
- ดูจบภาพในหัวก็เกิดนึกย้อนกลับไปมองดูตนเองถึงเรื่องที่เคยถูกทำให้ประสบกับเรื่องสิ่งลึกลับที่แทรกผ่านความเชื่อที่ผูกโยงกับหลักศาสนาอีกทีเหล่านี้มาด้วยความไม่รู้ก็ดีหรือถูกจำยอมจากระบบอาวุโสให้เชื่อฟังก็ตามยังมีคำถามที่ยังคงหาต้นสายปลายเหตุไม่ได้เต็มปากว่าไอ้สิ่งที่เชื่อต่อกันมาแต่เกิดจนถึงอายุปูนนี้แล้วตกลงทำไปเพื่ออะไร ? นี่แหล่ะที่มันมีความย้อนแย้งแคลงใจสะสมอยู่ในหัว โอเคว่าคนที่เชื่อก็เชื่ออย่างสุดใจถวายหัวโดยไม่หาเหตุผลอื่นมาหักล้างแต่กับคนที่ไม่เชื่อล่ะ ถ้าการตั้งคำถามที่มันไปขัดกับสิ่งที่เชื่อกันมาจะถูกมองว่าเป็นเด็กก้าวร้าวไม่เคารพชาบูอย่างงั้นเหรอ ? ทั้งที่เราก็มีสิทธิ์ที่จะอยากรู้อยากถามเหมือนกัน แล้วพูดได้เต็มปากมั้ยล่ะว่าไอ้ที่เชื่อกันหลายชั่วอายุนี้คือมันตรงปกกับสิ่งที่ได้ยินมาหรือเปล่า ? ซึ่งความในใจที่พรรณนามาเมื่อครู่จึงค่อย ๆ ปรากฎจากตัวนางเอกที่เริ่มมีปฏิกิริยาตามที่ว่า

- ตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง 36 นาทีตัวหนังจะแบ่งเป็น 2 Parts หน้ากระดาษโดยช่วงราว 30 นาทีแรกโทนหนังมา Feel ครอบครัวสุขสันต์ที่กำลังจะสุขีในไม่ช้าเมื่อหัวหน้าครอบครัวอย่าง พ่อ ที่นอนติดเตียงกำลังเข้าสู่วาระสุดท้ายจึงมีแค่ 2 แม่ลูกที่ทำหน้าที่ปรณณิบัติขับสู้พร้อมกับประคับประคองความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ เปิดเผยความในใจให้เห็นจากวาจาและย้อนความหลังในรูปของ Flashback สับเปลี่ยนไปมาเพื่อรองรับที่มาและเหตุผลในสิ่งที่ 2 แม่ลูกกำลังจะหาทำต่อจากนี้

- พอมาถึงอีก Parts กลายเป็นว่าโทนของหนังส่งกลิ่นบรรยากาศอันไม่พึงประสงค์แบบฉับพลันจนผมรู้สึกสะพรึงไปทุกอณูหลังจากที่ตัวหัวหน้าครอบครัวถึงแก่วาระและสมาชิกที่เหลือได้มีการกวาดปัดเช็ดถูข้าวของภายในบ้านเพื่อเตรียมรอพิธีการใน Step ต่อไปจนกระทั่ง หมอผี ปรากฎตัวตามนัดปุ๊ปก็เป็นอันรับทราบโดยทั่วกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ? ด้วยความที่ตัวละครที่มีหยิบมือถ้าไม่นับแขกผุ้มีเกือกที่โผล่มารายตัวแวบ ๆ และส่วนใหญ่ก็สาละวนอยู่แต่ในบ้านถึง 90% ระหว่างสำรวจอากัปกิริยาของตัวละครที่เริ่มซึมซับปมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกก็ดีหรือสภาพแวดล้อมภายในที่เริ่มจะมืดดับจนแทบจะกลายเป็นสถานที่ปิดตุยเข้าไปทุกทีภาพในหัวเกิดนึกถึงเรื่อง Insidious ลอยเข้ามาในส่วนของการใช้สีแดงเป็นสัญญะร่วมทางที่ปูบรรยากาศได้สะพรึงกลัวเอาเรื่องอยู่

- แม้ไม่บันเทิงอย่างสาแก่ใจแต่สารที่พูดถึงโลกหลังความตุยจากคนเป็นก็สามารถซื้อใจให้สำรวจความโศกเศร้าที่กำลังทับซ้อนกับโลกคนเป็นอย่างใจจดใจจ่อแม้มีอาการกรึ่ม ๆ จะวูบหลับเพราะความเนือยของการก้าวแค่ความคาใจของตัว 2 แม่ลูกที่ยังอยู่โดยไม่ทันได้ร่ำลาคนเป็นพ่อหรือสามีสักคำมันเป็นอะไรที่เศร้าและสะเทือนใจเหมือนกันจนผมพอเข้าใจในสาเหตุที่ 2 แม่ลูกกำลังถลำลึกกับพิธีกรรมคืนชีพตัวพ่อหรือสามีจากคำชี้นำของ หมอผี ที่กำลังชี้นิ้วสั่งนกทั้งคู่ให้ปฏิบัติตามถึงตัดชิ้นส่วนอวัยวะออกทีละชิ้นจนเลือดแตกยางขาดอย่างกะ Saw ยังไงยังงั้น ?

- ความหาทำที่ทะยานไปเรื่อยจนกู่ไม่กลับได้นำพาไปสู่บทสรุปที่บอกไม่ถูกว่าจะให้รู้สึกอย่างไรก่อนแต่หาทางลงได้โอเคตามจริตผมอยู่ แม้ใจนึงจะสะเทือนกับผลที่ตามมาจากการหาทำหนทางนี้แต่อีกใจก็เกิดเอะขึ้นว่าจบง่าย ๆ แค่นี้ ? ต่อเวลาอีกหน่อยซัก 10 นาทีก็ได้ เพราะช่วงที่ 2 แม่ลูกถูกวาร์ปไปยังอีกโลกนึงจน Feat กับแขกผู้มีเกือกมากหน้าหลายตนเครื่องกำลังร้อนได้ที่ แต่จู่ ๆ เล่นเตะปลั๊กออกกลางอากาศ อารมณ์ที่กำลังลุ้นก็เลย error ไปทันที อย่างไรก็ตามเมื่อตกผลึกกับสารที่คว้ามาอยู่หลายวันก็ประมวลถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า อย่าหาทำในสิ่งที่มองไม่เห็นโดยไม่สามารถควบคุมกติกาที่เราไม่ได้เป็นคนก่อ เพราะเมื่อลงมือแล้วมันมีราคาที่ต้องจ่ายที่เราคาดไม่ถึง โอเคอยู่ว่าการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสัจจะที่มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมิอาจหลีกเลี่ยงได้และเป็นการยากเมื่อคนที่รักหรือรู้จักจากไปต่อหน้าอย่างกระทันหันแล้วตั้งตัวเข็มแข็งด้วยความรวดเร็ว ฉะนั้นพึงระลึกเช่นกันว่าต้องยอมรับ ปล่อยผ่าน และ ให้เวลาเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำให้ทุเลาลงเพื่อที่วันไหนที่เริ่มแข็งแรงขึ้นมาจะได้ลุกขึ้นยืนแล้วเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปโดยเก็บคนที่จากไปไว้ในใจจะได้ไม่ลืมกัน

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ : EMistique
[CR] No.165 The Surrender (2025) : คิดถึงก็เรียก “กู” มาสิ
- ดูจบภาพในหัวก็เกิดนึกย้อนกลับไปมองดูตนเองถึงเรื่องที่เคยถูกทำให้ประสบกับเรื่องสิ่งลึกลับที่แทรกผ่านความเชื่อที่ผูกโยงกับหลักศาสนาอีกทีเหล่านี้มาด้วยความไม่รู้ก็ดีหรือถูกจำยอมจากระบบอาวุโสให้เชื่อฟังก็ตามยังมีคำถามที่ยังคงหาต้นสายปลายเหตุไม่ได้เต็มปากว่าไอ้สิ่งที่เชื่อต่อกันมาแต่เกิดจนถึงอายุปูนนี้แล้วตกลงทำไปเพื่ออะไร ? นี่แหล่ะที่มันมีความย้อนแย้งแคลงใจสะสมอยู่ในหัว โอเคว่าคนที่เชื่อก็เชื่ออย่างสุดใจถวายหัวโดยไม่หาเหตุผลอื่นมาหักล้างแต่กับคนที่ไม่เชื่อล่ะ ถ้าการตั้งคำถามที่มันไปขัดกับสิ่งที่เชื่อกันมาจะถูกมองว่าเป็นเด็กก้าวร้าวไม่เคารพชาบูอย่างงั้นเหรอ ? ทั้งที่เราก็มีสิทธิ์ที่จะอยากรู้อยากถามเหมือนกัน แล้วพูดได้เต็มปากมั้ยล่ะว่าไอ้ที่เชื่อกันหลายชั่วอายุนี้คือมันตรงปกกับสิ่งที่ได้ยินมาหรือเปล่า ? ซึ่งความในใจที่พรรณนามาเมื่อครู่จึงค่อย ๆ ปรากฎจากตัวนางเอกที่เริ่มมีปฏิกิริยาตามที่ว่า
- ตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง 36 นาทีตัวหนังจะแบ่งเป็น 2 Parts หน้ากระดาษโดยช่วงราว 30 นาทีแรกโทนหนังมา Feel ครอบครัวสุขสันต์ที่กำลังจะสุขีในไม่ช้าเมื่อหัวหน้าครอบครัวอย่าง พ่อ ที่นอนติดเตียงกำลังเข้าสู่วาระสุดท้ายจึงมีแค่ 2 แม่ลูกที่ทำหน้าที่ปรณณิบัติขับสู้พร้อมกับประคับประคองความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ เปิดเผยความในใจให้เห็นจากวาจาและย้อนความหลังในรูปของ Flashback สับเปลี่ยนไปมาเพื่อรองรับที่มาและเหตุผลในสิ่งที่ 2 แม่ลูกกำลังจะหาทำต่อจากนี้
- พอมาถึงอีก Parts กลายเป็นว่าโทนของหนังส่งกลิ่นบรรยากาศอันไม่พึงประสงค์แบบฉับพลันจนผมรู้สึกสะพรึงไปทุกอณูหลังจากที่ตัวหัวหน้าครอบครัวถึงแก่วาระและสมาชิกที่เหลือได้มีการกวาดปัดเช็ดถูข้าวของภายในบ้านเพื่อเตรียมรอพิธีการใน Step ต่อไปจนกระทั่ง หมอผี ปรากฎตัวตามนัดปุ๊ปก็เป็นอันรับทราบโดยทั่วกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ? ด้วยความที่ตัวละครที่มีหยิบมือถ้าไม่นับแขกผุ้มีเกือกที่โผล่มารายตัวแวบ ๆ และส่วนใหญ่ก็สาละวนอยู่แต่ในบ้านถึง 90% ระหว่างสำรวจอากัปกิริยาของตัวละครที่เริ่มซึมซับปมที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกก็ดีหรือสภาพแวดล้อมภายในที่เริ่มจะมืดดับจนแทบจะกลายเป็นสถานที่ปิดตุยเข้าไปทุกทีภาพในหัวเกิดนึกถึงเรื่อง Insidious ลอยเข้ามาในส่วนของการใช้สีแดงเป็นสัญญะร่วมทางที่ปูบรรยากาศได้สะพรึงกลัวเอาเรื่องอยู่
- แม้ไม่บันเทิงอย่างสาแก่ใจแต่สารที่พูดถึงโลกหลังความตุยจากคนเป็นก็สามารถซื้อใจให้สำรวจความโศกเศร้าที่กำลังทับซ้อนกับโลกคนเป็นอย่างใจจดใจจ่อแม้มีอาการกรึ่ม ๆ จะวูบหลับเพราะความเนือยของการก้าวแค่ความคาใจของตัว 2 แม่ลูกที่ยังอยู่โดยไม่ทันได้ร่ำลาคนเป็นพ่อหรือสามีสักคำมันเป็นอะไรที่เศร้าและสะเทือนใจเหมือนกันจนผมพอเข้าใจในสาเหตุที่ 2 แม่ลูกกำลังถลำลึกกับพิธีกรรมคืนชีพตัวพ่อหรือสามีจากคำชี้นำของ หมอผี ที่กำลังชี้นิ้วสั่งนกทั้งคู่ให้ปฏิบัติตามถึงตัดชิ้นส่วนอวัยวะออกทีละชิ้นจนเลือดแตกยางขาดอย่างกะ Saw ยังไงยังงั้น ?
- ความหาทำที่ทะยานไปเรื่อยจนกู่ไม่กลับได้นำพาไปสู่บทสรุปที่บอกไม่ถูกว่าจะให้รู้สึกอย่างไรก่อนแต่หาทางลงได้โอเคตามจริตผมอยู่ แม้ใจนึงจะสะเทือนกับผลที่ตามมาจากการหาทำหนทางนี้แต่อีกใจก็เกิดเอะขึ้นว่าจบง่าย ๆ แค่นี้ ? ต่อเวลาอีกหน่อยซัก 10 นาทีก็ได้ เพราะช่วงที่ 2 แม่ลูกถูกวาร์ปไปยังอีกโลกนึงจน Feat กับแขกผู้มีเกือกมากหน้าหลายตนเครื่องกำลังร้อนได้ที่ แต่จู่ ๆ เล่นเตะปลั๊กออกกลางอากาศ อารมณ์ที่กำลังลุ้นก็เลย error ไปทันที อย่างไรก็ตามเมื่อตกผลึกกับสารที่คว้ามาอยู่หลายวันก็ประมวลถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า อย่าหาทำในสิ่งที่มองไม่เห็นโดยไม่สามารถควบคุมกติกาที่เราไม่ได้เป็นคนก่อ เพราะเมื่อลงมือแล้วมันมีราคาที่ต้องจ่ายที่เราคาดไม่ถึง โอเคอยู่ว่าการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสัจจะที่มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมิอาจหลีกเลี่ยงได้และเป็นการยากเมื่อคนที่รักหรือรู้จักจากไปต่อหน้าอย่างกระทันหันแล้วตั้งตัวเข็มแข็งด้วยความรวดเร็ว ฉะนั้นพึงระลึกเช่นกันว่าต้องยอมรับ ปล่อยผ่าน และ ให้เวลาเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำให้ทุเลาลงเพื่อที่วันไหนที่เริ่มแข็งแรงขึ้นมาจะได้ลุกขึ้นยืนแล้วเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปโดยเก็บคนที่จากไปไว้ในใจจะได้ไม่ลืมกัน
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ : EMistique
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้