเรื่องราวการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองหักเหลี่ยมเฉือนคมของนักการเมืองสองรุ่นที่ไม่มีใครยอมใคร
ดาราดังทั้งนั้นครับ โจจินอุง (จาก The Admiral: Roaring Currents.. The Handmaiden และอีกเพียบ)
ในบทของชอนแฮอุง นักการเมืองหนุ่มที่มีอุดมการณ์ ต้องมาฟาดฟันกับผู้มีอำนาจเหนือพรรคการเมืองอย่าง ควอนซุนแท
ที่รับบทโดย อีซองมิน คนนี้ก็สุดยอดนักแสดงอีกคนครับ ผลงานเยอะพอๆกัน ล่าสุดก็อย่าง Remember กับ Hunt นั่นเอง
มาเรื่องนี้เจ้าตัวเปลี่ยนลุคพอสมควรตอนแรกจำแทบไม่ได้ เพราะหน้าตาพอเมคอัพไปแล้วผมว่าละม้ายคล้ายกับ อู๋ม่งต๊ะ
ดาราคู่บุญของโจวซิงฉือ ยังไงยังงั้น (ดูแล้วก็อดคิดถึงแกไม่ได้จริงๆ...)
รวมถึงคิมมูยอล (จาก Intruder และ Forgotten) ในบทของคิมพิลโด หัวหน้าแก๊งมาเฟียเงินกู้นอกระบบ
รวมถึงธุรกิจผิดกฎหมายอีกหลายอย่างที่เจ้าตัวดูแล ที่ทำให้เห็นว่านักการเมืองจะไปได้ไกลถึงเก้าอี้ที่ตัวเองหวังไว้ได้นั้น
แค่หาเสียงนำเสนอนโยบายแค่นั้นมันไม่ได้จริงๆ ของอย่างนี้มันต้องมีกำลังเงิน และกำลังคนที่คอยหนุนตัวเองอยู่มันถึงจะมีแรงส่งไปได้
The Devil’s Deal งานภาพตัดต่อองค์ประกอบต่างๆ ทำได้เยี่ยม การเล่าเรื่องทำได้ดี
ทำให้คนดูลุ้นระทึกตามไปจนถึงตอนใกล้จบก็ยังไม่สามารถเดาทางได้ว่าจะลงเอยในรูปแบบไหน
ซึ่งเป็นจุดเด่นอยู่แล้วของหนังแนวดราม่าทริลเลอร์ของเกาหลีเค้า
แต่น่าเสียดายตรงพาร์ทชีวิตครอบครัวของตัวเอกที่มีเกริ่นไว้ตั้งแต่ช่วงต้นเรื่อง แต่กลับปล่อยไปอย่างน่าเสียดาย
ถึงแม้ว่าจะไม่กระทบอะไรกับเส้นเรื่องหลักก็ตาม แต่ก็น่าจะพูดถึงอีกสักนิดทิ้งท้ายก็ยังดี
สุดท้ายแล้ว เมื่อดูหนังเรื่องนี้คุณก็จะเห็นด้วยกับประโยคที่ผมพิมพ์จั่วหัวกระทู้ไว้ว่า..
คนจะเป็นนักการเมืองมันต้องทำสัญญากับปีศาจเพื่ออำนาจที่มั่นคง..
อุดมการณ์มันกินไม่ได้ อำนาจนี่สิเป็นสิ่งที่หอมหวานกว่าและเมื่อได้ลิ้มลองมันไปสักครั้ง ก็ยากที่จะถอนตัวออกมาได้จริงๆ....
(ส่วนจะคล้ายคลึงกับการเมืองบางประเทศหรือไม่นั้น.. อีกไม่นานก็คงได้รู้กัน)
เพราะหนังมันฝังใจ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===