สื่อญี่ปุ่นเผย ผู้ผลิตทีวีจีนครองส่วนแบ่งการตลาดของยอดขายทีวีในประเทศญี่ปุ่นเกิน 50%
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
อะไรคือเหตุผลที่จีนเติบโตในตลาดโลกอย่างรวดเร็ว?
.
ในการขายทีวีภายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ผู้ผลิตจีนครองส่วนแบ่งตลาดเกิน 50%
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าจะแซงหน้าผู้ผลิตเกาหลีในตลาดโลกด้วย
ในอีกด้านหนึ่ง พานาโซนิคโฮลดิงส์ ถูกเรียกร้องให้ทบทวนธุรกิจ และการถอนตัวออกไป สภาพความตกต่ำของผู้ผลิตญี่ปุ่นนั้นเห็นได้อย่างเด่นชัด ทั้งที่เมื่อก่อน ทีวีเคยเป็นสินค้าเรือธงของบรรดาผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เหตุใดจึงเกิดความต่างชั้นขนาดนี้ขึ้นมา
.
ฤดูร้อนปีนี้ ที่โตเกียว อากิฮาบาระ ในแผนกขายทีวีของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า
ชายวัย 60 ปีคนหนึ่งกำลังพิจารณาเลือกดูทีวีขนาดใหญ่เพื่อจะซื้อเปลี่ยนใหม่ เขากล่าวว่า
“ผมไม่ได้ยึดติดกับสเปกเท่าไร แต่ขนาดจอเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด และผมก็ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าคุ้มราคาด้วย”
.
ทีวีที่เขากำลังดูอยู่คือทีวีแอลซีดียี่ห้อ“REGZA (เร็กซ่า)” ขนาด 85 นิ้ว ซึ่งราคาเฉลี่ยของโลกในขนาดนี้ลดลงไปกว่า 40% ภายใน 2 ปี (ตามการสำรวจของ Counterpoint Research) ซึ่งก็ยิ่งทำให้การแข่งขันระหว่างผู้ผลิตดุเดือดขึ้นไปอีก เร็กซ่าเป็นแบรนด์ที่โตชิบาเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น แต่ปัจจุบัน “TVS REGZA” (ตั้งอยู่ที่เมืองคาวาซากิ) ซึ่งดูแลตั้งแต่พัฒนาจนถึงจำหน่าย มีบริษัทแม่คือกลุ่มไฮเซนส์ (Hisense Group) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน
.
จำนวนการส่งมอบทีวีในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 4,486,000 เครื่อง ตามผลสำรวจจาก BCN Research ส่วนแบ่งตลาดของไฮเซนส์ครองตลาดผ่านเร็กซ่าประมาณ 25% และผ่านแบรนด์ไฮเซนส์เองประมาณ 16% รวมแล้วประมาณ 41% หากนับรวมกับกลุ่มทีซีแอล (TCL Group) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีนอีกประมาณ 10% ผู้ผลิตจีนสามรายรวมกันจึงครองตลาดเกินครึ่งเป็นครั้งแรก
.
ไฮเซนส์ยังทำธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่น ๆ และรุกขยายไปกว่า 160 ประเทศทั่วโลก
และมีศูนย์วิจัยและพัฒนา 31 แห่งทั่วโลก และยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามแต่ละภูมิภาค เช่น สินค้าสำหรับญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยไฮเซนส์เข้าสู่ตลาดทีวีญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 เมื่อปีที่แล้วส่งมอบทีวีทั่วโลก 29.14 ล้านเครื่อง อยู่ในอันดับ 2 รองจากซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นอันดับ 1
.
พลังขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของไฮเซนส์คือ ความสามารถในการแข่งขัน
ด้านราคาที่จัดหาชิ้นส่วนได้ราคาถูกโดยการใช้ประโยชน์จาก“การประหยัดต่อขนาด
(Economies of Scale)”ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของทีวีคือแผงจอ (panel)
ในประเทศจีน อุตสาหกรรมแอลซีดีของจีนเติบโตขึ้นด้วยเงินอุดหนุนมหาศาลจากรัฐบาลจนครองส่วนแบ่งตลาดโลกถึง 70% ทำให้แผงจอเองก็มีความสามารถในการแข่งขันด้านราคาด้วยเช่นกัน
.
มีความคิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้บ้างคอมเมนท์พูดคุยกันได้ครับ อาจตอบไม่ทุกคอมเมนท์แต่จะพยายามอ่านทั้งหมดครับ ใครถูกใจข่าวนี้ กดไลค์ กดแชร์หรือกดดาวเพื่อเป็นกำลังให้แอดนำเสนอข่าวต่อไปได้ครับ
.
แอดภูเขา
#jdoradic #ญี่ปุ่น #แปลข่าวญี่ปุ่น #ข่าวญี่ปุ่น #ข่าว
#ข่าวสาร
สื่อญี่ปุ่นเผย ผู้ผลิตทีวีจีนครองส่วนแบ่งการตลาดของยอดขายทีวีในประเทศญี่ปุ่นเกิน 50% 📺
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
อะไรคือเหตุผลที่จีนเติบโตในตลาดโลกอย่างรวดเร็ว?
.
ในการขายทีวีภายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ผู้ผลิตจีนครองส่วนแบ่งตลาดเกิน 50%
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าจะแซงหน้าผู้ผลิตเกาหลีในตลาดโลกด้วย
ในอีกด้านหนึ่ง พานาโซนิคโฮลดิงส์ ถูกเรียกร้องให้ทบทวนธุรกิจ และการถอนตัวออกไป สภาพความตกต่ำของผู้ผลิตญี่ปุ่นนั้นเห็นได้อย่างเด่นชัด ทั้งที่เมื่อก่อน ทีวีเคยเป็นสินค้าเรือธงของบรรดาผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า เหตุใดจึงเกิดความต่างชั้นขนาดนี้ขึ้นมา
.
ฤดูร้อนปีนี้ ที่โตเกียว อากิฮาบาระ ในแผนกขายทีวีของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า
ชายวัย 60 ปีคนหนึ่งกำลังพิจารณาเลือกดูทีวีขนาดใหญ่เพื่อจะซื้อเปลี่ยนใหม่ เขากล่าวว่า
“ผมไม่ได้ยึดติดกับสเปกเท่าไร แต่ขนาดจอเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด และผมก็ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าคุ้มราคาด้วย”
.
ทีวีที่เขากำลังดูอยู่คือทีวีแอลซีดียี่ห้อ“REGZA (เร็กซ่า)” ขนาด 85 นิ้ว ซึ่งราคาเฉลี่ยของโลกในขนาดนี้ลดลงไปกว่า 40% ภายใน 2 ปี (ตามการสำรวจของ Counterpoint Research) ซึ่งก็ยิ่งทำให้การแข่งขันระหว่างผู้ผลิตดุเดือดขึ้นไปอีก เร็กซ่าเป็นแบรนด์ที่โตชิบาเป็นผู้ก่อตั้งขึ้น แต่ปัจจุบัน “TVS REGZA” (ตั้งอยู่ที่เมืองคาวาซากิ) ซึ่งดูแลตั้งแต่พัฒนาจนถึงจำหน่าย มีบริษัทแม่คือกลุ่มไฮเซนส์ (Hisense Group) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน
.
จำนวนการส่งมอบทีวีในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 4,486,000 เครื่อง ตามผลสำรวจจาก BCN Research ส่วนแบ่งตลาดของไฮเซนส์ครองตลาดผ่านเร็กซ่าประมาณ 25% และผ่านแบรนด์ไฮเซนส์เองประมาณ 16% รวมแล้วประมาณ 41% หากนับรวมกับกลุ่มทีซีแอล (TCL Group) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีนอีกประมาณ 10% ผู้ผลิตจีนสามรายรวมกันจึงครองตลาดเกินครึ่งเป็นครั้งแรก
.
ไฮเซนส์ยังทำธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่น ๆ และรุกขยายไปกว่า 160 ประเทศทั่วโลก
และมีศูนย์วิจัยและพัฒนา 31 แห่งทั่วโลก และยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามแต่ละภูมิภาค เช่น สินค้าสำหรับญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยไฮเซนส์เข้าสู่ตลาดทีวีญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 เมื่อปีที่แล้วส่งมอบทีวีทั่วโลก 29.14 ล้านเครื่อง อยู่ในอันดับ 2 รองจากซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นอันดับ 1
.
พลังขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของไฮเซนส์คือ ความสามารถในการแข่งขัน
ด้านราคาที่จัดหาชิ้นส่วนได้ราคาถูกโดยการใช้ประโยชน์จาก“การประหยัดต่อขนาด
(Economies of Scale)”ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของทีวีคือแผงจอ (panel)
ในประเทศจีน อุตสาหกรรมแอลซีดีของจีนเติบโตขึ้นด้วยเงินอุดหนุนมหาศาลจากรัฐบาลจนครองส่วนแบ่งตลาดโลกถึง 70% ทำให้แผงจอเองก็มีความสามารถในการแข่งขันด้านราคาด้วยเช่นกัน
.
มีความคิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้บ้างคอมเมนท์พูดคุยกันได้ครับ อาจตอบไม่ทุกคอมเมนท์แต่จะพยายามอ่านทั้งหมดครับ ใครถูกใจข่าวนี้ กดไลค์ กดแชร์หรือกดดาวเพื่อเป็นกำลังให้แอดนำเสนอข่าวต่อไปได้ครับ
.
แอดภูเขา
#jdoradic #ญี่ปุ่น #แปลข่าวญี่ปุ่น #ข่าวญี่ปุ่น #ข่าว
#ข่าวสาร