JJNY : ณัฐชาชี้ทุกการตัดสินใจมีความเสี่ยง│สมคิดซัดแรงกองเชียร์พรรคส้ม│สว.เตรียมพิจารณาร่างพรบ.งบ│เตือนฝนถล่มหนัก 43 จว.

ณัฐชา เปิดฉากทัศน์ ชี้ ทุกการตัดสินใจมีความเสี่ยง ลั่น การพิจารณาครั้งนี้ ปชน.ตั้งโจทย์ปท.จะได้-เสียอะไร
.
.
ณัฐชา เปิดฉากทัศน์ ชี้ ทุกการตัดสินใจมีความเสี่ยง ลั่น การพิจารณาครั้งนี้ ปชน.ตั้งโจทย์ ปท.จะได้-เสียอะไร
.
เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเพจ “Nattacha Boonchaiinsawat – ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์” ระบุว่า
.
ท่ามกลางวิกฤตการณ์ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล เป้าหมายของพรรคประชาชนคือเร่งให้มีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ และอีกเป้าหมายหนึ่งที่จะปลดล็อกปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำซากในช่วงที่ผ่านมาคือ การผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
.
เครื่องมือสำคัญของพรรคประชาชน ในการผลักดันให้เกิดสิ่งดังกล่าว คือ เสียงของ ส.ส.พรรคประชาชน จำนวนประมาณ 143 เสียง ในกรณีที่ไม่มีพรรคใดสามารถรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคประชาชนจะใช้เสียง ส.ส.ของพรรคยกมือให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่สามารถรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนได้ โดยที่พรรคประชาชนไม่ร่วมรัฐบาล ซึ่งจะเกิดการตั้ง “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ที่พรรคประชาชนไม่ได้อยู่ร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคประชาชนจะสามารถใช้กลไกในสภา เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในการล้มรัฐบาลได้ในทันที หากรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั้น ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตาม TOR ที่ได้ตกลงกันไว้
.
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกฉากทัศน์อื่นๆ ที่ต้องพิจารณา เช่น การดึง ส.ส.ต่างพรรค หรือการสลับขั้วการร่วมรัฐบาลภายหลังจากได้ตัวนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก ที่ทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นในการบิดพลิ้ว ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงใน TOR ที่ได้ประกาศไว้
สำหรับอีกทางเลือกของพรรคประชาชนคือ ไม่ยกมือสนับสนุนแคนดิเดตจากพรรคใดเป็นรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการปล่อยให้สถานการณ์ไหลไปสู่การรวมเสียงข้างมากปริ่มน้ำแบบที่รัฐบาลเพื่อไทยเป็นอยู่ในปัจจุบันได้ หรืออาจไหลไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯคนนอก หรือนายกฯที่มาจากการคณะปฏิวัติรัฐประหาร ก็เป็นฉากทัศน์ที่ต้องนำมาประกอบการพิจารณาอย่างรอบด้าน
.
ทุกการตัดสินใจมีความเสี่ยง และมีข้อได้เปรียบแตกต่างกัน การพิจารณาในครั้งนี้ ควรพิจารณาด้วยโจทย์คำถามที่ว่า “ประเทศไทย จะได้หรือเสียอะไร” และพรรคประชาชนจะใช้เสียงของ ส.ส.ทั้งหมดที่มีอยู่ ในการกำกับทิศทางประเทศให้เดินไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร
.
.

.
สมคิด ซัดแรง กองเชียร์พรรคส้ม ด่าหยาบคายทีมเจรจาเพื่อไทย ไร้วัฒนธรรม
.
สมคิด ซัดแรง กองเชียร์พรรคส้ม ด่าหยาบคายทีมเจรจาเพื่อไทย ไร้วัฒนธรรม อารยชนไม่ควรทำอย่างยิ่ง
.
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และอดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ระบุทางเฟซบุ๊ก สมคิด อุบล ตำหนิการกระทำของกลุ่มคนที่ตะโกนด่าทอคณะของนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรค พท. ที่เข้าหารือกับแกนนำพรรคประชาชน ณ ที่ทำการพรรคประชาชน
.
นายสมคิดระบุว่า ร--ำ / ถ่-ย /ส-ุน
.
การพูดคุย ของพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชนจบลงแล้ว โดยแกนนำพรรคร่วม ได้เสนอข้อเสนอให้พรรค ปชน.รับทราบ และคงพูดคุยกันปกติ ที่จะให้พรรค ปชน.เลือกนายกฯฝั่งพรรค พท.ที่เป็นแกนนำ โดยปกติทุกพรรคก็มีการประชุมพรรคกันทั้งนั้น พท.ก็จะประชุมพรรควันอังคารที่ 2 ก.ย. พรรค ปชน.เขาก็ประชุมพรรค 1 ก.ย.เพื่อเป็นการแจ้งให้สมาชิกทราบ และก็ขอมติกัน
.
การพูดคุยเจรจาเป็นธรรมดา ทุกแห่งในโลก เมื่อตั้งรัฐบาล แต่สิ่งที่ผมขอกล่าวถึงคือ การตะโกนด่าทอคณะฯของท่านภูมิธรรม เมื่อลงจากรถก่อนเข้าพรรค ด่าหยาบคาย ผมว่าพรรค ปชน.ไม่จัดคนทำแบบนี้อยู่แล้ว เพราะทางการเมืองเขาพูดคุยกันปกติ..คนที่ตะโกนด่าอาจทำด้วยตัวเอง หรือพรรคพวก หรือคนอื่นจัดมาด่า..ผมถือว่าทุเรศ ไร้วัฒนธรรม อารยชนไม่ควรทำอย่างยิ่ง..ไม่ว่าทำกับใคร มันมิใช่ฤดูหาเสียงนะ
.
ที่ผมต่อว่าก็เพราะมันเกินไป ผมรับมวลชนที่ทำเนียบ หรือม็อบ เป็นร้อยครั้งผมก็ถูกตะโกนด่า ส่วนหนึ่งก็จากติ่งส้มนี่แหละ..ผมก็ไม่คิดตอบโต้ เพราะผมมีหน้าที่รับฟัง บางคนผมเคยไปประกันตัวด้วยซ้ำ ยังพาคนมาด่าผม บางคนออกอาการหน้าตาต่อว่าผมอย่างแรง ผมไม่เคยถือโทษ นี่เรื่องจริงนะครับ มิได้พูดเอาดี..ที่ผมไม่ถือโกรธเพราะผมมองเขาอย่างเข้าใจต่างหาก..ก็หวังว่าถ้าเขาอาวุโสขึ้นเขาคงคิดได้เอง
.
แต่เหตุวันนี้ ที่ตะโกนด่าคณะฯแกนนำพรรคร่วม ผมขอด่าขอต่อว่า คนที่ตะโกนวันนี้ ร--ำ ถ่-ย ส-ุน
เห็นมั๊ย..ผมก็ด่าเป็นนะครับ.555 .แต่ผมก็เชื่อว่า มันไม่เกิดประโยชน์อะไร
.
.

.
สว.เตรียมพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณ 69
.
วุฒิสภา เตรียมพิจารณาวาระกระทู้ถาม และร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว
การประชุมวุฒิสภา เวลา 09.30 น. วันนี้ (1 ก.ย.68) มีวาระพิจารณากระทู้ถามเป็นหนังสือ 6 เรื่อง เช่น การกำหนดมาตรการควบคุมสาร Basic Yellow 2 (BY2) และสารแคดเมียมที่ปนเปื้อนในทุเรียน , เรื่องแนวทางการส่งเสริมความก้าวหน้าของพยาบาลวิชาชีพ และเรื่อง ปัญหานโยบายกัญชาเสรีในประเทศไทย จากนั้น มีวาระพิจารณาเรื่องด่วน 2 เรื่อง ได้แก่ ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง และร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว พร้อมรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยวุฒิสภาจะต้องให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบภายใน 20 วัน นับแต่วันที่ร่างพระราชบัญญัติมาถึงวุฒิสภา
.
นอกจากนี้ ยัง มีวสระพิจารณาเรื่องที่ค้างพิจารณา 6 เรื่อง เช่น รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี 2567 , ญัตติขอให้วุฒิสภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาและติดตาม ตรวจสอบการแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนของประเทศไทยแบบบูรณาการ , ญัตติขอให้วุฒิสภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และญัตติขอให้วุฒิสภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่