ปี 2568 ยุคมรสุมธุรกิจร้านอาหาร แข่งขันกันดุเดือด โดยเฉพาะร้านบุฟเฟ่ต์ ท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซา กำลังซื้อหด แม้แต่แบรนด์ที่อยู่ในตลาดมา 10 ปียังถอย
ปี 2568 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาตลอดหลายเดือน ธุรกิจร้านอาหารเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่หดตัว ต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงการแข่งขันรุนแรงในตลาด ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนหนึ่ง ต้องถอนตัวออกไป
ลาวาชาบู (Lava Shabu) ร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูชื่อดังกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมากว่า 10 ปี ประกาศปิดกิจการเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 โดยทางร้านให้เหตุผลว่า เนื่องด้วยต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วัน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ทางร้านจึงตัดสินใจยุติการให้บริการในครั้งนี้
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบช่องทางโซเชียลมีเดียของลาวาชาบู พบว่า ก่อนหน้านี้ 15 พฤษภาคม 2568 ทางร้านได้ประกาศปรับราคาค่าบริการบุฟเฟ่ต์จาก 319 บาท เป็น 349 บาทต่อราย เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ลูกค้าที่มารับประทานท่านเดียว คิดค่าบริการเพิ่มอีก 30 บาทเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการให้บริการที่เหมาะสม ก่อนจะมีการประกาศปิดกิจการในเดือนถัดมา
แพนด้า สุกี้ เรสเทอรอง (Panda Suki Restaurant) ร้านเป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ เตาถ่นในตำนานย่านปิ่นเกล้า มีการประกาศว่า ร้านแพนด้า สุกี้ บะหมี่ เคยมีประกาศปิดในวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 และให้บริการวันสุดท้ายคือ 9 มิถุนายน 2567 อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลที่ระบุว่าร้านได้กลับมาเปิดอีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2567 แต่ก็ต้องปิดตัวลงอีกครั้ง โดยมีประกาศปิดให้บริการวันสุดท้ายในวันที่ 3 มิถุนายน 2568
ร้านชาบูไต้หวัน (Evaime) ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในกรุงเทพฯ ได้ประกาศปิดให้บริการทุกสาขาแล้ว โดยสาขา ICONSIAM ชั้น 4 เป็นสาขาสุดท้ายที่ปิดตัวลงในวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 หลังจากเปิดให้บริการมาเป็นเวลา 17 ปี ร้านนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องน้ำซุป ชาบูน้ำดำ และน้ำจิ้มสูตรไต้หวันที่หลากหลาย
ร้านเวทย์มนต์ (Vetmon) ร้านอาหารและคาเฟ่ธีมแฟนตาซี ได้ปิดกิจการในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2568 โดยร้านเวทมนตร์ถือเป็นร้านลงดังในโลกโซเชียลจากการตกแต่งร้านในบรรยากาศแม่มดโลกของเวทมนตร์ โดยเริ่มจากสาขาแรกที่จังหวัดสกลนคร จากนั้นได้เข้ามาเปิดสาขาแรกในกรุงเทพ ที่เจริญนคร 6 เมื่อปี 2566 ต่อมาได้ประกาศปิดสาขาเจริญนคร 6 โดยเปิดให้บริการวันสุดท้ายวันที่ 25 มีนาคม 2567 และได้เริ่มเปิดให้บริการสาขาแดนเนรมิตครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 และล่าสุดได้ประกาศปิดร้านดังกล่าว
ร้านอาหารญี่ปุ่น เทนยะ (TENYA) ปิดให้บริการ ทุกสาขาในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2568 เป็นต้น หลังจากเปิดให้บริการและครองใจลูกค้าชาวไทยมาหลายปี โดยเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2015 โดยกลุ่ม Central Restaurants Group (CRG) ซึ่งเป็นเครือของ Central Group สาขาแรกของ Tenya ในไทยตั้งอยู่ที่ Central Bangna ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นการขยายตลาดในประเทศไทย กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์อาหารญี่ปุ่นยอดนิยมในไทย
แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2568
จากที่กล่าวมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2568 การแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารจะยังดุเดือด ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ในปี 2568 ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และเล็ก (บุคคล) รวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ ยังให้ความสนใจเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ร้านอาหารเอเชียโดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่น ตลาดพรีเมียมยังเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจ
ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า การจดทะเบียนเลิกครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน 2568) มีจำนวน 6,244 ราย ในจำนวนนี้เป็น ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 276 ราย แต่อย่างไรก็ตามแม้มีการเลิกกิจการ แต่ตัวเลขการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวยังคงมีต่อเนื่อง เฉพาะ 3 เดือนแรกของปี 2568 ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มมีการจดทะเบียนจัดตั้งกิจการใหม่ 973 ราย แม้จะลดลง 11.0% (YoY) แต่ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มเป็นธุรกิจที่มีการเปิดใหม่มากติดอันดับ 1 ใน 5 ของกิจการที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งกิจการใหม่ในทุกปี
โดยในปี 2568 คาดว่าร้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วประเทศจะมีจำนวนกว่า 6.9 แสนร้าน (ซึ่งยังไม่นับรวมร้านอาหารและเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อาทิ ร้านข้างทางที่เป็นรถเข็นไม่มีหน้าร้านหรือที่ตั้งถาวร ร้านฟู้ดทรัค และร้านรูปแบบ Ghost Kitchen ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก)
การลงทุนของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นพื้นที่ศักยภาพ จากข้อมูลของ LINE MAN Wongnai พบว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 พื้นที่กรุงเทพมหานครมีร้านอาหารเปิดใหม่เพิ่มขึ้น 4.8% จาก ณ สิ้นปี 2567 โดยพื้นที่ที่มีจำนวนร้านอาหารและเครื่องดื่มสูงส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชุมชนและที่อยู่อาศัย โดยเขตที่มีการกระจุกตัวสูงของร้านอาหารและเครื่องดื่ม 5 อันดับแรก ได้แก่ จตุจักร ปทุมวัน ประเวศ พระนคร ลาดกระบัง
นอกจากนี้ จังหวัดที่มีกิจกรรมการท่องเที่ยวสูงยังเห็นการเปิดตัวของร้านอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ ชลบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ศักยภาพมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยละต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยว
เนื่องจากภาวะการแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่สูง ทำให้การลงทุนใหม่อาจยังต้องระวัง ทั้งนี้ผู้ประกอบการมีจำนวนมาก เทรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มใหม่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ผู้ประกอบการมีการปรับโมเดลการทำธุรกิจ โดยการสร้างแบรนด์ใหม่ หรือการรีแบรนด์เดิมเพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ แต่กระนั้นก็ดี ผู้ประกอบการบางรายมีการปิดสาขาหรือร้านที่ไม่สามารถแข่งขันได้ ทั้งนี้ การแข่งขันในธุรกิจที่รุนแรงก็ทำให้เกิดการปิดกิจการจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
Source : ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์, ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
มาแล้ว! โบนัสสุกี้ สาขาแรกในกทม. เปิดที่ ‘ลิตเติ้ลวอล์ค รามคำแหง’ 10 ก.ย.นี้ ซอย รามคำแหง 129
ระหว่างรอคิว ไปดู รถ Tesla สนญ. หรือ Shopping ที่ Top Supermarket เพราะอยู่ใกล้ๆกัน 
มาแล้ว! โบนัสสุกี้ สาขาแรกในกทม. เปิดที่ ‘ลิตเติ้ลวอล์ค รามคำแหง’ 10 ก.ย.นี้
ในที่สุดก็เผยพิกัดแล้ว สาขาที่ 3 โบนัส สุกี้ (BONUS SUKI) สุกี้น้องใหม่ ในเครือ MK เตรียมเปิดวันที่ 10 กันยายน 2568 นี้ ที่ ลิตเติ้ล วอล์ค รามคำแหง 129 (LITTLE WALK) คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ของทำเลกรุงเทพโซนตะวันออกและเป็นสาขาแรกที่บุกกรุงเทพฯ
จากก่อนหน้านี้ตะลุยเปิด 2 สาขา จากสาขาแรก “โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สระบุรี” เปิดไปเมื่อ 16 กรกฎาคม 2568 จากนั้นได้ขยายสาขาที่2 ต่อทันทีที่ “แม็คโคร โลตัส มอลล์ ชัยนาท” เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับสาขาใหม่ๆ จะมีตามมาอีกหลายสาขาทั้งกรุงเทพ ปริมณฑล เช่น พระราม 2 ธัญบุรี และจังหวัดทางภาคอีสาน เช่น ขอนแก่น สกลนคร มหาสารคาม เป็นต้น
สำหรับ “โบนัส สุกี้” เป็นบุฟเฟต์ มีเมนูกว่า 60 เมนู ทานได้ 2.15 ชั่วโมง ในราคา 219 บาท /ท่าน (ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิล ราคา 39 บาทและ Vat 7%) ราคาเนต 276 บาท เปิดตั้งแต่ 11.00 น. ถึง 05.00 น....
ปี 2568 ยุคมรสุมธุรกิจร้านอาหาร หลายแบรนด์ดังโบกมือลา