คอลัมน์ : หมอวิ กับคำถามใหญ่ของระบบสาธารณสุขไทย
เผอิญผมไปเจอคุณวูดดี้สัมภาษณ์ คุณหมอวิมา จึงเอามาแชร์ต่อกัน และผมขอเขียนสั้นๆ ตามเนื้อหาดังต่ไปนี้
ประเทศไทยกำลังเผชิญจุดเปราะบางที่สุดของระบบสาธารณสุข เมื่อหมอรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเริ่มหันหลังให้กับเส้นทางที่สังคมเคยมองว่า “มั่นคงและมีเกียรติ” ภายใต้เสื้อกาวน์สีขาวนั้น ไม่ใช่เพียงความรู้และการเสียสละ แต่ยังมีชั่วโมงทำงานที่หนักหน่วงเกินมนุษย์รับไหว — บางครั้งยาวนานถึง 36 ชั่วโมงติดต่อกัน
เรื่องราวของ
แพทย์หญิงวิทิดา ศิริพงษ์ (ว. 49831) หรือที่ผู้ป่วยหลายคนเรียกว่า
“หมอวิ” เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุด วันหนึ่ง เธอเกือบหลับคาห้องผ่าตัดหลังจากเวรต่อเนื่องยาวนาน แทนที่จะได้ใช้ศักยภาพในการรักษาคนไข้ กลับต้องเสี่ยงพลาดเพราะร่างกายไม่ไหว ระบบที่ควรปกป้องทั้งหมอและผู้ป่วย กลับกลายเป็นแรงกดดันที่ผลักให้เธอต้อง “ออกจากระบบ”
หมอวิตัดสินใจเดินบนเส้นทางใหม่ เข้าสู่สายงานความงาม เปิดคลินิกของตัวเอง ท่ามกลางคำถามจากหลายฝ่ายว่าเธอ “หนี” หรือ “ทรยศวิชาชีพ” แต่เธอกลับมองต่างออกไป —
“หน้าที่หมอไม่ใช่แค่รักษา แต่คือการคืนคุณค่าและความหวังให้กับผู้คนที่สิ้นหวัง”
จากแนวคิดนี้ เกิดโครงการ
CSR “แก้ตา 5 บาท” เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ผ่านประสบการณ์ศัลยกรรมตาล้มเหลว บางรายถูกทิ้งให้เผชิญปัญหาความผิดรูปจนเสียความมั่นใจในชีวิต และไม่สามารถเข้าถึงการแก้ไขได้เพราะภาระค่าใช้จ่ายสูง โครงการนี้อาจเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ แต่สะท้อนความเป็น “หมอ” ที่แท้จริง — การเยียวยาทั้งกายและใจ
ปรากฏการณ์หมอวิ ไม่ใช่เพียงเรื่องราวส่วนบุคคล แต่คือสัญญาณเตือนแรง ๆ ว่า
ระบบสาธารณสุขไทยกำลังถึงจุดวิกฤต เรากำลังสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพ เพราะโครงสร้างไม่เอื้อต่อการอยู่รอดของทั้งคนไข้และหมอ หากยังปล่อยให้ความเหนื่อยล้าเป็นคำตอบเดียวของเสื้อกาวน์รุ่นใหม่ อีกไม่นาน เราอาจไม่มีใครเหลือคอยรักษาในโรงพยาบาลรัฐที่คนส่วนใหญ่ต้องพึ่งพา
คำถามที่สังคมไทยต้องร่วมกันหาคำตอบคือ — เราจะปล่อยให้ “หมอวิ” คนต่อไป ต้องเลือกเดินออกจากระบบอีกกี่ราย จึงจะเริ่มยอมรับว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องปฏิรูประบบสาธารณสุขอย่างจริงจัง
ติดตามฟังได้ หมอไทยถึงจุดวิกฤต! เปิดเบื้องลึกระบบสาธารณสุขไทยที่ทำให้หมอลาออกทุกปี | WOODY FM Special

✍️โปรดิวเซอร์แมลงสาบ
คอลัมน์ : หมอวิ กับคำถามใหญ่ของระบบสาธารณสุขไทย
เผอิญผมไปเจอคุณวูดดี้สัมภาษณ์ คุณหมอวิมา จึงเอามาแชร์ต่อกัน และผมขอเขียนสั้นๆ ตามเนื้อหาดังต่ไปนี้
ประเทศไทยกำลังเผชิญจุดเปราะบางที่สุดของระบบสาธารณสุข เมื่อหมอรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเริ่มหันหลังให้กับเส้นทางที่สังคมเคยมองว่า “มั่นคงและมีเกียรติ” ภายใต้เสื้อกาวน์สีขาวนั้น ไม่ใช่เพียงความรู้และการเสียสละ แต่ยังมีชั่วโมงทำงานที่หนักหน่วงเกินมนุษย์รับไหว — บางครั้งยาวนานถึง 36 ชั่วโมงติดต่อกัน
เรื่องราวของ แพทย์หญิงวิทิดา ศิริพงษ์ (ว. 49831) หรือที่ผู้ป่วยหลายคนเรียกว่า “หมอวิ” เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุด วันหนึ่ง เธอเกือบหลับคาห้องผ่าตัดหลังจากเวรต่อเนื่องยาวนาน แทนที่จะได้ใช้ศักยภาพในการรักษาคนไข้ กลับต้องเสี่ยงพลาดเพราะร่างกายไม่ไหว ระบบที่ควรปกป้องทั้งหมอและผู้ป่วย กลับกลายเป็นแรงกดดันที่ผลักให้เธอต้อง “ออกจากระบบ”
หมอวิตัดสินใจเดินบนเส้นทางใหม่ เข้าสู่สายงานความงาม เปิดคลินิกของตัวเอง ท่ามกลางคำถามจากหลายฝ่ายว่าเธอ “หนี” หรือ “ทรยศวิชาชีพ” แต่เธอกลับมองต่างออกไป —
“หน้าที่หมอไม่ใช่แค่รักษา แต่คือการคืนคุณค่าและความหวังให้กับผู้คนที่สิ้นหวัง”
จากแนวคิดนี้ เกิดโครงการ CSR “แก้ตา 5 บาท” เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ผ่านประสบการณ์ศัลยกรรมตาล้มเหลว บางรายถูกทิ้งให้เผชิญปัญหาความผิดรูปจนเสียความมั่นใจในชีวิต และไม่สามารถเข้าถึงการแก้ไขได้เพราะภาระค่าใช้จ่ายสูง โครงการนี้อาจเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ แต่สะท้อนความเป็น “หมอ” ที่แท้จริง — การเยียวยาทั้งกายและใจ
ปรากฏการณ์หมอวิ ไม่ใช่เพียงเรื่องราวส่วนบุคคล แต่คือสัญญาณเตือนแรง ๆ ว่า ระบบสาธารณสุขไทยกำลังถึงจุดวิกฤต เรากำลังสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพ เพราะโครงสร้างไม่เอื้อต่อการอยู่รอดของทั้งคนไข้และหมอ หากยังปล่อยให้ความเหนื่อยล้าเป็นคำตอบเดียวของเสื้อกาวน์รุ่นใหม่ อีกไม่นาน เราอาจไม่มีใครเหลือคอยรักษาในโรงพยาบาลรัฐที่คนส่วนใหญ่ต้องพึ่งพา
คำถามที่สังคมไทยต้องร่วมกันหาคำตอบคือ — เราจะปล่อยให้ “หมอวิ” คนต่อไป ต้องเลือกเดินออกจากระบบอีกกี่ราย จึงจะเริ่มยอมรับว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องปฏิรูประบบสาธารณสุขอย่างจริงจัง
ติดตามฟังได้ หมอไทยถึงจุดวิกฤต! เปิดเบื้องลึกระบบสาธารณสุขไทยที่ทำให้หมอลาออกทุกปี | WOODY FM Special
✍️โปรดิวเซอร์แมลงสาบ