หุ้น BYD ร่วงแรงเกือบ 8% รับข่าวกำไรลดฮวบ 30% ในสงครามราคา
.
หุ้นอีวีจีนเบอร์ 1 ร่วงแรง 8% วันนี้ รับข่าวกำไรไตรมาสสองดิ่งหนัก 30% จากสงครามราคาที่รุนแรงในประเทศจีน แม้ยอดขาย BYD ในต่างประเทศเติบโตดีก็ตาม
.
หุ้น BYD ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงมากถึง 7.87% ในวันจันทร์นี้ (1 ก.ย. 68) หลังจากรายงานกำไรไตรมาสสองลดลงหนักถึง 30% ท่ามกลางสงครามราคาที่รุนแรงในอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศจีน
.
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) รายใหญ่สุดของโลกจากจีนรายนี้ รายงานกำไรสุทธิในไตรมาสสิ้นสุดเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 6.36 พันล้านหยวน (ราว 2.8 หมื่นล้านบาท) เมื่อวันศุกร์ ซึ่งลดลงประมาณ 30% จากปีก่อนหน้าจากข้อมูลของ LSEG
.
ผลประกอบการดังกล่าวแย่ลงแม้ว่าบริษัทจะมี "ยอดขายในต่างประเทศ" ขยายตัวขึ้นก็ตาม ซึ่งช่วยให้รายได้ของบริษัทเติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นประมาณ 2.01 แสนล้านหยวน
.
“การแข่งขันด้านราคาที่เพิ่มสูงขึ้นและการทำการตลาดที่มากเกินไปบ่อยครั้งในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเป็นระยะๆ” บริษัทระบุในเอกสารแจ้งตลาดหลักทรัพย์
.
รายงานของโนมูระ ซึ่งอ้างอิงข้อมูลอุตสาหกรรมจาก Autohome Research Institute ระบุว่า ราคาขายปลีกรถยนต์ในประเทศจีนโดยเฉลี่ย ลดลงประมาณ 19% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เหลือประมาณ 165,000 หยวน (ราว 7.36 แสนบาท)
.
.
#กรุงเทพธุรกิจ #InsightforOpportunities #กรุงเทพธุรกิจBusiness
Bydล่วงยับ8%รับข่าวกำไรหด30%
หุ้น BYD ร่วงแรงเกือบ 8% รับข่าวกำไรลดฮวบ 30% ในสงครามราคา
.
หุ้นอีวีจีนเบอร์ 1 ร่วงแรง 8% วันนี้ รับข่าวกำไรไตรมาสสองดิ่งหนัก 30% จากสงครามราคาที่รุนแรงในประเทศจีน แม้ยอดขาย BYD ในต่างประเทศเติบโตดีก็ตาม
.
หุ้น BYD ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงมากถึง 7.87% ในวันจันทร์นี้ (1 ก.ย. 68) หลังจากรายงานกำไรไตรมาสสองลดลงหนักถึง 30% ท่ามกลางสงครามราคาที่รุนแรงในอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศจีน
.
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) รายใหญ่สุดของโลกจากจีนรายนี้ รายงานกำไรสุทธิในไตรมาสสิ้นสุดเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 6.36 พันล้านหยวน (ราว 2.8 หมื่นล้านบาท) เมื่อวันศุกร์ ซึ่งลดลงประมาณ 30% จากปีก่อนหน้าจากข้อมูลของ LSEG
.
ผลประกอบการดังกล่าวแย่ลงแม้ว่าบริษัทจะมี "ยอดขายในต่างประเทศ" ขยายตัวขึ้นก็ตาม ซึ่งช่วยให้รายได้ของบริษัทเติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นประมาณ 2.01 แสนล้านหยวน
.
“การแข่งขันด้านราคาที่เพิ่มสูงขึ้นและการทำการตลาดที่มากเกินไปบ่อยครั้งในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ส่งผลกระทบเชิงลบต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเป็นระยะๆ” บริษัทระบุในเอกสารแจ้งตลาดหลักทรัพย์
.
รายงานของโนมูระ ซึ่งอ้างอิงข้อมูลอุตสาหกรรมจาก Autohome Research Institute ระบุว่า ราคาขายปลีกรถยนต์ในประเทศจีนโดยเฉลี่ย ลดลงประมาณ 19% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เหลือประมาณ 165,000 หยวน (ราว 7.36 แสนบาท)
.
.
#กรุงเทพธุรกิจ #InsightforOpportunities #กรุงเทพธุรกิจBusiness