เรื่องคือตอนคบกันแรกๆแฟนผมก็ปกติแฟนชอบพูดโกหกไปก่อนเหมือนเอาตัวรอดถึงเรื่องบ้างเรื่องอาจจะไม่ร้ายแรง แต่เค้าเหมือนติดปากหรือ ติดนิสัยนี้ไปแล้วเหมือนว่า พูดความจิงกลัว เลยโกหกไปเรื่อย หาอะไรมาอ้างผมเคยคุยกันแล้ว ว่าพูดความจริงมันดีกว่าพูดอ้างไปเรื่องหรือหลีกเลี่ยงความจริงเค้าก็ปรับตัวแต่สุดท้ายเค้าเหมือนเดิม จนทะเลาะกันบ่อยมาก ผมอยากเลิกแต่ ลูกผมพึ่ง6ขวบมองหน้าลูกผมก็อดทนเพราะอยากให้ลูกมีพ่อแม่ครบ
เรื่องไม่นานแฟนผมไปทำงานต่างจังหวัดก็จะมีทีมงาน น้องผู้หญิง1 น้องคนขับรถผู้ชาย1 แล้วแฟนผม1 เป็น3คนไปทำงานต่างจังหวัดแล้วผมก็ให้บัตรเครดิตเค้าไป1ใบจำนวนเงินไม่เยอะก็เพื่อว่าเค้าอยากซื้ออะไร แล้วต่อมาเค้าได้ไปรูดซื้อรองเท้าในห้างเซ็ตทรัล มามันก็มีข้อความเตือนที่ผมว่ามีคนใช้บัตร ผมเลยถามว่าใช้บัตรทำอะไร แต่แฟนผมกลับบอกว่าไม่รู้ บัตรอยู่ในกระเป๋าเงินที่รถผมเลยถามว่าน้องในทีมหยิบไปใช้หรอเค้าก็ตอบแค่ว่า น้องในทีมไม่ได้อยู่ด้วยต่างคนต่างแยกเดิน ผมก็เลยสงใสถามไปว่าน้องเค้าจะแอบหยิบบัตรมาใช้โดยที่ไม่บอกเจ้าของหรอแฟนผมก็บอกว่าเดียวโทรถามให้แล้วผมก็บ่นแฟนผมไปให้คนอื่นใช้บัตรได้ไงเค้าก็ไม่รู้พูดอะไร ผมเลยบอกว่าเอาน้องในทีมที่ใช้บัตรมาคุยว่ารูดซื้ออะไรให้มาคุยกับผม แฟนผมก็ไม่ให้คุยบอกถามน้องแล้ว น้องในทีมใช้เอง ผมเลยอยากได้หลักฐานเลยขอคุยกับน้องในทีมแฟนผมก็ไม่ให้คุย แล้วมาบ่นผมว่าทะเลาะกันให้คนอื่นรู้ทำไม ผมเลยบอกว่าบัตรผมคนอื่นใช้ ให้คนใช้มาคุยไม่ได้หรอเลยทะเลาะกันหนักมาก จนผมคิดว่าเค้ารูดซื้อของให้ น้องผู้ชายที่เป็นคนขับรถหรือป่าว แฟนผมก็ทำหน้าร้องไห้ ไม่พูดไม่อะไร จนผมรู้ความจริงจากน้องในทีมผู้หญิงว่า แฟนผมเป็นคนรูดซื้อรองเท้าของตัวเอง น้องผู้หญิงไปด้วยกัน เรื่องก็ประมาณนี้ครับ
ผมเลยสงใสว่าทำไมไม่พูดความจริงแค่ซื้อรองเท้า บอกผมแล้วกลัวอะไรผมให้บัตรไปใช้เอง แฟนผมจะเป็นแนวๆนี้ มันมีหลายเรื่องที่เป็น แนวๆนี้จะพูดไปเรื่อยก่อน แล้วค่อยแก้ตัวหาความจริงยากมากกว่าจะรู้ความจริงผมต้องหาเองตลอดผมก็เหนื่อยบอกเลิกเค้าไป แต่ก็สงสารลูก ผมเลยยอมอยู่แต่สิ่งที่แฟนผมดีอย่างเดียวคือเค้าเป็นคนทำงานหาเงินเก่งแล้วผมเงินน้อยกว่าเค้า เค้าก็ไม่เคยบ่นไม่เคยทิ้งผม แต่ติดแค่เรื่องนิสัยเค้าเป็นคนชอบพูดโกหก พูดไปก่อนเหมือนทะเลาะกันแฟนผมเป็นพวกคนซึมเศร้า พูดยากมากถามความจริงยากมาก ทั้งๆที่เรื่องมันไม่มีอะไรเลยแค่บอกความจริงเรื่องจบ
พอมีใครแนะนำแก้ไขปัญหาไหมครับ หรือ นิสัยแบบนี้ พกจิตแพย์ด้านไหน หรือ นักพูดอะไรสักอย่างด้านไหนไหมครับ (ผมเข้าใจว่าเลิกกันก็คือทางออกแต่ผมอยากหาทางแก้ ทางแพย์ หรือ ทางอื่นก่อน) ขอคำแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณที่รับฟังครับ
แฟนคบกัน 7ปี มีลูก1 คนชอบพูดโกหกผมควรทำอย่างไงหรือพาไปพบใครแก้ไขได้บ้าง
เรื่องไม่นานแฟนผมไปทำงานต่างจังหวัดก็จะมีทีมงาน น้องผู้หญิง1 น้องคนขับรถผู้ชาย1 แล้วแฟนผม1 เป็น3คนไปทำงานต่างจังหวัดแล้วผมก็ให้บัตรเครดิตเค้าไป1ใบจำนวนเงินไม่เยอะก็เพื่อว่าเค้าอยากซื้ออะไร แล้วต่อมาเค้าได้ไปรูดซื้อรองเท้าในห้างเซ็ตทรัล มามันก็มีข้อความเตือนที่ผมว่ามีคนใช้บัตร ผมเลยถามว่าใช้บัตรทำอะไร แต่แฟนผมกลับบอกว่าไม่รู้ บัตรอยู่ในกระเป๋าเงินที่รถผมเลยถามว่าน้องในทีมหยิบไปใช้หรอเค้าก็ตอบแค่ว่า น้องในทีมไม่ได้อยู่ด้วยต่างคนต่างแยกเดิน ผมก็เลยสงใสถามไปว่าน้องเค้าจะแอบหยิบบัตรมาใช้โดยที่ไม่บอกเจ้าของหรอแฟนผมก็บอกว่าเดียวโทรถามให้แล้วผมก็บ่นแฟนผมไปให้คนอื่นใช้บัตรได้ไงเค้าก็ไม่รู้พูดอะไร ผมเลยบอกว่าเอาน้องในทีมที่ใช้บัตรมาคุยว่ารูดซื้ออะไรให้มาคุยกับผม แฟนผมก็ไม่ให้คุยบอกถามน้องแล้ว น้องในทีมใช้เอง ผมเลยอยากได้หลักฐานเลยขอคุยกับน้องในทีมแฟนผมก็ไม่ให้คุย แล้วมาบ่นผมว่าทะเลาะกันให้คนอื่นรู้ทำไม ผมเลยบอกว่าบัตรผมคนอื่นใช้ ให้คนใช้มาคุยไม่ได้หรอเลยทะเลาะกันหนักมาก จนผมคิดว่าเค้ารูดซื้อของให้ น้องผู้ชายที่เป็นคนขับรถหรือป่าว แฟนผมก็ทำหน้าร้องไห้ ไม่พูดไม่อะไร จนผมรู้ความจริงจากน้องในทีมผู้หญิงว่า แฟนผมเป็นคนรูดซื้อรองเท้าของตัวเอง น้องผู้หญิงไปด้วยกัน เรื่องก็ประมาณนี้ครับ
ผมเลยสงใสว่าทำไมไม่พูดความจริงแค่ซื้อรองเท้า บอกผมแล้วกลัวอะไรผมให้บัตรไปใช้เอง แฟนผมจะเป็นแนวๆนี้ มันมีหลายเรื่องที่เป็น แนวๆนี้จะพูดไปเรื่อยก่อน แล้วค่อยแก้ตัวหาความจริงยากมากกว่าจะรู้ความจริงผมต้องหาเองตลอดผมก็เหนื่อยบอกเลิกเค้าไป แต่ก็สงสารลูก ผมเลยยอมอยู่แต่สิ่งที่แฟนผมดีอย่างเดียวคือเค้าเป็นคนทำงานหาเงินเก่งแล้วผมเงินน้อยกว่าเค้า เค้าก็ไม่เคยบ่นไม่เคยทิ้งผม แต่ติดแค่เรื่องนิสัยเค้าเป็นคนชอบพูดโกหก พูดไปก่อนเหมือนทะเลาะกันแฟนผมเป็นพวกคนซึมเศร้า พูดยากมากถามความจริงยากมาก ทั้งๆที่เรื่องมันไม่มีอะไรเลยแค่บอกความจริงเรื่องจบ
พอมีใครแนะนำแก้ไขปัญหาไหมครับ หรือ นิสัยแบบนี้ พกจิตแพย์ด้านไหน หรือ นักพูดอะไรสักอย่างด้านไหนไหมครับ (ผมเข้าใจว่าเลิกกันก็คือทางออกแต่ผมอยากหาทางแก้ ทางแพย์ หรือ ทางอื่นก่อน) ขอคำแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณที่รับฟังครับ