Box Office ของญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดหนังที่ค่อนข้างแปลกและไม่เหมือนใครในโลกนั้นน่าสนใจไม่แพ้ Box Office ในอเมริกาหรือจีน เรื่องรายได้อาจจะไม่ตื่นเต้นเท่า แต่เราจะได้เห็นภาพยนตร์ภายในประเทศครองตลาดได้เท่าเทียมหรือเหนือกว่าภาพยนตร์ Hollywood ด้วยซ้ำ และเราจะได้เห็นภาพยนตร์ Animation ได้รับความนิยมมากกว่าภาพยนตร์ Live-Action ชนิดเทียบกันไม่ได้
รวมทั้งภาพยนตร์ Hollywood ที่อาจจะเข้าฉายช้ากว่าในอเมริกานานหลายเดือน เนื่องจากญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องการแอบชมแบบละเมิดลิขสิทธิ์ต่ำมาก หนัง Hollywood จึงสามารถจัดเวลาเข้าโรงหลีกหนังเต็งๆของเจ้าถิ่นไปลงในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องยึดติดกับเวลาในการฉายที่อเมริกา กลับตาลปัตรกับในประเทศไทยที่หนังไทยต้องสับรางหาเวลาที่เหมาะสมหลีกเลี่ยงหนัง Hollywood เอง เราจึงมักจะได้เห็นหนังไทยเรื่องเต็งๆไปฉายเดือนกุมภาพันธ์, เมษายน หรือกันยายน-ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่หนัง Hollywood ไม่ค่อยมีหนังฟอร์มใหญ่ออกฉายกันแทบทั้งนั้น
1. 劇場版「鬼滅の刃」無限城編 第一章 猗窩座再来 (gekijou-ban kimetsu no yaiba mugen jouhen dai-isshou akaza sairai) / Demon Slayer -kimetsu no yaiba- The Movie: Infinity Castle - Part 1: Akaza Returns
รายได้สุดสัปดาห์ = 1,095 ล้านเยน
รายได้รวม = 29,983 ล้านเยน
คนไทยรู้จักกันดีสำหรับดาบพิฆาตอสูรภาคปราสาทไร้ขอบเขต ซึ่งตอนนี้คือตอนที่ 1 จากที่วางแผนไตรภาคเอาไว้ ปัจจุบันดาบภาคปราสาทตอนที่ 1 ก็ทำเงินไปแล้ว 29,983 ล้านเยนเมื่อถึงวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม (และทำเงินผ่านหลัก 3 หมื่นล้านเยนไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 1 กันยายน) หลังจากฉายมาแล้ว 7 สุดสัปดาห์ และกำลังบี้กับดาบภาครถไฟนิรันดร์เพื่อชิงตำแหน่งภาพยนตร์ทำเงินสูงที่สุดตลอดกาลของญี่ปุ่นอย่างสูสี
2. 8番出口 (hachi-ban deguchi) / Exit 8
รายได้สุดสัปดาห์ = 672 ล้านเยน
รายได้รวม = 672 ล้านเยน
ภาพยนตร์ Psychological Horror ที่สร้างจากเกม Adventure ฮิตของญี่ปุ่นในปี 2023 ที่เคยฉายเปิดตัวรอบ Midnight ในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีนี้เอง โดยหนังเป็นเรื่องราวชายที่ติดอยู่ในอุโมงค์สถานีรถไฟใต้ดินที่ไม่มีจุดสิ้นสุด เค้าต้องหาทางไปให้ถึงประตูทางออกหมายเลข 8 โดยทำตามภารกิจต่างๆให้ได้ หากทำไม่สำเร็จก็ถูกส่งกลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง
3. 国宝 (kokuhou) / Kokuho (National Treasure)
รายได้สุดสัปดาห์ = 490 ล้านเยน
รายได้รวม = 12,490 ล้านเยน
ภาพยนตร์แห่งปรากฎการณ์ของญี่ปุ่นในปีนี้อย่างแท้จริง Kokuho ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 13 ไป 490 ล้านเยน ทำให้รายได้รวมในปัจจุบันสูงถึง 12,490 ล้านเยนแล้ว นับเป็นภาพยนตร์ Live-Action เรื่องแรกของญี่ปุ่นที่ทำรายได้มากกว่า 1 หมื่นล้านเยนในรอบ 22 ปี และตอนนี้ก็ค่อนข้างจะแน่นอนว่า Kokuho จะทำรายได้ถึงหลัก 15,000 อย่างแน่นอน ไล่ล่าสถิติภาพยนตร์ Live-Action ของญี่ปุ่นที่ทำเงินสูงสุดคือ 17,350 ล้านเยนที่ Bayside Shakedown 2 ทำเอาไว้เมื่อปี 2003 ต่อไป
4. 劇場版 TOKYO MER~走る緊急救命室~南海ミッション (gekijou-ban Tokyo MER hashiru kinkyuu kyuumei-shitsu nankai misshion) / Tokyo MER: Mobile Emergency Room – The Movie 2: Nankai Mission
รายได้สุดสัปดาห์ = 219 ล้านเยน
รายได้รวม = 4,300 ล้านเยน
หลายคนน่าจะได้ชม Tokyo MER ฉบับ Series กันทาง Disney+ ไปแล้ว ด้วยความฮิตจึงมีฉบับภาพยนตร์ภาคแรกฉายโรงไปเมื่อปี 2023 และทำรายได้ไป 4,530 ล้านเยน ซึ่งผลตอบรับของภาคที่ 2 นี้ก็ดีไม่แพ้กันโดยทำรายได้รวมไปแล้ว 4,300 ล้านเยนหลังจากฉายไป 5 สุดสัปดาห์ และคาดว่าจะทำรายได้สุดท้ายไม่น้อยกว่าภาคแรกอย่างแน่นอน
5. ジュラシック・ワールド/復活の大地 (jurasshiku waarudo fukkatsu no daichi) / Jurassic World Rebirth
รายได้สุดสัปดาห์ = 214 ล้านเยน
รายได้รวม = 4,300 ล้านเยน
ภาพยนตร์ Hollywood เรื่องแรกที่ติดอันดับเข้ามาในอันดับที่ 5 Jurassic World Rebirth เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม และกำลังทำรายได้บี้กับ Tokyo MER มาอย่างสูสี แต่จากแรงปลายที่ Tokyo MER มีมากกว่าคาดว่าสุดท้าย Jurassic World Rebirth จะถูกทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามรายได้กว่า 30 ล้านเหรียญในญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดสุดท้ายที่เปิดตัว หลังจากฉายไป 4 สุดสัปดาห์ก็ช่วยดันให้ Jurassic World Rebirth ทำรายได้ทั่วโลกทะลุเป้าหมายไปไกลมาก
6. 映画クレヨンしんちゃん 超華麗!灼熱のカスカベダンサーズ (eiga kureyon shin-chan chou karei! shakunetsu no kasukabe dansaazu) / Crayon Shin-chan the Movie: Super Hot! The Spicy Kasukabe Dancers
รายได้สุดสัปดาห์ = 118 ล้านเยน
รายได้รวม = 2,015 ล้านเยน
ภาพยนตร์ Animation อีกเรื่องที่ทำฉบับฉายโรงกันเป้นประจำทุกปี ปีนี้ Crayon Shin-chan เปิดตัวชนกับ Jurassic World และทำรายได้เกาะอันดับกันมาเรื่อยๆ จนมาถึงสุดสัปดาห์ที่ 4 รายได้ของเจ้าหนูชินจังถูกไดโนเสาร์ทิ้งไปแล้วเกือบเท่าตัวรวมถึงรายได้รวมด้วย
7. ベスト・キッド レジェンズ (besuto kiddo rejenzu) / Karate Kid: Legends
รายได้สุดสัปดาห์ = 90 ล้านเยน
รายได้รวม = 90 ล้านเยน
Karate Kid: Legends หรือในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า Best Kid: Legends (เนื่องจากในญี่ปุ่น Columbia Pictures ไม่ต้องการใช้คำว่า Karate ในหนังเพราะปรัชญา Karate สำหรับคนญี่ปุ่นนั้นลึกล้ำและซับซ้อนกว่าในหนังซึ่งเป็นเพียงความเข้าใจของฝรั่งมากมายนัก) เปิดตัวทำรายได้ในถิ่นกำเนิดของ Karate ได้ย่ำแย่สุดๆซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรนัก โดยทำรายได้เปิดตัวไป 90 ล้านเยน
8. 近畿地方のある場所について (kinki chihou no arubasho ni tsuite) / About a Place in Kinki Region
รายได้สุดสัปดาห์ = 80 ล้านเยน
รายได้รวม = 1,210 ล้านเยน
ภาพยนตร์สยองขวัญซึ่งเป็นเรื่องราวของบรรณาธิการนิตยสารคนหนึ่งที่หายตัวไป เพื่อนของเขาซึ่งเป็นนักเขียนอิสระได้รู้ว่าเขาอ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับก่อนที่จะหายตัวไป บทความเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงข่าวลือ ตำนานเมือง และเรื่องผีสางที่ไม่อาจระบุได้ว่าเป็นความจริงความจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกัน ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับสถานที่แห่งหนึ่งก็พลันปรากฏขึ้น Kinki ทำรายได้รวม 4 ไปแล้ว 1,210 ล้านเยนหลังจากฉายมา 4 สุดสัปดาห์
9. 雪風 YUKIKAZE (yukikaze) / Yukikaze
รายได้สุดสัปดาห์ = 70 ล้านเยน
รายได้รวม = 610 ล้านเยน
ภาพยนตร์สงครามสไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นความรักชาติและลึกซึ้งกินใจ เรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของเรือพิฆาตในตำนานของญี่ปุ่นชื่อ Yukikaze ซึ่งเป็นเรือพิฆาตเพียงลำเดียวที่รอดชีวิตจากมหายุทธนาวีแปซิฟิก และลูกเรือผู้กล้าหาญที่ต่อสู้เพื่อปกป้องกองเรือ ช่วยเหลือเพื่อนร่วมรบ และพวกเค้าได้เดินทางกลับบ้านแม้จะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย ทำรายได้รวมหลังจากผ่าน 3 สุดสัปดาห์ไป 610 ล้านเยน
10. バレリーナ The World of John Wick (bareriina The World of John Wick) / From the Wotld of John Wick: Ballerina
รายได้สุดสัปดาห์ = 50 ล้านเยน
รายได้รวม = 170 ล้านเยน
Lionsgate ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง หลังจาก Ballerina ล้มเหลวในการขยายจักรวาลของ John Wick มาแล้วทั่วโลกก็ต้องช้ำอีกกับตลาดสุดท้ายในญี่ปุ่นที่ทำเงินรวม 170 ล้านเยน หรือ 1.2 ล้านเหรียญเท่านั้นจากฉายไปแล้ว 10 วัน
Top 10 Japan Box Office: 29-31 Aug 2025
รวมทั้งภาพยนตร์ Hollywood ที่อาจจะเข้าฉายช้ากว่าในอเมริกานานหลายเดือน เนื่องจากญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องการแอบชมแบบละเมิดลิขสิทธิ์ต่ำมาก หนัง Hollywood จึงสามารถจัดเวลาเข้าโรงหลีกหนังเต็งๆของเจ้าถิ่นไปลงในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องยึดติดกับเวลาในการฉายที่อเมริกา กลับตาลปัตรกับในประเทศไทยที่หนังไทยต้องสับรางหาเวลาที่เหมาะสมหลีกเลี่ยงหนัง Hollywood เอง เราจึงมักจะได้เห็นหนังไทยเรื่องเต็งๆไปฉายเดือนกุมภาพันธ์, เมษายน หรือกันยายน-ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่หนัง Hollywood ไม่ค่อยมีหนังฟอร์มใหญ่ออกฉายกันแทบทั้งนั้น
ภาพยนตร์ Hollywood เรื่องแรกที่ติดอันดับเข้ามาในอันดับที่ 5 Jurassic World Rebirth เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม และกำลังทำรายได้บี้กับ Tokyo MER มาอย่างสูสี แต่จากแรงปลายที่ Tokyo MER มีมากกว่าคาดว่าสุดท้าย Jurassic World Rebirth จะถูกทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามรายได้กว่า 30 ล้านเหรียญในญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดสุดท้ายที่เปิดตัว หลังจากฉายไป 4 สุดสัปดาห์ก็ช่วยดันให้ Jurassic World Rebirth ทำรายได้ทั่วโลกทะลุเป้าหมายไปไกลมาก