ฉาววงการผ้าเหลือง! 3 เด็กชายไปช่วยงานที่วัด ถูกพระล่วงละเมิดทางเพศ

โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดพิจิตร เห็นอาการผิดปกติของเด็ก และได้ยินการพูดกันในหมู่นักเรียนว่า มีพระรูปหนึ่ง ทำอนาจารเด็กชายถึง 3 คน ด้วยการหลอกให้ไปช่วยทำงานที่วัด พร้อมให้นอนที่กุฏิ พอตกกลางคืนก็ทำอนาจารเด็ก และให้แก้วน้ำเก็บความเย็นเป็นของล่อใจ ทำให้ผู้ปกครองและครูต้องพาเด็กจำนวน 2 คนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้ปกครองยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

เด็กชาย เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับพระรูปนี้ เพราะตนเองไปที่วัดและพระก็ให้ช่วยทำงาน เช่น ล้างจาน กวาดลานวัด พอกลางคืนตนเองก็นอนที่วัด และพระก็เข้ามาถอดกางเกงตนเอง แต่ตนเองรู้สึกตัวจึงรีบวิ่งหนีไปที่ห้องน้ำ และไม่อยู่ใกล้พระรูปนี้อีก หลังจากนั้นตนเองก็ไปนอนที่วัดอีก แต่คราวนี้พระได้ไปแก้ผ้าเพื่อนอีกคน และพยายามสอดใส่อวัยวะเพศไปที่เพื่อน ส่วนสาเหตุที่เพื่อนไม่หนี เพราะพระตัวใหญ่กว่ามาก

ส่วนพี่ชายของเด็กชาย เล่าว่า ตนเองถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตอนไปเที่ยวสวนทุเรียนกับพระ 3 รูป และเพื่อนอีก 4 คน โดยเวลานอนก็แยกกันนอน ตนเองนอนกับพระรูปนี้ พอตนเองข่มตาหลับ พระก็มาถอดกางเกงตนเองและพยายามสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไป หลังจากนั้นพระก็ทำอีกหลายครั้ง จนอวัยวะเพศตนเองติดเชื้อและเป็นหนอง ต้องรักษาตัวอยู่นาน

ด้านป้าของเด็กชาย เปิดเผยว่า ตอนที่พระมาขอให้หลานไปช่วยงานที่วัด ตนก็คิดว่าพระน่าจะเอ็นดูและรักหลานเรา จึงได้อนุญาตให้หลานไปที่วัด ประกอบกับตนเป็นคนของวัด ไปถือศีลที่วัดประจำจึงไว้ใจ และไม่เคยคิดว่าพระจะทำกับลูกหลานแบบนี้ หลังจากนี้ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและจะไม่ยอมความ

ด้านครูฝ่ายปกครอง เผยว่า ทราบเรื่องเนื่องจากครูไปได้ยินเด็กคุยกัน จึงนำตัวมาสอบถามความจริงแต่เด็กก็ไม่กล้าบอก จึงค่อยๆ สอบถาม และเมื่อรู้ความจริงจึงได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ นอกจากนั้นพระรูปดังกล่าวยังจะขอเข้ามาสอนวิชาธรรมะในโรงเรียน แต่ตนเองเป็นคนในหมู่บ้านและทราบพฤติกรรมมาบ้าง จึงให้ผู้อำนวยการปฏิเสธไปก่อนที่จะมีเรื่องนี้ขึ้นมา และจากการสอบถามก็ทราบว่าเด็กอีกคนที่ไม่ไปแจ้งความ เคยโดนกระทำมากกว่าเด็กที่เข้าแจ้งความ จนตอนนี้มีอาการเครียด กลัว และกังวล

ด้านเจ้าอาวาส เผยว่า อาตมาไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่เคยทราบพฤติกรรมของพระรูปนี้มาก่อน และจากการสอบถาม พระก็ปฏิเสธถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขอบคุณแหล่งที่มา โหนกระแส
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่