แผนแม่บททางหลวง 12 สาย 6731 กิโลเมตร (28 กุมภาพันธ์ 2540)

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
กระทู้สนทนา
สุขวิชโนมิกส์: แผนแม่บททางหลวง 12 สาย 6731 กิโลเมตร (28 กุมภาพันธ์ 2540)/ Sukavichinomics: The 1997 Asian Expressways Master Plan in Thailand 6731 Kilometers (28 February 1997)


บทคัดย่อ 
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 คณะรัฐมนตรีไทยได้อนุมัติแผนแม่บททางด่วนแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยเส้นทางยุทธศาสตร์จำนวน 12 สาย รวมระยะทางทั้งสิ้น 6,731 กิโลเมตร แผนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อบูรณาการโครงข่ายทางด่วนของประเทศไทยเข้ากับโครงข่ายทางหลวงสายเอเชีย (Asian Highway) เพื่อเพิ่มความเชื่อมโยงระดับภูมิภาค และเชื่อมต่ออย่างมีประสิทธิภาพไปยังประเทศเพื่อนบ้านและด่านชายแดนของไทย
แผนโครงสร้างพื้นฐานฉบับนี้ยังเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเส้นทางขนส่งหลายรูปแบบ (multi-modal corridors) เช่น เส้นทางแนวตะวันออก–ตะวันตก ตลอดจนเส้นทางภาคเหนือและภาคใต้ โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ การค้าชายแดน และการเคลื่อนย้ายแรงงานและประชากรทั้งภายในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน การจัดทำแผนแม่บทปี 2540 ภายใต้หลักคิดสุขวิชโนมิกส์ จึงถือเป็นการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บทนำ 
ในช่วงปลายทศวรรษ 2530 และต้นทศวรรษ 2540 ประเทศไทยอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว การขยายตัวของเมืองและภาคอุตสาหกรรมเกิดขึ้นอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อย่างไรก็ตาม ความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐานระหว่างภูมิภาคยังคงเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายนี้ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้เสนอแนวคิด “สุขวิชโนมิกส์” ซึ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการทั่วประเทศ ผ่านการสร้างเครือข่ายทางด่วนยุทธศาสตร์ที่จะเชื่อมโยงเมืองหลัก เมืองรอง และด่านชายแดน โดยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแผนแม่บททางด่วนแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย 12 เส้นทาง ระยะทางรวม 6,731 กิโลเมตร
แผนนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการเชื่อมต่อระดับประเทศและภูมิภาค โดยสอดคล้องกับโครงการทางหลวงสายเอเชีย (Asian Highway) และการพัฒนาเส้นทางเศรษฐกิจในกรอบความร่วมมืออาเซียนและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ถือเป็นรากฐานของการวางระบบโลจิสติกส์อันทันสมัย ที่จะช่วยกระตุ้นการค้า การลงทุน และการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง

บทวรรณกรรมปริทัศน์ 
การพัฒนาแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในประเทศไทยช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในแวดวงวิชาการและนโยบายมาโดยตลอด หลายงานวิจัยได้ชี้ให้เห็นถึงบทบาทของเครือข่ายทางด่วนในการผลักดันการพัฒนาประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำของภูมิภาค และส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
งานของ รังสิตพล (2540) เป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมโยงกับกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาค เช่น โครงการทางหลวงสายเอเชีย (Asian Highway) ซึ่งสามารถยกระดับขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ
รายงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ยังได้เน้นย้ำถึงผลตอบแทนระยะยาวของทางด่วน เช่น การลดต้นทุนโลจิสติกส์ การประหยัดเวลา และการขยายตลาด
ทั้งนี้ บทเรียนจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก็สะท้อนให้เห็นว่าการวางระบบทางด่วนที่ดีช่วยกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจออกจากเมืองหลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน นักวิชาการรุ่นใหม่อย่าง มณีกุล (2568) ได้นำแนวคิด “สุขวิชโนมิกส์” กลับมาพิจารณาอีกครั้งในฐานะแนวคิดพัฒนาแบบยั่งยืน ที่ให้ความสำคัญกับทั้งเศรษฐกิจ สังคม และความเชื่อมโยงทางภูมิรัฐศาสตร์
แผนแม่บทปี 2540 จึงไม่ได้เป็นเพียงโครงการคมนาคม แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนทัศน์เชิงพัฒนา ที่มอง “ถนน” เป็นเครื่องมือแห่งการเปลี่ยนแปลง การเชื่อมโยง และการบูรณาการระดับภูมิภาค

ระเบียบวิธีวิจัย 
งานวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ โดยอาศัยการวิเคราะห์เอกสาร (Document Analysis) และการทบทวนนโยบายในเชิงประวัติศาสตร์ แหล่งข้อมูลหลัก ได้แก่ มติคณะรัฐมนตรี เอกสารการศึกษาความเป็นไปได้จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และเอกสารแผนงานจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พร้อมทั้งข้อมูลรองจากวิทยานิพนธ์ รายงานด้านการขนส่งระดับภูมิภาค และเอกสารยุทธศาสตร์จากองค์การระหว่างประเทศ เช่น JICA และ ESCAP
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Thematic Analysis) เพื่อระบุเป้าหมายหลัก หลักการสำคัญ และวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ที่ฝังอยู่ในแผนแม่บทปี 2540 โดยให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงระหว่างเส้นทางทางด่วนที่เสนอไว้ กับกรอบโครงสร้างพื้นฐานระดับนานาชาติ โดยเฉพาะโครงการทางหลวงสายเอเชีย (Asian Highway Network)
นอกจากนี้ งานวิจัยยังใช้วิธีศึกษาแบบกรณีศึกษา (Case Study) เพื่อวิเคราะห์ปรัชญา “สุขวิชโนมิกส์” และศึกษาว่า นโยบายโครงสร้างพื้นฐานสามารถเป็นกลไกขับเคลื่อนการบูรณาการระดับประเทศ ความเท่าเทียมของภูมิภาค และบทบาททางภูมิรัฐศาสตร์ของไทยในอาเซียนได้อย่างไร

การวิเคราะห์ (Analysis)
การวิเคราะห์แผนแม่บททางหลวง 12 สาย พ.ศ. 2540 ภายใต้ปรัชญา “สุขวิชโนมิกส์” แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการใช้โครงสร้างพื้นฐานเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการพัฒนาแบบองค์รวม ไม่ใช่เพียงเพื่อการเดินทางที่รวดเร็ว แต่เพื่อการเชื่อมโยงระดับประเทศและภูมิภาคในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และภูมิรัฐศาสตร์

โครงข่ายทางหลวงเชิงยุทธศาสตร์เส้นทางทั้ง 12 สาย รวมระยะทางกว่า 6,731 กิโลเมตร ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับเครือข่ายทางหลวงสายเอเชีย (Asian Highway) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเชื่อมต่อระดับทวีป เส้นทางเหล่านี้มุ่งเน้นการเชื่อมโยงเมืองหลัก ท่าเรือ เขตเศรษฐกิจ และจุดผ่านแดน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยายตัวของการค้าและการลงทุนในภูมิภาค

การขับเคลื่อนการบูรณาการทางเศรษฐกิจเส้นทางที่เชื่อมต่อชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย แสดงถึงการเตรียมความพร้อมของไทยต่อการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และส่งเสริมให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเคยถูกละเลยในอดีต
มิติความเท่าเทียมของภูมิภาคโครงข่ายถนนที่กระจายไปยังทุกภูมิภาคของประเทศสะท้อนถึงเป้าหมายในการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัด และเปิดโอกาสให้เมืองระดับรองสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับเมืองหลวง

สุขวิชโนมิกส์: จากแนวคิดสู่โครงสร้างปรัชญา “สุขวิชโนมิกส์” ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดเชิงนามธรรม แต่ถูกถ่ายทอดอย่างเป็นรูปธรรมผ่านแผนโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเน้น “การพัฒนาเพื่อคนทั้งประเทศ” โดยคำนึงถึงมิติด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง การพัฒนาเมือง และการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
การวางรากฐานสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่แม้หลายโครงการในแผนปี 2540 จะเผชิญอุปสรรคจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในปีเดียวกัน แต่แผนนี้ได้วางแนวทางการพัฒนาที่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และเป็นจุดเริ่มต้นของการคิดเชิงระบบด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการในประเทศไทย

อภิปรายผลและผลลัพธ์
การดำเนินการภายใต้แผนแม่บททางหลวงสายเอเชียปี 2540 สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดเชิงยุทธศาสตร์ของ “สุขวิชโนมิกส์” ที่มองโครงสร้างพื้นฐานไม่ใช่แค่ระบบคมนาคม แต่คือเครื่องมือในการยกระดับเศรษฐกิจ สังคม และภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศไทยในระยะยาว

การบูรณาการระดับภูมิภาคแผนแม่บทนี้ช่วยปูทางสู่การบูรณาการกับเครือข่ายทางหลวงสายเอเชีย (Asian Highway Network) และสนับสนุนกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาค เช่น ACMECS และ AEC โดยมีเส้นทางที่มุ่งสู่พรมแดนเมียนมา ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน

โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการกระจายความเจริญด้วยการวางแนวเส้นทางให้ครอบคลุมภูมิภาคต่าง ๆ แผนนี้ช่วยลดช่องว่างระหว่างเมืองหลวงกับภูมิภาค และกระตุ้นการลงทุน การค้า และการเดินทางในจังหวัดชายแดนและพื้นที่ห่างไกล ทำให้เกิด “เมืองเศรษฐกิจใหม่” ที่พึ่งพาตนเองได้มากขึ้น

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงบางส่วนแม้ว่าวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 จะส่งผลให้การดำเนินงานบางส่วนล่าช้า แต่เส้นทางบางสาย เช่น ถนนมิตรภาพ เส้นทางเชื่อมตะวันออก-ตะวันตก และทางหลวงในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ก็ได้รับการพัฒนาในภายหลัง โดยอิงแนวทางของแผนแม่บทเดิม

สุขวิชโนมิกส์ในฐานะแนวคิดนำยุคแนวคิดของสุขวิชโนมิกส์ในแผนปี 2540 ยังคงส่งอิทธิพลมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในการกำหนดทิศทางของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์แห่งชาติ แผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และนโยบายขนส่งทางถนนที่เน้นการเชื่อมโยงภูมิภาค

ผลทางเชิงนโยบายแผนนี้ไม่เพียงมีผลในเชิงกายภาพ แต่ยังส่งผลต่อวาทกรรมการพัฒนาของไทย โดยเปลี่ยนมุมมองจาก “กรุงเทพเป็นศูนย์กลาง” ไปสู่การพัฒนาแบบกระจายอำนาจที่เน้นความเชื่อมโยงและความเท่าเทียมของทุกภูมิภาค

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่