⚠️คำเตือน⚠️
กระทู้นี้มีการวิเคราะห์หนังอย่างละเอียดและมีการสปอยล์เนื้อหาของหนังอย่างละเอียด
โดยจะทำการใส่กรอบสปอยล์ปิดเอาไว้ หากใครอยากอ่านสามารถกดอ่านได้
การวิเคราะห์หนังครั้งนี้วิเคราะห์ตามความเป็นจริงของเนื้อหาที่หนังนำเสนอเท่านั้น
สิ่งที่อยากบอกเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้
-บอกเล่าทุกปัญหาของประเทศไทยจนแทบจับต้นชนปลายไม่ถูก เหมือนกินยำรวมมิตรหรือแกงอะไรสักอย่างที่จับวัตุดิบที่ไม่น่าจะเข้ากันมาผสมรวมกัน แต่กลับออกมาอร่อย แปลกใหม่ และมีประโยชน์ อาจจะสื่อถึงความมั่วซั่วของปัญหาภายในประเทศของเราที่แทบแก้ไขไม่ได้ เพราะมันพันกันยุ่งเหยิงไปหมด
-ไม่ใช่หนังดูง่ายสำหรับคนที่ไม่มีความรู้พื้นฐานด้านการเมืองหรือไม่มีความรู้ด้านการตีความหนัง แต่กลับเป็นหนังดูง่ายสำหรับคนชอบหนังสายรางวัลและติดตามข่าวการเมือง ใครที่ดูรู้จะอ๋อทันทีว่าฉากนี้หมายความว่าอะไร
-จัดว่าเป็นหนังที่มี “ความกล้า” ในการแสดงออกอย่างชัดเจนจนน่ากลัว-ไม่แปลกที่จะชนะรางวัลหนังที่เทศกาลหนังเมืองคานส์
-ไม่ใช่หนังผีที่มีผีออกมาหลอกแว่ น่ากลัว ตกใจ แต่เป็นหนังประเภทหนังอาร์ท หนังรางวัล หนังเสียดสีสังคม ตลกร้าย สะท้อนความจริงของสังคมไทยได้อย่างครบถ้วน
-
ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะพาเด็กไปดู เพราะมีฉากร่วมเพศอย่างชัดเจนถึงสองฉาก มีการใช้คำหยาบ มีการพูดถึงเรื่องเพศอย่างชัดเจน มีฉากความรุนแรง มีฉากนองเลือด มีเสียงดนตรีประกอบและเสียงอาวุธปืนดังมาก ๆ
-ใครที่ไม่ชอบเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQAI+ ไม่ควรเข้าไปดู เพราะอาจเกิดความกระอักกระอ่วนใจในขณะรับชมได้
-ทุกฉากที่เครื่องดูดฝุ่นออกมา มีความรู้สึกส่วนตัวว่า น่ารัก เหมือนเครื่องดูดฝุ่นมีชีวิตในเทเลทับบี้ - การ์ตูนวัยเด็กของใครหลาย ๆ คนในยุค 90 หรือต้นยุค 2000
-องค์ประกอบศิลป์และการจัดแสงของหนังเรื่องนี้สวยมากกกก บางฉากเป็นแสงธรรมชาติก็ยังสวย การใช้สีสันและสัญลักษณ์ก็สุดจัด
ถ้าใครพร้อมฟังสปอยล์เรื่องราวทั้งหมด สามารถกดอ่านสปอยล์ได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องย่อโดยละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ
เรื่องราวเริ่มต้นโดย มี “กะเทยวิชาการ” คนหนึ่งที่กำลังค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวเรื่องการเมืองการปกครองของไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน แต่เธอกลับมีอาการแพ้ฝุ่นที่พัดปลิวมาจากไซต์ก่อสร้างห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน เธอจึงไปหาซื้อเครื่องดูดฝุ่นมาใช้ แต่พอตกตอนกลางคืน เธอกลับได้ยินเสียงคนไออย่างน่ากลัวออกมาจากเครื่องดูดฝุ่น รุ่งเช้า เธอจึงได้จ้างช่างซ่อมมาดูอาการเครื่องดูดฝุ่น แต่กลับมีชายหนุ่มผมทองปริศนาชื่อว่า “ครอง” อ้างตัวเป็นช่างซ่อมเข้ามาในบ้านของเธอ และเริ่มพูดคุยเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับความรักอันน่าพิศวงของเครื่องดูดฝุ่นกับชายหนุ่มอีกคนให้กะเทยวิชาการฟัง
เรื่องราวนั้นเริ่มขึ้นจาก “สุมาลย์” หญิงสาวชาวอีสานที่อาจจะเคยเป็นคนในโรงงานประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ได้รับการเลื่อนขั้นจากพนักงานขึ้นมาเป็นคุณนายของบ้าน เนื่องจากได้กลายเป็นภรรยาของลูกชายเจ้าของโรงงาน กว่าเธอจะฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้กับบรรดาญาติ ๆ ในระบบกงสีของสามีมาได้ก็สาหัสเอาเรื่อง เพราะเธอต้องเจอกับการถูกกีดกันทางสังคม การเหยียดเชื้อสายว่าเธอเป็นคนอีสาน แต่เมื่อเธอได้ให้กำเนิดลูกชายของคนให้กับตระกูล พวกเขาก็ปฏิบัติกับเธอเปลี่ยนไปหน้ามือเป็นหลังมือ ในตอนกลางคืน เธอมักหลับฝันว่า เธอได้ถือปืนลูกซองไล่ยิงบรรดาญาติคนจีนในกงสีของสามีคนตายหมดเพื่อเป็นการแก้แค้นที่พวกเขาเคยดูถูกเหยียดหยามเธอเอาไว้อย่างเจ็บแสบและหลังการยิงพวกเขาในความฝัน เธอก็ชวนลูกชายทั้งสองคนของเธอไปกินไอศกรีมกันอย่างมีความสุข
โดยลูกชายคนโตของเธอมีชื่อว่า “มอส” ส่วนลูกชายคนเล็กของเธอชื่อ “มาร์ช” แต่เมื่อลูกชายทั้งสองคนของเธอเติบโตขึ้น ทั้งสองคนกลับมีแนวทางการดำเนินชีวิตที่ขัดใจญาติผู้ใหญ่ เช่น มอสก็มีรสนิยมทางเพศเป็นชายรักชาย และมีคู่รักเป็น “เท็ด” ชายเชื้อสายจีนที่เติบโตที่ออสเตรเลียและพูดแต่ภาษาอังกฤษ ทั้งสองไม่มีลูกแท้ ๆ เป็นของตัวเอง แต่กลับไปรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมชายหนึ่งคนด้วยกัน ส่วนมาร์ชก็แต่งงานกับ “แนท” หญิงสาวลูกครึ่งยุโรปครึ่งไทยคนหนึ่ง ก่อนเธอจะเสียชีวิตไปพร้อมกับลูกในครรภ์เพราะปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ทำให้เธอไอไม่หยุดจนเสียชีวิต
ต่อมา สุมาลย์ได้รับการร้องเรียนจากเหล่าพนักงานภายในโรงงานว่า มีผีพนักงานชายที่ชื่อ “ต๊อก” ที่เสียชีวิตจากฝุ่นในโรงงานเข้าสิงเครื่องจักรหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในโรงงานและตามหลอกหลอนอาฆาตแค้นสุมาลย์ แม้ว่าสุมาลย์จะนิมนต์เหล่าพระสงฆ์เข้ามาสวดขับไล่หรือสวดแผ่เมตตาให้แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้วิญญาณแค้นของต๊อกหายไปได้ บรรดาญาติผู้ใหญ่ในกงสีต่างกล่าวโทษว่า สุมาลย์บกพร่องในการเลี้ยงดูลูกชายทั้งสองให้กลายมาเป็นคนปกติ และกดดันให้สุมาลย์แก้ปัญหาเหล่านี้ มอสกับเท็ดจึงเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่โรงงานประกอบขึ้นส่งขายที่เมืองนอก ช่วยสร้างประโยชน์และรายได้ให้กับครอบครัว จึงได้รับการยอมรับจากกงสี
ต่อมา มาร์ชที่ยังคงเสียใจกับการจากไปของแนท ภรรยาสุดที่รัก เขามีอาการเหม่อลอยไม่พูดจาหรือกินข้าว จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขาไปเข้าช่วยงานในโรงงานของแม่ แต่เขากลับไปพบว่า แนทได้กลับมาหาเขาในรูปแบบเครื่องดูดฝุ่น และเธอก็พยายามไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล แต่พยาบาลเวรดึกกลับปฏิเสธการเข้าเยี่ยม เพราะเธอไม่ใช่คนและยังต้องทำตามกฎการเข้าเยี่ยมของโรงพยาบาล ต้องเข้าเยี่ยมในตอนเช้าพร้อมคนอื่น ๆ เท่านั้น ระหว่างทางตอนเช้าที่กำลังขึ้นลิฟท์ เธอได้ไปพบกับท่านรัฐมนตรี หรือ "ดอกเตอร์พอล" ที่กำลังประสบปัญหาฝุ่นเข้าตาจนภูมิแพ้กำเริบ เธอได้ช่วยดูดฝุ่นออกจากตาของเขาจนหายดี เขาจึงได้รับการตอบแทนจากเขา โดยเธอสามารถใช้สิทธิเส้นสายของเขาได้โดยไม่ต้องกลัวว่า ใครจะทำอะไรเธอได้ แนทได้ขึ้นไปหามาร์ชที่เตียงคนไข้ ทำให้เขาดีใจมากที่ได้เจอภรรยาอีกครั้ง ในตอนแรก สุมาลย์ไม่ยอมรับแนทที่กลับมาในฐานะผีเครื่องดูดฝุ่น แต่เมื่อเห็นอาการที่ดีขึ้นของลูกชาย เธอจึงยินยอมให้แนทมาดูแลมาร์ชได้เหมือนเดิม
ฝ่ายมาร์ชนั้น ถูกบังคับผู้อาวุโสในกงสีให้เข้ารับการช็อตไฟฟ้าเพื่อลบความทรงจำที่มีต่อแนท เพื่อให้ผีแนทหายไป แต่ก็ไม่เป็นผล ฝ่ายแนทก็ต้องเจออุปสรรคการถูกกีดกันจากเหล่าผู้อาวุโสในกงสีที่รังเกียจว่าเธอไม่ใช่คน แนทจึงได้พยายามหาวิธีทำตัวให้มีประโยชน์โดยการปกป้องสุมาลย์และช่วยสู้กับผีต๊อกที่เข้าสิงตู้เย็น (แม้จะถูกผีต๊อกด่ากราดว่า เธอทรยศผีด้วยกันก็ตาม) เธอจึงได้รับหน้าที่ให้ตรวจหา “ผีที่อาจก่อปัญหาเหมือนกับผีต๊อก” ในความฝันของพนักงาน เพื่อนำตัวพนักงานคนนั้นมาช็อตไฟฟ้าเพื่อลบความทรงจำที่มีต่อผีตัวที่อาจก่อปัญหาในอนาคต จนได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัวของมาร์ช และทุกคนก็มองเห็นเธอกลายเป็นคนขึ้นมา มาร์ชจึงไม่จำเป็นต้องถูกช็อตไฟฟ้า แต่เขาก็รับรู้ว่า ภรรยาผีที่กลับมาของเขานั้นกลับดูเปลี่ยนไปจากแต่ก่อน เธอเคยเป็นคนใจดี น่ารัก แต่ตอนนี้ เธอกลับยอมทำในสิ่งที่ผิดเพื่อที่จะได้อยู่กับเขา
ความสามารถของเธอได้รับการเลื่อนขั้นจากท่านรัฐมนตรี โดยเธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ตรวจความฝันของเหล่าบุคคลที่อาจเป็นภัยต่อเขา เยาวชนคนแล้วคนเล่าที่ถูกเธอตรวจความฝันต้องถูกช็อตไฟฟ้าที่สมองอย่างทรมาน และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็คือ ผีต๊อกที่เคยหลอกหลอนคนในโรงงาน ได้กลับใจ เปลี่ยนฝั่งมาเข้าร่วมกับท่านรัฐมนตรีเพื่อเป็นผู้ช่วยของแนทในการเข้าไปตรวจความฝัน เพราะผีต๊อกไม่ต้องการให้ "ปิ่น" คนรักชายของเขาถูกช็อตไฟฟ้าอีก เพราะตอนนี้ปิ่นนั้นอาการแทบเหมือนคนพิการทางสมองและทำได้เพียงทำความสะอาดโรงงานเท่านั้น
ต่อมา ผีแนทได้รับอภิสิทธิ์ให้เธอทำการผสมเทียมไข่ของเธอที่ฝากไว้กับน้ำเชื้อของมาร์ชได้ (เมื่อเธอตายไปแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ในการสั่งผสมเทียมไข่ของเธอกับใครได้ เธอจึงได้อาศัยเส้นสายของเธอที่ท่านรัฐมนตรีได้ให้เอาไว้) ทำให้ตอนนี้เธอมีทารกชายหนึ่งคนกับมาร์ชที่ตอนนี้เริ่มป่วยด้วยอาการไอเรื้อรังเหมือนกับเธอตอนมีชีวิต และทุกคนก็ดูยินดีไปกับเธอด้วยที่เธอสามารถมีลูกชายให้กับครอบครัวของมาร์ชได้สักที แม้เธอจะตายไปแล้วก็ตาม
ต่อมา ผีแนทได้รับเกียรติจากท่านรัฐมนตรี สร้างรูปปั้นเชิดชูความดีที่ได้ช่วยเหลือรัฐบาล แต่ในวันเปิดตัวรูปปั้น มาร์ชกลับถูกรูปปั้นของแนทล้มทับศีรษะจนความจำเสื่อม และก่อนที่ความทรงจำของเขากับแนทจะหายไป ผีแนทกับสุมาลย์ได้พูดเปิดใจต่อกันทุกอย่าง รวมถึงความลับที่สุมาลย์เป็นคนอีสานที่เคยถูกเหยียดหยามจากครอบครัวคนจีนและการที่เธอยังคงพูดคุยกับรูปภาพของสามีของเธอที่เสียชีวิตไปราวกับเขายังมีชีวิตอยู่ โดยสิ่งที่เธอทำนั้นแท้จริงแล้วสะท้อนสิ่งที่ผีแนทกับมาร์ชเป็นทั้งสิ้น สุมาลย์ได้กล่าวขอโทษผีแนทและร้องไห้ต่อความผิดที่เธอก็มีส่วนในการก่อให้เกิดขึ้นมา ฝ่ายผีแนทที่ได้ฟังความจริงทุกอย่างก็ค่อย ๆ หายไปด้วยความโล่งใจ ความเศร้า และเพราะเธอกำลังถูกคนรักของเธอลืมเลือนเธอไปจากความทรงจำ
นี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่ ครอง ชายหนุ่มผมทองปริศนาเล่าให้กะเทยวิชาการฟัง ทำให้กะเทยวิชาการรู้สึกโกรธแค้นต่อสิ่งที่ได้ฟัง และเธอก็ค่อย ๆ รับรู้ว่า แท้จริงแล้ว ครองนั้นเป็นผีและเขาคือหนึ่งในบรรดานักศึกษาที่ต่อต้านรัฐบาลในยุคพฤษภาทมิฬในปีพ.ศ. 2535 ที่ถูกอุ้มฆ่าหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาและนำตัวไปถ่วงน้ำทิ้งที่แม่น้ำโขง และเมื่อเขาได้ตายกลายเป็นผีแล้ว เขาได้เข้าสิงเครื่องดูดฝุ่นที่กะเทยวิชาการซื้อมาและกลับมาเล่าเรื่องราวของเขาและพรรคพวกที่ถูกรัฐบาลทำร้ายเอาไว้ ครองได้ขอให้กะเทยวิชาการอย่าลืมเขาและเรื่องราวทั้งหมดของผู้ได้ต่อสู้เพื่อกระชาชน เขาได้ร่วมรักกับเธอเพื่อเป็นการส่งต่ออุดมการณ์และความคิดไปสู่เธอ
ต่อมา กะเทยวิชาการนั้นได้เดินทางไปที่แม่น้ำโขง เธอได้งมเอาปูนถ่วงข้อเท้าของครองขึ้นมาแล้วทำการหล่อปูนปลาสเตอร์ลงไปในส่วนที่เป็นข้อเท้าของศพ และได้นำเอาไปมอบให้กับท่านรัฐมนตรี จนเขาตกใจมาก แต่แท้จริงแล้ว มันเป็นเพียงความฝันที่ท่านรัฐมนตรีฝันร้ายถึงอดีตที่รัฐบาลได้เคยทำกับประชาชนและเหล่านักศึกษาที่ต่อต้าน
ต่อมาในคืนนึง ที่บรรดาผู้มีตำแหน่งสูงและวงสังคมไฮโซที่นอนแก้ผ้าเกลื่อนกลาดเต็มห้องนอนหลังจากมั่วเซ็กซ์กันจนเหนื่อย บรรดาผีทุกตนที่เคยถูกเขาสั่งฆ่าได้พากันปรากฏขึ้นมาจากสระน้ำและได้เชิญชวนให้สาวรับใช้ที่เป็นสาวอีสานมาร่วมกันลงมือฆ่าเหล่าผู้คนที่มีอิทธิพลเหล่านี้เพื่อแก้แค้นอย่างสาสมในสิ่งที่พวกเขารอคอยที่จะกระทำมาเนิ่นนาน
สามารถอ่านการตีความสัญลักษณ์ทั้งหมดภายในเรื่องได้ในคอมเมนต์นะคะ
👻A Useful Ghost - ผีใช้ได้ค่ะ: ถ้าคุณ "ใช้ไม่ได้" คุณก็กลายเป็น "ผี"👻
กระทู้นี้มีการวิเคราะห์หนังอย่างละเอียดและมีการสปอยล์เนื้อหาของหนังอย่างละเอียด
โดยจะทำการใส่กรอบสปอยล์ปิดเอาไว้ หากใครอยากอ่านสามารถกดอ่านได้
การวิเคราะห์หนังครั้งนี้วิเคราะห์ตามความเป็นจริงของเนื้อหาที่หนังนำเสนอเท่านั้น
-บอกเล่าทุกปัญหาของประเทศไทยจนแทบจับต้นชนปลายไม่ถูก เหมือนกินยำรวมมิตรหรือแกงอะไรสักอย่างที่จับวัตุดิบที่ไม่น่าจะเข้ากันมาผสมรวมกัน แต่กลับออกมาอร่อย แปลกใหม่ และมีประโยชน์ อาจจะสื่อถึงความมั่วซั่วของปัญหาภายในประเทศของเราที่แทบแก้ไขไม่ได้ เพราะมันพันกันยุ่งเหยิงไปหมด
-ไม่ใช่หนังดูง่ายสำหรับคนที่ไม่มีความรู้พื้นฐานด้านการเมืองหรือไม่มีความรู้ด้านการตีความหนัง แต่กลับเป็นหนังดูง่ายสำหรับคนชอบหนังสายรางวัลและติดตามข่าวการเมือง ใครที่ดูรู้จะอ๋อทันทีว่าฉากนี้หมายความว่าอะไร
-จัดว่าเป็นหนังที่มี “ความกล้า” ในการแสดงออกอย่างชัดเจนจนน่ากลัว-ไม่แปลกที่จะชนะรางวัลหนังที่เทศกาลหนังเมืองคานส์
-ไม่ใช่หนังผีที่มีผีออกมาหลอกแว่ น่ากลัว ตกใจ แต่เป็นหนังประเภทหนังอาร์ท หนังรางวัล หนังเสียดสีสังคม ตลกร้าย สะท้อนความจริงของสังคมไทยได้อย่างครบถ้วน
-ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะพาเด็กไปดู เพราะมีฉากร่วมเพศอย่างชัดเจนถึงสองฉาก มีการใช้คำหยาบ มีการพูดถึงเรื่องเพศอย่างชัดเจน มีฉากความรุนแรง มีฉากนองเลือด มีเสียงดนตรีประกอบและเสียงอาวุธปืนดังมาก ๆ
-ใครที่ไม่ชอบเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQAI+ ไม่ควรเข้าไปดู เพราะอาจเกิดความกระอักกระอ่วนใจในขณะรับชมได้
-ทุกฉากที่เครื่องดูดฝุ่นออกมา มีความรู้สึกส่วนตัวว่า น่ารัก เหมือนเครื่องดูดฝุ่นมีชีวิตในเทเลทับบี้ - การ์ตูนวัยเด็กของใครหลาย ๆ คนในยุค 90 หรือต้นยุค 2000
-องค์ประกอบศิลป์และการจัดแสงของหนังเรื่องนี้สวยมากกกก บางฉากเป็นแสงธรรมชาติก็ยังสวย การใช้สีสันและสัญลักษณ์ก็สุดจัด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้