สวัสดีครับ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้สิทธิ์ PDPA ที่ผมเจอมากับตัวเอง ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าเป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกทั้งผิดหวังและเสียความรู้สึกมาก ๆ
เรื่องเริ่มจากผมเคยไปเซ็นสัญญาเตรียมเข้าทำงานกับ S***** E****** ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่สุดท้ายไม่ได้เริ่มงานจริง เอกสารส่วนตัวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน Transcript หรือแม้กระทั่งประวัติการสมัครงานก็ยังคงอยู่กับบริษัท พอเวลาผ่านไปผมเลยตัดสินใจใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย PDPA เพื่อขอให้บริษัทลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้อีกต่อไป
ผมโทรเข้าไปที่ HR ผ่าน Call Center ตั้งใจอธิบายดี ๆ ว่ามาเพื่อใช้สิทธิ์ขอลบข้อมูลส่วนบุคคลตาม PDPA แต่สิ่งที่เจอคือพอพูดยังไม่ทันจบดี สายก็ถูกตัดทิ้งไป ผมไม่อยากคิดมากก็เลยลองโทรซ้ำอีกรอบ ผลคือถูกตัดสายอีกเหมือนเดิมหลังจากทราบว่าผมต้องการติดต่อหน่วยงานกำกับด้าน DPO ผมยังไม่ยอมแพ้ เลยลองโทรครั้งที่สาม ปรากฏว่าเจอเรื่องเดิมอีกครับ ถูกตัดสายใส่เป็นครั้งที่สามติด ๆ กัน รู้สึกเหมือนโดนปฏิบัติแบบไม่ให้เกียรติเลยแม้แต่นิดเดียว
สุดท้ายหลังจากพยายามอยู่พักใหญ่ก็ได้คุยกับ HR แต่สิ่งที่ได้คือคำตอบที่บอกว่า “บริษัทไม่มีแผนกที่ดูแลเรื่องนี้” และยังบอกให้ไปติดต่อกับ P**R เอง ซึ่งเป็นบริษัท outsource ทั้งที่ตามกฎหมายชัดเจนว่า Data Controller คือ S****** (ก็ผมเป็นพนักงานของเขาเองนี่นา) ไม่ใช่ใครที่ไหน จะโยนความรับผิดชอบไปให้บริษัทอื่นไม่ได้เลย ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าองค์กรใหญ่ระดับนี้แทนที่จะทำตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ กลับเลือกที่จะตัดปัญหาด้วยการ “ตัดสาย” และ “โยนภาระ” แทน
ไม่ใช่แค่ S***** E****** เท่านั้นครับ ผมยังมีอีกเคสคือ T**X ที่ผมขอลบข้อมูลไปเหมือนกัน คราวนี้ HR ตอบกลับมาว่า “บริษัทไม่ได้เก็บเอกสารของคุณไว้” ฟังดูเหมือนจบง่าย แต่ปัญหาคือเขาไม่ได้มีหลักฐานอะไรมาแสดงให้มั่นใจเลยว่าข้อมูลของผมไม่มีอยู่จริงหรือถูกลบไปแล้ว ทุกอย่างเป็นเพียงคำพูดลอย ๆ ทำให้สุดท้ายผมก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่าข้อมูลส่วนตัวผมยังอยู่ในระบบหรือไม่
ทั้งหมดนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า สิทธิ์ของ “อดีตพนักงาน” หรือแม้แต่ “ผู้สมัครงาน” ยังไม่ได้รับการให้ความสำคัญเท่าที่ควร ทั้งที่กฎหมาย PDPA ก็ออกมาแล้วชัดเจนว่าบุคคลมีสิทธิ์ขอลบข้อมูลของตนเมื่อไม่มีความจำเป็นต้องเก็บรักษาอีกต่อไป แต่สิ่งที่ผมเจอจาก HR S***** คือการถูกตัดสายใส่ถึงสามครั้ง และการโยนภาระไปมาโดยไม่รับผิดชอบ ส่วน T**X ก็เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่โปร่งใสเพราะไม่มีหลักฐานยืนยัน
เลยอยากถามเพื่อน ๆ ในพันทิปว่า การที่ HR ทำแบบนี้ถือว่าผิดกฎหมายชัดเจนไหม ปกติแล้วถ้าบริษัทลบข้อมูลให้จริง เขาควรมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรหรือ log ยืนยันให้เราด้วยใช่หรือเปล่า แล้วถ้าเราเจอการปฏิบัติแบบนี้ ทางที่เหมาะสมที่สุดคือร้องเรียนกับหน่วยงานไหนได้บ้าง
ผมไม่ได้อยากมีเรื่องอะไรกับบริษัทนะครับ แต่อยากให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ ว่าสิทธิ์ตามกฎหมายมันไม่ควรถูกมองข้ามและการเคารพอดีตพนักงานหรือผู้สมัครงานก็ควรเป็นมาตรฐานพื้นฐานที่องค์กรใหญ่ ๆ ต้องมีครับ
ป.ล. บริษัทดีๆก็มีนะครับยื่นคำขอไป เขาก็ลบให้โดยไม่มีข้อโต้เเย้ง / อีกบริษัทก็มีนัดเข้าไปที่ออฟฟิศเซ็นทำลายเอกสารกันครับ แต่ทำไมสองเจ้านี้ถึงได้วุ่นวายขนาดนี้
HR ขนส่ง Shopping ชื่อดัง ตัดสายใส่ 3 ครั้ง ขอลบ PDPA ยังเจอโยนไปมา องค์กรใหญ่ทำไมถึงไม่เคารพกฎหมาย?
เรื่องเริ่มจากผมเคยไปเซ็นสัญญาเตรียมเข้าทำงานกับ S***** E****** ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่สุดท้ายไม่ได้เริ่มงานจริง เอกสารส่วนตัวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน Transcript หรือแม้กระทั่งประวัติการสมัครงานก็ยังคงอยู่กับบริษัท พอเวลาผ่านไปผมเลยตัดสินใจใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย PDPA เพื่อขอให้บริษัทลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้อีกต่อไป
ผมโทรเข้าไปที่ HR ผ่าน Call Center ตั้งใจอธิบายดี ๆ ว่ามาเพื่อใช้สิทธิ์ขอลบข้อมูลส่วนบุคคลตาม PDPA แต่สิ่งที่เจอคือพอพูดยังไม่ทันจบดี สายก็ถูกตัดทิ้งไป ผมไม่อยากคิดมากก็เลยลองโทรซ้ำอีกรอบ ผลคือถูกตัดสายอีกเหมือนเดิมหลังจากทราบว่าผมต้องการติดต่อหน่วยงานกำกับด้าน DPO ผมยังไม่ยอมแพ้ เลยลองโทรครั้งที่สาม ปรากฏว่าเจอเรื่องเดิมอีกครับ ถูกตัดสายใส่เป็นครั้งที่สามติด ๆ กัน รู้สึกเหมือนโดนปฏิบัติแบบไม่ให้เกียรติเลยแม้แต่นิดเดียว
สุดท้ายหลังจากพยายามอยู่พักใหญ่ก็ได้คุยกับ HR แต่สิ่งที่ได้คือคำตอบที่บอกว่า “บริษัทไม่มีแผนกที่ดูแลเรื่องนี้” และยังบอกให้ไปติดต่อกับ P**R เอง ซึ่งเป็นบริษัท outsource ทั้งที่ตามกฎหมายชัดเจนว่า Data Controller คือ S****** (ก็ผมเป็นพนักงานของเขาเองนี่นา) ไม่ใช่ใครที่ไหน จะโยนความรับผิดชอบไปให้บริษัทอื่นไม่ได้เลย ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าองค์กรใหญ่ระดับนี้แทนที่จะทำตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ กลับเลือกที่จะตัดปัญหาด้วยการ “ตัดสาย” และ “โยนภาระ” แทน
ไม่ใช่แค่ S***** E****** เท่านั้นครับ ผมยังมีอีกเคสคือ T**X ที่ผมขอลบข้อมูลไปเหมือนกัน คราวนี้ HR ตอบกลับมาว่า “บริษัทไม่ได้เก็บเอกสารของคุณไว้” ฟังดูเหมือนจบง่าย แต่ปัญหาคือเขาไม่ได้มีหลักฐานอะไรมาแสดงให้มั่นใจเลยว่าข้อมูลของผมไม่มีอยู่จริงหรือถูกลบไปแล้ว ทุกอย่างเป็นเพียงคำพูดลอย ๆ ทำให้สุดท้ายผมก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่าข้อมูลส่วนตัวผมยังอยู่ในระบบหรือไม่
ทั้งหมดนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า สิทธิ์ของ “อดีตพนักงาน” หรือแม้แต่ “ผู้สมัครงาน” ยังไม่ได้รับการให้ความสำคัญเท่าที่ควร ทั้งที่กฎหมาย PDPA ก็ออกมาแล้วชัดเจนว่าบุคคลมีสิทธิ์ขอลบข้อมูลของตนเมื่อไม่มีความจำเป็นต้องเก็บรักษาอีกต่อไป แต่สิ่งที่ผมเจอจาก HR S***** คือการถูกตัดสายใส่ถึงสามครั้ง และการโยนภาระไปมาโดยไม่รับผิดชอบ ส่วน T**X ก็เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่โปร่งใสเพราะไม่มีหลักฐานยืนยัน
เลยอยากถามเพื่อน ๆ ในพันทิปว่า การที่ HR ทำแบบนี้ถือว่าผิดกฎหมายชัดเจนไหม ปกติแล้วถ้าบริษัทลบข้อมูลให้จริง เขาควรมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรหรือ log ยืนยันให้เราด้วยใช่หรือเปล่า แล้วถ้าเราเจอการปฏิบัติแบบนี้ ทางที่เหมาะสมที่สุดคือร้องเรียนกับหน่วยงานไหนได้บ้าง
ผมไม่ได้อยากมีเรื่องอะไรกับบริษัทนะครับ แต่อยากให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ ว่าสิทธิ์ตามกฎหมายมันไม่ควรถูกมองข้ามและการเคารพอดีตพนักงานหรือผู้สมัครงานก็ควรเป็นมาตรฐานพื้นฐานที่องค์กรใหญ่ ๆ ต้องมีครับ
ป.ล. บริษัทดีๆก็มีนะครับยื่นคำขอไป เขาก็ลบให้โดยไม่มีข้อโต้เเย้ง / อีกบริษัทก็มีนัดเข้าไปที่ออฟฟิศเซ็นทำลายเอกสารกันครับ แต่ทำไมสองเจ้านี้ถึงได้วุ่นวายขนาดนี้