การตั้งธนาคารใหม่ เปลืองงบประมาณในการก่อสร้างอาคาร สถานที่ และเงินเดือนค่าจ้างพนักงาน
- วิธีแก้ง่าย ๆ เร็ว ๆ คือ ออกกฎหมายบังคับให้พระ หรือวัด หรือมูลนิธิที่เกี่ยวเนื่องกับพระ/วัด...เปิดบัญชีธนาคารฝากเงินได้แค่ธนาคารเดียว เหมือนกันทั้งประเทศ...รัฐบาลเลือกเอาเลย จะเอาธนาคารกรุงไทย หรือออมสิน หรือ ธกส...ออกกฎหมายกำหนดเพียง 1 ธนาคารเท่านั้น ให้ทำหน้าที่รับฝากเงินที่เกี่ยวข้องกับพระ/วัด
โดยกำหนดให้ เปิดปัญชีเงินฝากได้ 3 ประเภท และระบุชื่อบัญชีให้ชัดเจน เป็นที่เปิดเผยเจตนา...(สื่อให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ที่ทำบัญชี)
(1) ประเภท 1 บัญชีวัด...บริหารโดย คณะกรรมการวัด 3-5 คน/รูป
(2) ประเภท 2 บัญชีมูลนิธิที่เกี่ยวเนื่องกับวัดหรือพระภิกษุสงฆ์...เช่น บัญชีเงินฝาก มูลนิธิวัด ก. เพื่อการก่อสร้างพระใหญ่ (เมื่อสร้างพระใหญ่เสร็จ ก็ปิดบัญชี), บัญชีมูลนิธิวัด ข. เพื่อเป็นทุนการศึกษาของพระเณร (บัญชีแบบนี้ ให้คงอยู่ได้ตลอด ไม่ต้องปิดบัญชี เพราะมีพระเณรเรียนหนังสือต่อเนื่องหลายรุ่น)...บริหารโดยคณะกรรมการมูลนิธิ 3-5 คน/รูป
(3) ประเภท 3 บัญชีเงินฝากส่วนตัวของพระเณร...สำหรับผู้มีจิตศรัทธาจะบริจาคทำบุญถวายให้พระเณร เป็นการส่วนตัว โดยให้พระเณรใช้วิจารณญาณในการใช้จ่ายได้เลย (เพราะบางคนบริจาคทำบุญแบบไว้เนื้อเชื่อใจพระเณรรูปนั้น...ประสงค์จะทำบุญกับเนื้อนาบุญองค์นั้น รูปนั้น แบบเฉพาะเจาะจงโดยเฉพาะ)
**********
เมื่อทำดังนี้ ดังที่เสนอข้างต้นแล้ว
1. ทำให้รัฐ/สำนักพุทธฯ/มหาเถรสมาคม...ตรวจสอบเงินเข้าเงินออกของพระ, วัด, มูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับวัด/พระ ได้ง่าย
2. ชาวบ้าน เลือกโอนเงินบริจาคทำบุญได้ตามความประสงค์ ว่าจะ (1) ให้วัด (2) ให้มูลนิธิ ไปทำประโยชน์เฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ (3) ให้พระเณร เป็นการส่วนตัวเฉพาะเจาะจง
ไม่จำเป็นต้องตั้งธนาคารพุทธใหม่ แค่ออกกฎหมายบังคับให้วัด/พระ ทำบัญชีฝากเงินได้แค่ธนาคารเดียว ที่รัฐกำหนดเท่านั้น
- วิธีแก้ง่าย ๆ เร็ว ๆ คือ ออกกฎหมายบังคับให้พระ หรือวัด หรือมูลนิธิที่เกี่ยวเนื่องกับพระ/วัด...เปิดบัญชีธนาคารฝากเงินได้แค่ธนาคารเดียว เหมือนกันทั้งประเทศ...รัฐบาลเลือกเอาเลย จะเอาธนาคารกรุงไทย หรือออมสิน หรือ ธกส...ออกกฎหมายกำหนดเพียง 1 ธนาคารเท่านั้น ให้ทำหน้าที่รับฝากเงินที่เกี่ยวข้องกับพระ/วัด
โดยกำหนดให้ เปิดปัญชีเงินฝากได้ 3 ประเภท และระบุชื่อบัญชีให้ชัดเจน เป็นที่เปิดเผยเจตนา...(สื่อให้เห็นถึงวัตถุประสงค์ที่ทำบัญชี)
(1) ประเภท 1 บัญชีวัด...บริหารโดย คณะกรรมการวัด 3-5 คน/รูป
(2) ประเภท 2 บัญชีมูลนิธิที่เกี่ยวเนื่องกับวัดหรือพระภิกษุสงฆ์...เช่น บัญชีเงินฝาก มูลนิธิวัด ก. เพื่อการก่อสร้างพระใหญ่ (เมื่อสร้างพระใหญ่เสร็จ ก็ปิดบัญชี), บัญชีมูลนิธิวัด ข. เพื่อเป็นทุนการศึกษาของพระเณร (บัญชีแบบนี้ ให้คงอยู่ได้ตลอด ไม่ต้องปิดบัญชี เพราะมีพระเณรเรียนหนังสือต่อเนื่องหลายรุ่น)...บริหารโดยคณะกรรมการมูลนิธิ 3-5 คน/รูป
(3) ประเภท 3 บัญชีเงินฝากส่วนตัวของพระเณร...สำหรับผู้มีจิตศรัทธาจะบริจาคทำบุญถวายให้พระเณร เป็นการส่วนตัว โดยให้พระเณรใช้วิจารณญาณในการใช้จ่ายได้เลย (เพราะบางคนบริจาคทำบุญแบบไว้เนื้อเชื่อใจพระเณรรูปนั้น...ประสงค์จะทำบุญกับเนื้อนาบุญองค์นั้น รูปนั้น แบบเฉพาะเจาะจงโดยเฉพาะ)
**********
เมื่อทำดังนี้ ดังที่เสนอข้างต้นแล้ว
1. ทำให้รัฐ/สำนักพุทธฯ/มหาเถรสมาคม...ตรวจสอบเงินเข้าเงินออกของพระ, วัด, มูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับวัด/พระ ได้ง่าย
2. ชาวบ้าน เลือกโอนเงินบริจาคทำบุญได้ตามความประสงค์ ว่าจะ (1) ให้วัด (2) ให้มูลนิธิ ไปทำประโยชน์เฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ (3) ให้พระเณร เป็นการส่วนตัวเฉพาะเจาะจง