สิ่งที่พบเจอ จากการส่งลูกเรียนเปียโน

อยากเล่าให้ พ่อๆแม่ๆ ที่มีลูกเล็กๆ-วัยประถม ฟังค่ะ

เราให้ลูกเรียนเปียโน กับ รร.ดนตรีเล็กๆแห่งหนึ่ง เราอยู่ ตจว.นะคะ
ก็เรียนตั้งแต่อายุประมาณ 4-5 ขวบนี่แหละค่ะ เรียนมาเกือบๆ 10 ปี
ก็อยากให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีสกิลติดตัว ประมาณนี้

จนมาน้องเริ่มโต ช่วง 10 ขวบต้นๆค่ะ
ครูที่สอนก็แนะนำให้เข้าร่วมประกวด
ก็บอกตรงๆ เรามันคนนอกวงการ ครูแนะนำประกวดเวทีไหนก็ไป
เราอยู่ ตจว.ก็ต้องขับรถไปกันค่ะ พ่อแม่ลูก บางทีต้องไปค้างด้วย ไปมา 2-3 งาน
งานแรกๆ ตื่นเต้นมากค่ะ ลูกได้เหรียญทอง จะเรียกว่าตกใจก็คงได้
เพราะไม่เห็นว่าลูกจะเลิศเลอโดดเด่นอะไร
จนค่อยๆเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ถึงรู้ว่า คนได้เหรียญทองแต่ละรุ่นมีเยอะแยะเลยค่ะ 555 ไม่ใช่ว่าลูกเราได้คนเดียว
อ่ะ เริ่มเรียนรู้อย่างที่ 1
ซึ่งจริงๆ ย้อนไปก่อนหน้านี้ เราเคยให้ลูกลงแข่งพวกอัจฉริยะคิดเลขเร็วอะไรประมาณนี้
คือเด็กทุกคนได้รางวัลกลับบ้านหมดนะ เหมือนคอนเซ็ปคือ สร้างแรงจูงใจทางบวกไรงงี้ ยังไงก็ต้องได้รางวัล
โอเคๆ เก็ทๆละ กิจกรรมสำหรับเด็ก มันก็คงเทือกๆเดียวกันนี่แหละ

ต่อมา ก็ลงประกวดอีกงานนึง ครูบอกว่า ถ้าชนะ ที่ 1-2 จะได้ไปแข่ง ตปท.
อะ ก็ตื่นเต้น วาดฝันนิดหน่อย กลัวๆเกร็งๆว่าอุ้ย ลูกจะเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ ลุ้นๆ
พอถึงวันจริง (ขอข้ามบรรยากาศอะไรต่างๆไปเลยนะ ) ประกาศผล
เอ้าลูกดันเข้ารอบเว้ย แล้วระหว่างนั่งฟังผลมาเรื่อยๆ
เราก็ได้พบว่า เด็กทุกคนที่เข้าแข่ง เข้ารอบทุกคน!!! คือมีสิทธิ์ได้ไป ตปท.กันหมดเลย 555
คือเค้าจะประกาศทีละรางวัล ไล่จาก เหรียญทองแดง เงิน ไปทอง
ซึ่งแต่ละเหรียญ มีหลายคน แต่เรานั่งบวกๆมา ก็คือครบอะ ครบทุกคนที่ลงในรุ่นเดียวกัน

คือตอนเนี้ย ใจเริ่มไม่โอเคละ
คือถ้าลูกเราเก่งจริงๆ เราก็ยินดีจะซัพพอร์ต พาไป ตปท. ซึ่งไม่ได้ไปคนเดียวถูกมะ
พ่อแม่พี่น้องก็ต้องไปเชียร์ ใช้เงินเยอะพอสมควร ไหนจะต้องลางานอีกล่ะ
แต่พอเจอแบบนี้ เรารู้สึกว่า มันไม่ได้เกิดความภูมิใจขึ้นมาจริงๆ (ถึงแม้ลูกจะภูมิใจน่ะแหละ)
แต่มันคือ การเอาเงินซื้อความภูมิใจให้ลูกนี่นา

อะ พอผ่านเข้ารอบละ สามารถเลือกไปแข่งที่ ตปท. โดยสามารถเลือก ปท.ในเอเชีย หรือ ปท.ในยุโรป
(เค้ามีระบุมานะแต่ขอไม่ลงรายละเอียด)
ถ้าเลือก ปท.ในยุโรป คือต้องซื้อทัวร์กับเขา ประมาณ 2 แสน

พอการแข่ง รอบใน ปท.จบไป เราก็เล่นเฟสบุคตามปกติน่ะแหละ
ปรากฎการณ์ที่เราสังเกตได้คือ
1.เด็กๆทุกคนได้เหรียญ ถูกมั้ย พอกลับไปบ้าน ไปจังหวัดตัวเอง
ทางครอบครัวและทาง รร.ก็จะพากันโพสชื่นชมที่เด็กไปสร้างชื่อเสียง
(จะมีแต่คนในห้องประกาศผลนั่นแหละที่รู้ว่า ทุกคนที่ลงแข่งคือได้เหรียญหมด)
เราไม่ได้อิจฉาหรือหมั่นไส้อะไรเขานะคือลูกเราก็ได้ แต่เราไม่ได้โพสเพราะรู้แก่ใจ
แต่ประเด็นที่เราเห็นคือ ในยุคของการแข่งขันทางการศึกษาแบบนี้ นี่คือหนึ่งในวิธีการก่อร่างสร้างพอร์ตให้เด็กๆ
ซึ่งโอเคว่าถ้าเค้าเอาพอร์ตไปใช้สมัครอะไรที่ให้โควต้าเด็กเก่งดนตรีโดยตรง คนในวงการดนตรีจะดูออก ว่าเวทีไหนมีน้ำหนักแค่ไหน
แต่คนทั่วๆไปดูไม่ออกหรอก หรือเอาไปสมัครรับทุนเด็กดีกิจกรรมเด่นทั่วๆไปไรงี้ ก็น่าจะได้
(ซึ่งลูกเราก็เคยใช้ค่ะ เวลาครูขอหลักฐานทำกิจกรรมนอก รร.)

2.และ ครูดนตรี ที่พาเด็กไปแข่ง ก็จะโพสชื่นชมเด็กๆที่หน้าวอลล์ของตัวเอง
มันก็เป็นการสร้างชื่อให้ครูว่า โหดูสิ สอนดีมาก เด็กไปแข่งได้เหรียญมาเพียบ
(again จริงๆได้เหรียญทุกคนไม่ใช่แค่เด็กของครูคนนี้)

3.พอเฟสบุคมันจับได้ว่าเราอ่านเรื่องประกวดดนตรี
เราก็เลยได้เห็นว่า มีการประกวดดนตรีของเด็กในลักษณะเดียวกันเยอะแยะมากมาย
ซึ่งเชื่อว่า เพราะทุกคนก็ win win ตามข้อ 1-2 วนๆไป ธุรกิจมันเลยงอกงามแบบนี้

มาต่อที่ลูกเรา พอหลังจากเรารู้สึกตะหงิดๆ กับวิธีการประกวดแบบนี้ เราก็คิดวนเวียนว่าจะให้ลูกไปแข่งเวที ตปท.ดีไหม
ระหว่างนั้น ประมาณ 1 เดือน ก็เป็นช่วงเวลารอทางกองประกวดแจ้งรายละเอียดการแข่งรอบ ตปท.มาให้ทางโรงเรียน

พอแจ้งกำหนดมาเท่านั่นแหละ หึๆๆๆๆๆ
ทีแรกเค้าแจ้งวันของเวทียุโรปมาก่อน เราเห็นละยิ้มมุมปากเลย
มันเป็นวันหยุดยาวของคนไทยอะ
เราเลยคลิกลิ้งค์ไปที่ กำหนดการของ เวทีเอเชีย
บิงโก!!!! เป็นวันหยุดยาวของคนไทยเช่นกัน (อีกเดือนนึง คนละเดือนกับยุโรป)

ในใจเราก็เลยสรุปเลยว่า การแข่งพวกนี้ ก็มีแต่เด็กไทยเนี่ยแหละ จัดเพื่อคนไทยเลยจริงๆ
แต่โอเคว่า เราไปย้อนดูประวัติเก่าๆ มันมีเด็กชาติอื่นจริงแต่ค่อนข้างน้อย
ก็มองว่า ทุกคนอยากหาเวทีให้ลูกสะสมประสบการณ์แหละ ใครสะดวกที่ไหนก็ไปที่นั่น
แต่มันก็นะ รู้สึกเหมือนโดนปั่น

สุดท้าย ไม่ได้ให้ลูกไปค่ะ

พอวันแข่งมาถึง เราก็ได้เจอเรื่องน่าแปลกใจอีกเรื่อง
คือ อย่างที่เราบอกค่ะ มันเป็นวันหยุดยาวของไทย
แล้วเราก็ได้เห็นเพื่อนๆในเฟสหลายๆคน โพสรูปลูกที่ไปประกวด ที่ ตปท.
คนละเวที คนละประเทศกับลูกเรานะ (คือโซนเอเชียหลายประเทศเลยค่ะ)
มันแปลกมั้ยล่ะที่ทุกงานทั้งที่ขึ้นชื่อว่าเป็น international competition แต่พากันมาจัดในวันหยุดยาวของไทย
(แต่จัดที่ ตปท.นะ จะมีเหตุผลอะไรอีก นอกจากที่เราคิดว่ามันคือการอำนวยความสะดวกให้พ่อแม่คนไทย)

จบตรงนี้ค่ะ นานาจิตตังนะคะ
ถ้ามองข้อดี ไม่คิดอะไรมาก คือ ลูกได้ประสบการณ์ ได้ความภูมิใจ ได้สร้างพอร์ต
แต่สำหรับเรา ก็รู้สึกว่าไม่คุ้มกับเวลาและค่าใช้จ่ายค่ะ
ถ้าทำให้ใครไม่สบายใจ หรือเราเข้าใจอะไรผิดไป ก็ขออภัยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่