
.
ยิ่งชีพ ชี้ 3 ข้อกังวล ข้อตกลง ปชน.-ภท. หวั่นทำประชามติสะดุด ข้องใจรีบ ไม่รอศาลรธน.ชี้ชัด 10 ก.ย.
.
เมื่อวันที่ 4 กันยายน นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผอ.ไอลอว์ ให้สัมภาษาณ์ในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” เกี่ยวกับกรร๊ที่ พรรคประชาชน (ปชน.) มีมติโหวตหนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นนายรัฐมนตรีคนที่ 32 โดยพูดถึงประเด็นข้อเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ได้เซ็นร่วมกัน ว่า เชื่อมั่นว่า ปชน.พยายามจะเอากระบวนการนี้เข้ามาเป็นดีลในการตั้งรัฐบาล ซึ่งข้อเสนอและทีโออาร์ที่ออกมามีข้อกังวล 3 ข้อ
.
ข้อเสอนแรก ที่ออกมายังเบามาก แต่พอทีโออาร์ออกมาก็ชัดขึ้น แต่ยังมีปัญหา เพราะมีเงื่อนไขว่าถ้า ศาลรธน.ตัดสินว่า ให้ทำประชามติ 3 ครั้ง ก็จะทำ ถ้าให้ทำ 2 ครั้งก็จะเปิดสภาแก้ 256 เลย แต่วันที่ 10 นี้ ศาลรธน.อาจจะตัดสินอะไรมากกว่านั้นก็ได้ เพราะเวลาตัดสินท่านจะแถม บางทีอาจเสนอความคิดเห็น หรืออาจจะบอกแต่ไม่เคลียร์ เหมือนที่เคยตัดสินในปี 64 ก็ได้
.
ดังนั้นทีโออาร์จึงไม่ได้บอกว่า ถ้าคำวินิจฉัยเป็นแบบอื่นจะทำยังไง มันก็เเปิดช่องให้เบี้ยวง่าย
.
ข้อที่กังวลมากคือ เรื่องตั้งคำถามในการทำประชามติ ภูมิใจไทยรับแล้วว่าจะทำประชามติจัดทำรธน. แต่ไม่ได้คุยว่าจะตั้งคำถามว่าอะไร การตั้งคำถามเป็นอำนาจเต็มของคณะรัฐมนตรี ถ้าตั้งคำถามไม่ดี ถ้าคำถามมีปัญหา คำถามที่ซ้อนทับกันวุ่นวายประชาชนไม่เข้า เกรงว่าจะมีผลให้ประชามติไม่ผ่าน กลัวมากข้อเสนอของปชน ที่ให้ทำประชามติพร้อมเลือกตั้ง
.
ข้อดีคือไม่ต้องไปคูหาหลายรอบ ประหยัดงบ แต่ถ้า ครม.ตอนนั้นเป็น ภท. หรือเป็นครมที่ไม่ต้องการให้ประชามติผ่าน แล้วเขาไม่มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ตั้งคำถามที่มีปัญหา ง่ายมากที่จะเป็นการจงใจทำประชามติให้ไม่ผ่าน หลังจากนั้นก็จะแก้ รธน.ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ อีกเลย
.
ประเด็นสุดท้าย ส.ว. เหมือน ปชน.พยายามหลีกเลี่ยงที่จะชี้ไปว่า ภท.คุม ส.ว.ได้หรือเปลา หรือทำอะไรกับส.ว.ได้บ้า และไม่ได้เขียนไปในทีโออาร์ แปลว่าง่ายมากที่ ภท.จะบอกว่าฉันทำตามทีโออาร์แล้ว แต่คุณไปกระซิบ ส.ว.ให้สุดท้ายโหวตไม่ผ่าน ก็ไม่ผ่านอยู่ดี แล้ว ภท.ก็อ้างทันทีว่า ทำเต็ที่แล้วครับ แต่ ส.ว.ไม่ให้ผ่าน แล้วก็จบ
.
ดังนั้น ทีโออาร์ จึงมีข้อน่ากังวลว่า จะเบี้ยวได้หลายช่องทางมาก
.
นายยิ่งชีพ เผยอีกว่า เงื่อนไขแก้รธน. ยังหลวมมาก ไม่เข้าใจว่าจะรีบทำไม อยากให้รอถึงวันที่ 10 กันยายน วันที่ ศาลรธน.จะวินิจฉัยว่า ถ้าจะแก้รธน. จะต้องยังไง แล้วค่อยเขียนทีโออาร์ให้ล้อไปกับคำวินิจฉัย
.
ที่เห็นข้อตกลงข้อ 2-3 มันยาว เพราะไม่รู้ว่าศาลรธน.จะตัดสินยังไง ก็เลยต้องเขียนให้ครอบคลุมหลายเงื่อนไข แล้วอ่านไม่รู้เรื่อง มันจะง่ายกว่าถ้ารอให้ชัดเจน แล้วค่อยลงรายละเอียดร่วมกันกับ ภท. ว่า ถ้าจะทำประชชามติจะตั้งคำถามยังไง จะมีกติกายังไง ส.ว.จะจัดการยังไง เอาให้ชัดว่ามันจะได้แน่ๆ แล้วค่อยลงมติโหวตนายก ไม่เห็นเสียหายอะไร
.
นายยิ่งชีพกล่าวอีกว่า ไม่รู้ทำไมรีบ วิเคราะห์ได้ทั้งแง่ดีและแง่ร้ายไว้ 2 แบบ แง่ดี คือ หรือบางทีตอนที่พยายามจะประกาศโหวต อนุทิน จริงๆ ไม่ได้อยากประกาศ แต่แค่กดดันให้เพื่อไทยยุบสภา ถ้ายุบสภาเขาจะได้ไม่ต้องโหวต ก็ยื้อๆ กันมาสุดท้าย พท.ก็ยื่นยุบสภาจริง แต่ไม่สำเร็จ
.
ส่วนในแง่ร้าย เขาอาจจะกลัวมากไปหน่อย สุดท้ายถ้าเขาช้า ดีลนี้ไม่เกิดขึ้น เพื่อไทยอาจจะไปจับมือ ภท. ได้เอง หรือ ภท.รวมเสียงได้เอง และอยู่ยาวได้เลยโดยไม่ทำอะไรเกี่ยวกับ รธน.
.
นอกจากนี้ นายยิ่งชีพยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ของคอมเมนต์ ปชน.ว่านอกจากรีบแล้ว เห็นท่าทีและแนวทางการสื่อสารของ ปชน. 2-3 วันที่ผ่ามา มุ่งเน้นอธิบายทีโออาร์ เน้นอธิบายว่าโอกาสที่จะได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย เน้นว่าจะได้รัฐบาลที่คุมได้ ถ้ามีปัญหาก็อภิปรายได้ ถอนได้ แต่พรรคส้มมีความพยายามน้อยมากในการแสดงออกว่า เขาก็ลำบากใจ และไม่ได้อยากโหวตอนุทิน
.
พิรุธคือ การรีบและแสดงออกน้อย ทำให้เดาได้ว่าข้างหลังคงคุยกันหวานมาก คุยกันรู้เรื่อง ดีลโอเค รู้สึกว่ามั่นใจมาก ว่าเซ็นไปเขาทำได้
.
ส่วนที่ส่งผลกระทบมากคือ คนผิดหวังเยอะ คนที่เคยมีความหวังกับพรรคนี้ 2-3 วันที่ผ่านมา มีท่าทีแบบนี้ก็คิดว่าเสียคะแนนเยอะ จากกาตัดสินใจของส้ม มีโอกาสสูงจะเป็นการนับถอยหลังของ ปชน. และจะทำให้คนที่เคยเชียร์พรรคนี้ ที่มีแรง มีความหวังกับการเมือง ก็อาจจะยังโหวตอยู่ แต่ความหวังไม่มีแล้ว การเมืองมันไม่สนุกแล้ว เป็นการเมืองที่ใครอยู่ในสภาไปดีลไปนับเลข มันไม่เหมือนแบบ 2-3 ปีที่ผ่านมาที่เขาล็อกๆ ไม่ดีล ไม่ถอย ไปแพ้ก็โหวต
.
.
.
“เท้ง ณัฐพงษ์” ขอความชัดเจน “ภูมิธรรม” หาก “ยุบสภา” ยังไม่จบ สภาฯ ยังไม่ควรเลือก “นายกฯ” คนใหม่
https://news.ch7.com/detail/825185
.
“เท้ง ณัฐพงษ์” เรียกร้องพรรคการเมือง ถอนฟ้องคดีอาญา “ภูมิธรรม” กรณียื่น “ยุบสภา” และ ไม่ควรเลือก “นายกฯ” คนใหม่ หากกระบวนการ “ยุบสภา” ยังไม่จบ
.
วันนี้ (4ก.ย.68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร แถลงข่าว ขอความชัดเจนกรณีการทูลเกล้าฯ ยุบสภาจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี
.
โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชน มีจุดยืนแน่วแน่ว่า ฝ่ายบริหารมีอำนาจเต็มในการยุบสภา จึงขอความชัดเจนจากนายภูมิธรรมว่า กระบวนการยุบสภาได้สิ้นสุดลงแล้วหรือไม่ หากกระบวนการยังดำเนินอยู่ ตนเองในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เห็นว่ าประธานสภาฯ ควรทบทวนการบรรจุญัตติการโหวตนายกฯ จนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องยุบสภา แต่หากรัฐบาลยืนยันว่า กระบวนการสิ้นสุดแล้ว สภาผู้แทนราษฎร จะได้ดำเนินการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป
.
“พรรคเพื่อไทยมีความย้อนแย้งในตัวเอง ด้านหนึ่งมีข่าวออกมาว่าเตรียมเสนอแคนดิเดตนายก แต่กลับมีกระแสข่าวว่ายังดำเนินการในการยุบสภาอยู่ ผมจึงต้องเรียกร้องขอความชัดเจนจากคุณภูมิธรรม ว่าตกลงได้ยุติเรื่องการยุบสภาแล้วหรือไม่ อย่างไร” นาย ณัฐพงษ์ กล่าว
.
ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วย กรณีที่มีพรรคการเมือง แจ้งความดำเนินคดีทางอาญากับนายภูมิธรรม กรณีการทูลเกล้าฯ ยุบสภา และได้เรียกร้องให้พรรคการเมืองดังกล่าว ดำเนินการถอนคำกล่าวโทษ เพื่อให้ทุกฝ่ายเดินหน้าหาทางออกให้ประเทศ โดยไม่มีการใช้กฎหมายทำลายล้างกันทางการเมือง หรือที่เรียกว่า “นิติสงคราม” ไม่ว่าต่อฝ่ายใดก็ตาม
.
.
โรม ขอโทษทำผิดหวัง โหวต ‘อนุทิน’ ชี้ตัดสินใจยากที่สุด อยากยุบสภาแต่ปท.ต้องเดินหน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_5353733
.
‘โรม’ ขอโทษทำผิดหวังโหวต ‘อนุทิน’ นั่งนายกฯ ชี้เป็นจุดที่ตัดสินใจยากที่สุด ใจจริงไม่อยากเลือกใคร อยากยุบสภาแต่ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ไม่เห็นด้วยใช้นิติสงคราม
.
เมื่อวันที่ 4 กันยายน นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ตนเองยังไม่อยากให้การบ้านนาย
อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ขอให้ได้เป็นนายกฯ จริงก่อน เพราะตอนนี้มีสถานการณ์ที่ต้องยอมรับว่าสรุปเรื่องยุบสภาเป็นอย่างไร ตนเองเห็นตามหน้าข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยื่นยุบสภา แต่ปัญหาคือมีการตีตก ซึ่งหากมีตกจริง ตีตกด้วยสาเหตุอะไร
.
ตนเองยืนยันว่านาย
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการเลื่อนยุบสภา เรื่องนี้มีการถกเถียงในข้อกฎหมาย บางฝ่ายมองว่ายุบได้บางฝ่ายมองว่ายุบไม่ได้ ถ้ายุบไม่ได้ก็ต้องประกาศให้ชัด จะได้มีการเลือกนายก
.
วันนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่านาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ รับทราบเรื่องนี้แล้วจึงบรรจุวาระเลือกนายกฯ คนใหม่ในวันพรุ่งนี้ แต่เรายังอยากได้ความชัดเจนว่ากระบวนการยุบสภาจบแล้วใช่หรือไม่ ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้แล้วใช่หรือไม่
.
ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายชัย
เกษม นิติสิริ แข่งกับพรรคภูมิใจไทย นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนาย
ชัยเกษมเท่ากับว่ากระบวนการยุบสภาจบแล้วใช่หรือไม่ พรรคประชาชนอยากให้มีการตั้งหลักให้ชัดเจน เราเรียกร้องมาโดยตลอดว่าเราอยากเห็นการยุบสภา หากมีการยุบสภาตามข้อเรียกร้องของพรรคประชาชน ปัญหาหลายอย่างจะไม่เกิดขึ้น
.
สิ่งที่เรากลัวที่สุดเรื่องที่ความพยายามในการสร้างสถานการณ์ให้บุคคลภายนอกเข้ามาอาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นตนเองก็เป็นห่วง พรรคประชาชนจึงต้องหาทางออกและจะไม่ปล่อยให้ประเทศถึงทางตัน อย่างไรก็ตามยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงในการโหวตเลือกนายกฯ ยังจะเลือกนาย
อนุทิน ตามที่ นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนลงนามใน TOA แต่เราไม่เห็นด้วยกับการใช้นิติสงครามเช่นนี้ เพราะไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนที่เมื่อวานนี้พรรคภูมิใจไทยไม่อยู่เป็นองค์ประชุมให้ในร่างกฎหมายของภาคประชาชน เป็นเรื่องที่เราต้องคุยกัน เราคาดหวังว่าทุกฝ่ายจะช่วยให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านไปได้ จึงรู้สึกผิดหวังที่ไม่มีการลงมติ
.
เมื่อถามถึงกรณีที่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์กับการที่พรรคประชาชนโหวตนายอนุทินเป็นนายกฯ นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่าตนเองเข้าใจในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองของมวลชน คงต้องยอมรับในข้อพิพากษ์วิจารณ์ เราอยากให้ประชาชนสนับสนุนต่อไป เราเข้าใจดีว่า ประชาชนจำนวนมากมีจุดยืนของตนเอง และมีความคาดหวังต่อพรรคประชาชน จุดที่เรากำลังยืนอยู่ เป็นจุดที่เรากังวลว่ามันจะเกิดขึ้น เป็นจุดที่เราไม่อยากให้เป็นแต่เมื่อมันมาถึงก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เราไม่ได้อยากจะไปเลือกให้ใครเป็นนายกฯ อยากให้เลือกยุบสภา เป็นสิ่งที่ดีที่สุดและคลี่คลายความขัดแย้งได้ แต่เมื่อเราไม่ใช่คนเดียวที่จะมีอำนาจตัดสินใจก็ต้องหาทางออกให้กับประเทศ ไม่เช่นนั้นอาจจะมีบุคคลอื่นที่ใช้โอกาสนี้ในการเข้ามา อาจจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายกับประเทศชาติ จึงต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
JJNY : ยิ่งชีพชี้ 3 ข้อกังวลข้อตกลง ปชน.-ภท.│“เท้ง”ขอความชัดเจน“ภูมิธรรม”│โรมขอโทษทำผิดหวัง│หนองจานเดือด ประจันหน้าทหาร
https://www.matichon.co.th/politics/news_5353654
.
.
.
.
วันนี้ (4ก.ย.68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร แถลงข่าว ขอความชัดเจนกรณีการทูลเกล้าฯ ยุบสภาจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี
.
โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชน มีจุดยืนแน่วแน่ว่า ฝ่ายบริหารมีอำนาจเต็มในการยุบสภา จึงขอความชัดเจนจากนายภูมิธรรมว่า กระบวนการยุบสภาได้สิ้นสุดลงแล้วหรือไม่ หากกระบวนการยังดำเนินอยู่ ตนเองในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เห็นว่ าประธานสภาฯ ควรทบทวนการบรรจุญัตติการโหวตนายกฯ จนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องยุบสภา แต่หากรัฐบาลยืนยันว่า กระบวนการสิ้นสุดแล้ว สภาผู้แทนราษฎร จะได้ดำเนินการเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป
.
“พรรคเพื่อไทยมีความย้อนแย้งในตัวเอง ด้านหนึ่งมีข่าวออกมาว่าเตรียมเสนอแคนดิเดตนายก แต่กลับมีกระแสข่าวว่ายังดำเนินการในการยุบสภาอยู่ ผมจึงต้องเรียกร้องขอความชัดเจนจากคุณภูมิธรรม ว่าตกลงได้ยุติเรื่องการยุบสภาแล้วหรือไม่ อย่างไร” นาย ณัฐพงษ์ กล่าว
.
ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วย กรณีที่มีพรรคการเมือง แจ้งความดำเนินคดีทางอาญากับนายภูมิธรรม กรณีการทูลเกล้าฯ ยุบสภา และได้เรียกร้องให้พรรคการเมืองดังกล่าว ดำเนินการถอนคำกล่าวโทษ เพื่อให้ทุกฝ่ายเดินหน้าหาทางออกให้ประเทศ โดยไม่มีการใช้กฎหมายทำลายล้างกันทางการเมือง หรือที่เรียกว่า “นิติสงคราม” ไม่ว่าต่อฝ่ายใดก็ตาม
.
โรม ขอโทษทำผิดหวัง โหวต ‘อนุทิน’ ชี้ตัดสินใจยากที่สุด อยากยุบสภาแต่ปท.ต้องเดินหน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_5353733
.
‘โรม’ ขอโทษทำผิดหวังโหวต ‘อนุทิน’ นั่งนายกฯ ชี้เป็นจุดที่ตัดสินใจยากที่สุด ใจจริงไม่อยากเลือกใคร อยากยุบสภาแต่ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ไม่เห็นด้วยใช้นิติสงคราม
.
เมื่อวันที่ 4 กันยายน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ตนเองยังไม่อยากให้การบ้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ขอให้ได้เป็นนายกฯ จริงก่อน เพราะตอนนี้มีสถานการณ์ที่ต้องยอมรับว่าสรุปเรื่องยุบสภาเป็นอย่างไร ตนเองเห็นตามหน้าข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยื่นยุบสภา แต่ปัญหาคือมีการตีตก ซึ่งหากมีตกจริง ตีตกด้วยสาเหตุอะไร
.
ตนเองยืนยันว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการเลื่อนยุบสภา เรื่องนี้มีการถกเถียงในข้อกฎหมาย บางฝ่ายมองว่ายุบได้บางฝ่ายมองว่ายุบไม่ได้ ถ้ายุบไม่ได้ก็ต้องประกาศให้ชัด จะได้มีการเลือกนายก
.
วันนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่านายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ รับทราบเรื่องนี้แล้วจึงบรรจุวาระเลือกนายกฯ คนใหม่ในวันพรุ่งนี้ แต่เรายังอยากได้ความชัดเจนว่ากระบวนการยุบสภาจบแล้วใช่หรือไม่ ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้แล้วใช่หรือไม่
.
ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แข่งกับพรรคภูมิใจไทย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายชัยเกษมเท่ากับว่ากระบวนการยุบสภาจบแล้วใช่หรือไม่ พรรคประชาชนอยากให้มีการตั้งหลักให้ชัดเจน เราเรียกร้องมาโดยตลอดว่าเราอยากเห็นการยุบสภา หากมีการยุบสภาตามข้อเรียกร้องของพรรคประชาชน ปัญหาหลายอย่างจะไม่เกิดขึ้น
.
สิ่งที่เรากลัวที่สุดเรื่องที่ความพยายามในการสร้างสถานการณ์ให้บุคคลภายนอกเข้ามาอาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นตนเองก็เป็นห่วง พรรคประชาชนจึงต้องหาทางออกและจะไม่ปล่อยให้ประเทศถึงทางตัน อย่างไรก็ตามยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงในการโหวตเลือกนายกฯ ยังจะเลือกนายอนุทิน ตามที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนลงนามใน TOA แต่เราไม่เห็นด้วยกับการใช้นิติสงครามเช่นนี้ เพราะไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนที่เมื่อวานนี้พรรคภูมิใจไทยไม่อยู่เป็นองค์ประชุมให้ในร่างกฎหมายของภาคประชาชน เป็นเรื่องที่เราต้องคุยกัน เราคาดหวังว่าทุกฝ่ายจะช่วยให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านไปได้ จึงรู้สึกผิดหวังที่ไม่มีการลงมติ
.
เมื่อถามถึงกรณีที่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์กับการที่พรรคประชาชนโหวตนายอนุทินเป็นนายกฯ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าตนเองเข้าใจในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองของมวลชน คงต้องยอมรับในข้อพิพากษ์วิจารณ์ เราอยากให้ประชาชนสนับสนุนต่อไป เราเข้าใจดีว่า ประชาชนจำนวนมากมีจุดยืนของตนเอง และมีความคาดหวังต่อพรรคประชาชน จุดที่เรากำลังยืนอยู่ เป็นจุดที่เรากังวลว่ามันจะเกิดขึ้น เป็นจุดที่เราไม่อยากให้เป็นแต่เมื่อมันมาถึงก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เราไม่ได้อยากจะไปเลือกให้ใครเป็นนายกฯ อยากให้เลือกยุบสภา เป็นสิ่งที่ดีที่สุดและคลี่คลายความขัดแย้งได้ แต่เมื่อเราไม่ใช่คนเดียวที่จะมีอำนาจตัดสินใจก็ต้องหาทางออกให้กับประเทศ ไม่เช่นนั้นอาจจะมีบุคคลอื่นที่ใช้โอกาสนี้ในการเข้ามา อาจจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายกับประเทศชาติ จึงต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด