‘แพทองธาร’ หลุดนายกฯ ธุรกิจระส่ำ-เริ่มนับ1ใหม่ กังวลเปลี่ยนขั้ว-ยุบสภา


“แพทองธาร” พ้นตำแหน่งนายกฯ หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษา คดีคลิปเสียงคุยกับฮุน เซน ระบุผิดจริยธรรมร้ายแรง ครม.พ้นทั้งคณะ ต้องลงคะแนนเลือกนายกฯใหม่ “ศิริกัญญา” พรรคประชาชน อึ้งสะท้อนหลักนิติธรรม เพราะศาล รธน. ใช้ข้อหาผิดจริยธรรมสอยนายกฯ 2 คน ในเวลาไม่ถึง 1 ปี หวั่นฉุดเชื่อมั่นนักลงทุน ส.อ.ท.ชี้เกิดสุญญากาศทางการเมืองทำให้ทุกอย่างแย่ลง ส่วนธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กังวลรัฐบาลเปลี่ยนขั้ว นโยบายไม่ต่อเนื่อง กสิกรฯมองหากเปลี่ยนขั้ว หรือยุบสภา กระทบทิศทางดำเนินงานแน่นอน เช่นเดียวกับกลุ่มตลาดทุนห่วงหากการเมืองไปถึงขั้นยุบสภา ทุกอย่างจะยิ่งล่าช้า

จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็น สว. 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธารและสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

ศาลชี้นายกฯไม่รอบคอบ
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 29 ส.ค. เวลา 15.00 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย โดยสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า การกระทำของผู้ถูกร้องที่ขอความเห็นใจจากสมเด็จฮุน เซน ไม่ใช่เทคนิคการเจรจาตามที่ผู้ถูกร้องกล่าวอ้าง แต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ขาดความรอบคอบและระมัดระวัง ซึ่งตามวิสัยและพฤติการณ์ของผู้ถูกร้อง ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ควรจะต้องมีวิจารณญาณในการเลือกกระทำการ โดยไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตามหน้าที่ที่บัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญ 164 วรรคหนึ่ง (1)

โดยเมื่อผู้ถูกร้องมีประโยชน์ส่วนตัวคือคะแนนนิยมและเสถียรภาพของรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติหน้าที่ ผู้ถูกร้องกลับไม่คำนึงถึงและยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง การกระทำดังกล่าวเป็นการลดทอนหรือทำให้เสียหายซึ่งเกียรติภูมิหรือเกียรติของนายกฯ และประเทศไทย เพราะความนิยมซึ่งหมายความว่า เกียรติที่ได้รับการยกย่องจากสังคมหรือนานาชาติ และการนับถือของประเทศชาติ

“แพทองธาร” หลุดเก้าอี้
ดังนั้น ผู้ถูกร้องจึงมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันทำให้ผู้ถูกร้องมีขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5) อาศัยเหตุผลดังกล่าวจึงวินิจฉัยว่า (เสียงข้างมาก 6 ต่อ 3) ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้อง นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ คือวันที่ 1 กรกฎาคม 2568

และรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 167 วรรคหนึ่ง (1) โดยให้นำรัฐธรรมนูญมาตรา 168 วรรคหนึ่ง (1) มาใช้บังคับกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งต่อไป

ขั้นตอนเลือกนายกฯใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ ครม.ทั้งคณะพ้นตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 (1) แต่จะทำหน้าที่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 (1) โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีรักษาการ

หลังจากนี้ พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล จะต้องพยายามรวบรวมเสียง สส.เพื่อจัดตั้งรัฐบาลขึ้นใหม่ และเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตามมาตรา 159 ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการรวบรวมเสียง

เมื่อแกนนำรัฐบาลสามารถรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาเลือกนายกฯ ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ที่พรรคการเมืองแจ้งกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 โดยในบัญชีนายกฯของพรรคเพื่อไทย มีนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกฯคนสุดท้ายของพรรค

ต้องได้คะแนนเกิน 247 เสียง
ทั้งนี้ การเสนอชื่อนายกฯ ในสภาจะต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจํานวนสมาชิกทั้งหมด เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในปัจจุบันมี 492 คน และการลงมติของสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกนายกฯ จะต้องโหวตโดยเปิดเผยด้วยการขานชื่อ และต้องมีคะแนนเสียงเกินกว่า 247 เสียง ซึ่งเป็นเสียงเกินกึ่งหนึ่งของ สส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

ศิริกัญญาชี้กระทบเศรษฐกิจ
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า การที่คำตัดสินของศาลออกมาว่าให้นายกฯพ้นจากตำแหน่งนั้น ไม่ได้ทำร้ายเพียงแค่เสถียรภาพของรัฐบาล แต่สะท้อนถึงหลักนิติธรรมของกฎหมาย ขององค์กรอิสระอย่างศาลรัฐธรรมนูญ ว่าสามารถถอดถอนนายกรัฐมนตรี ในข้อหาจริยธรรมได้ถึงสองคนภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี

ส่วนตัวจึงมองว่าเรื่องนี้น่าจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยในแง่ของนักลงทุนแน่นอน ว่าประเทศนี้ปกครองด้วยระบอบอะไรกันแน่ และอาจจะทำให้ในระยะยาวในอนาคตไทยอาจจะไม่ใช่ประเทศที่ทำให้นักลงทุนตัดสินใจมาลงทุนต่อหรือเพิ่มขึ้นอีก เพราะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น

“เข้าใจดีว่านายกรัฐมนตรีก็มีปัญหาในเรื่องของความชอบธรรมแน่นอน แต่ไม่อยากให้ใช้กลไกขององค์กรอิสระหรือว่าศาลรัฐธรรมนูญในการที่จะถอดถอนตัวนายกรัฐมนตรี และมีความคิดว่าสภา หรือว่าสภาไทยยังคงเป็นทางออกให้ได้ เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าจะรอด แต่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะดำเนินการในการที่จะยื่นซักฟอกนายกรัฐมนตรีต่อไปเช่นเดียวกัน” น.ส.ศิริกัญญากล่าว

ชี้สอยนายกฯเข้าทางฮุน เซน
ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย มวลชนได้ลุกขึ้นโห่ และตะโกนร้องเพื่อไทยสู้ต่อ ๆ เพื่อไทยสู้ ๆ เข้าทางฮุน เซน

ตัวแทนมวลชนเสื้อแดงที่ได้เดินทางมา ติดตามผลคำวินิจฉัยที่พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ต้องตกใจ อย่างน้อยมีนายชัยเกษม นิติสิริ เราคิดอยู่แล้วว่ารูปการณ์จะออกมาเป็นแบบนี้ เราสนับสนุนเพื่อไทย ไม่ว่าจะส่งใครลง เราจะยังขอเลือกพรรคเพื่อไทยตลอดไป นายชัยเกษมเป็นนายกฯต่อได้แน่นอน

เราเชื่อมั่นว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีไปไหน เราจะเป็นกำลังใจยืนเคียงข้างกับพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค พรรคเพื่อไทยถูกเลือกมา 12 ล้านเสียง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เรามวลชนคนเสื้อแดงจะยืนเคียงข้างพรรคเพื่อไทยตลอดไป

ประชาชาติยันร่วมเพื่อไทย
นายซูการ์โน มะทา สส.ยะลา และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์หลังมติของศาลรัฐธรรมนูญให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกฯ และให้ ครม.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะว่า พรรคประชาชาติยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล และนำเสนอแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยต่อสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าพรรคเพื่อไทยควรเรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศ และไม่ให้เป็นปัญหาต่อการบริหารหรือแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์ว่าหากให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลอาจไม่ได้รับความเชื่อมั่น นายซูการ์โนกล่าวว่า มั่นใจว่าไปได้ เพราะหากเทียบกับรัฐบาลที่ผ่านมา พบว่าเสียงสนับสนุนปริ่มน้ำ และเมื่อสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างที่เห็น คือ เน้นการตรวจสอบการทำงาน ดังนั้น สส.ต้องมีความรับผิดชอบให้มากกว่าเดิม นอกจากนั้นแล้วในการทำงานต้องมีนโยบายเพื่อประโยชน์กับประชาชน

“การตั้งรัฐบาล พรรคประชาชาติพร้อมร่วมตั้งรัฐบาล จับมือกับพรรคเพื่อไทยเดินหน้าต่อไป เพราะตั้งแต่สมัยนายกฯเศรษฐา ทวีสิน หรือ น.ส.แพทองธาร พรรคประชาชาติ พร้อมจับมือร่วมเดินหน้า ส่วนความเชื่อมั่นนั้น วันนี้ยังไม่เห็นหน้าตาของ ครม.ใหม่ การวาดภาพไปก่อนคงไม่ได้” นายซูการ์โนกล่าว

CIMB ประเมินความเสี่ยง
ด้านความคิดเห็นของภาคเอกชนต่อการเมืองหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสิน ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย หรือ CIMB THAI เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ประเมินกรณีคำตัดสินของศาลออกมา “รอดคดี” และ “ไม่รอดคดี” ภายใต้ 2 ฉากทัศน์ เพราะไม่ว่าคำตัดสินจะออกมารูปแบบไหน อยากให้มองข้ามไปข้างหน้าว่าเศรษฐกิจมีความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งจากความไม่แน่นอนทางการเมือง สงครามการค้าจากนโยบายภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐ (Reciprocal Tariffs) รายได้ครัวเรือนโตต่ำ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นแรงกดดันต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยขยายตัวต่ำ หรือหดตัวเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส (QOQ)

ดังนั้น นโยบายรัฐบาลในระยะข้างหน้าจะต้องเร่งความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ และเร่งการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องเป็นนโยบายระยะยาวมากกว่านโยบายระยะสั้นเพียงเท่านั้น เช่น นโยบายการแจกเงิน เป็นต้น

หวั่นเปลี่ยนขั้วนโยบายไม่ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี หากมองกรณีคำตัดสินศาลวินิจฉัยว่า “รอดคดี” รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นทันที และกรณีคำวินิจฉัย “ไม่รอดคดี” มองว่า 1.หากเปลี่ยนตัวนายกฯ โดยเป็นคุณชัยเกษม นิติสิริ พรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯคนใหม่ นโยบายต่าง ๆ ยังคงมีความต่อเนื่อง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนักลงทุนที่กำลังรอดูสถานการณ์ (Wait & See) เพื่อตัดสินใจลงทุน จะรอดูสถานการณ์ไม่นาน

2.กรณีเปลี่ยนขั้วรัฐบาล นักลงทุนจะต้องรอดูความต่อเนื่องของนโยบายต่าง ๆ ที่จะออกมา ส่งผลให้การรอดูสถานการณ์และการตัดสินใจลงทุนต่าง ๆ จะใช้ระยะเวลานานขึ้น หรือ Wait & See นานขึ้น เพื่อรอดูความชัดเจน ซึ่งจะทำให้สูญเสียโอกาสในการลงทุน และกระทบต่อภาคการลงทุนได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ธนาคารกังวล คือกรณีนายกฯรอดคดี แต่เสียงในสภาผู้แทนราษฎรปริ่มน้ำ จนนำมาสู่การยุบสภา ส่งผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ ความเชื่อมั่น และเศรษฐกิจภาพรวม เนื่องจากจะทำให้การเบิกใช้งบประมาณสะดุดและหยุดชะงัก ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่