JJNY : วิโรจน์แนะตั้งทักษิณ│ปชน.จี้แก้ท่วมเชียงใหม่│ศุภณัฐโวยซอยข้างศูนย์ขรก.│2 ส.ส.ปชน.ยันละเมิดแน่│อังคณาชี้น่าอับอาย

วิโรจน์ แนะตั้ง ทักษิณ เป็นเสมียนบอร์ดสอบตั๋ว P/N เหน็บใช้คล่องสุดในประเทศ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9912875
.
.
วิโรจน์ จี้ถามความคืบหน้า ตั๋ว P/N แพทองธาร จะเสร็จเมื่อไหร่ แนะตั้ง ทักษิณ เป็นเสมียนบอร์ดสอบตั๋ว P/N เหน็บใช้คล่องสุดในประเทศ “จุลพันธ์” เร่งทำอยู่
.
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 28 ส.ค. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม วาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เรื่องตั๋วพี/เอ็นของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง โดยนายพิชัย มอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง มาตอบกระทู้แทน
.
นายวิโรจน์ กล่าวว่า จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของตนที่ผ่านมาเรื่องการใช้ตั๋วพี/เอ็นของนายกฯ ในการซื้อหุ้นจากแม่ พี่ชาย พี่สาว ลุง และป้าสะใภ้ เป็นจำนวนเงินประมาณ 4.4 พันล้านบาทนั้น และตนขอยกตัวอย่างกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่โอนหุ้นแสนสิริให้ลูกสาว
.
ซึ่งลูกสาวของนายเศรษฐาก็สำแดงอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงมีการจ่ายภาษีรับ ไม่เห็นว่าลูกสาวของนายเศรษฐาจะใช้ตั๋วพี/เอ็นในการซื้อหุ้นจากนายเศรษฐาแต่อย่างใดเลย ต้องชื่นชมว่า นายเศรษฐาสอนลูกมาดี
.
และตนเคยไปยื่นเรื่องกับกรมสรรพากรให้วินิจฉัยเรื่องการใช้ตั๋วพี/เอ็นซื้อหุ้นของน.ส.แพทองธารเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ แต่ผ่านมา 5 เดือนแล้วกลับยังไม่มีความคืบหน้า เงินของสีกากอล์ฟเขาสืบกันจนสิ้นไส้แล้ว แต่ตั๋วพี/เอ็นของนายกฯ ยังไปไม่ถึงไหน
.
ฉะนั้น จึงขอถามว่าการตรวจสอบการใช้ตั๋วพี/เอ็นของน.ส.แพทองธารนั้น มีกำหนดการว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ วันที่เท่าไหร่ ประชาชนจึงจะรู้ว่าแพทองธารโมเดลนั้นถูกกฎหมายหรือไม่ และทำไมนายพิชัยจึงไม่ใช้อำนาจในการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 3 คนในการเข้าไปวินิจฉัยในคณะกรรมการฯ
.
และเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่ามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด โดยชุดหนึ่งคือการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของตั๋วพี/เอ็นทั้งระบบ
.
เรื่องนี้ผมขอแนะนำคุณปิ่นสาย หรือรัฐมนตรีช่วยจะไปบอกก็ได้ว่า เรื่องนี้อธิบดีควรจะเชิญบิดาของนายกฯ มาเป็นเสมียนประจำคณะกรรมการ เพราะบิดาของนายกฯ ใช้ตั๋วพี/เอ็นบ่อยที่สุด ใช้เก่งที่สุด ใช้คล่องที่สุด เก่งกว่าใครในแผ่นดินนี้ ผ่านมา 5 เดือนแล้วไม่มีความชัดเจนที่เป็นรูปธรรม มีแต่การตั้งคณะกรรมการไปมา มีแต่งานธุรการ ดึงเวลาไปเรื่อย ไม่มีกำหนดเสร็จเลย
.
ผมจึงอยากสอบถามว่าที่ผ่านมาความล่าช้าเกิดจากอะไร ใครเป็นผู้รับผิดชอบกับความล่าช้า ซึ่งคุณจุลพันธ์ได้รับมอบหมายให้ดูกรมสรรพากรมาตั้งแต่แรกแล้ว ฉะนั้น ความล่าช้าที่เกิดขึ้นช้าที่คุณพิชัย หรือคุณจุลพันธ์ หากประชาชนจะไปร้องป.ป.ช.เรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ควรจะต้องร้องใคร ร้องคุณพิชัยหรือร้องจุลพันธ์ หรือร้องทั้งคู่ เพราะคุณปิ่นสายโดนแน่ๆ อยู่แล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว
.
ด้านนายจุลพันธ์ กล่าวว่า กรมสรรพากรไม่ได้นิ่งนอนใจตั้งแต่ที่มีหนังสือมาและได้มีการดำเนินการว่ามีมูลตามที่นายวิโรจน์สงสัยหรือไม่ ซึ่งก็ได้ข้อเท็จจริงมาพอสมควรเพื่อทำการตรวจสอบ โดยได้มีการหาข้อมูลจากภายนอกด้วย ถือว่ากรมสรรพากรได้ข้อมูลมาค่อนข้างครบถ้วน และมีการเชิญ 7 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นมาสอบข้อเท็จจริง จะไปเร่งรัดไม่ได้ แต่เราทำตามกรอบที่ระยะเวลาของกฎหมายกำหนด
.
แม้กระทั่งคดีของนายเศรษฐาเราก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย ขณะนี้ผ่านไป 2 ปีแล้วเราก็ยังดำเนินการอยู่ หรืออีกกรณีคือการโอนเงินสนับสนุนม็อบ ซึ่งเป็นกลุ่มของพวกท่านเอง เราก็ดำเนินการถูกต้องและครบถ้วน ไม่ได้เร่งรัดและนิ่งนอนใจ
.
สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยหลังจากที่มีการเชิญทั้ง 7 บริษัทเข้ามาให้ข้อมูลแล้ว หลังจากนี้จะมีการเชิญญาติพี่น้องเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริง กระบวนการทั้งหมดยังต้องดำเนินการต่อไป จะตอบว่าเสร็จเมื่อไหร่คงตอบไม่ได้
.
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หลังจากที่สอบข้อเท็จจริงกับทั้ง 7 บริษัทและญาติพี่น้องเสร็จแล้ว กระบวนการหลังจากนี้กรมสรรพากรก็จะต้องมาดูว่ากรณีที่มีการร้องเรียนเข้ามานั้นมีมูลหรือไม่ หากไม่มีมูลก็ตกไป แต่ถ้ามีมูลก็จะส่งไปที่คณะกรรมการวินิจฉัย
.
และที่นายพิชัยยังไม่ตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้ครบถ้วนนั้น หากมีกรณีที่มีมูลแล้วต้องนำเข้าสู่คณะกรรมการวินิจฉัยนั้น นายพิชัยก็สามารถที่จะเร่งรัดตั้งคณะกรรมการได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องเข้า จึงยังไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ ที่จะต้องมีองค์ประกอบให้ครบถ้วน ย้ำว่านานๆ ทีจะมีเรื่องเข้ามา
.
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า จริงๆ ไม่อยากให้เสียดสีโดยเฉพาะเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประเด็นการเสียดสีนั้นตนขอข้าม แต่ย้ำว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ถามว่าใครรับผิดชอบ ตนมาตอบตรงนี้ไม่ปัดความรับผิดชอบ บอกได้เลยว่าเป็นจุลพันธ์ เราต้องดำเนินการไม่มีการดึงเวลา เราดำเนินการครบถ้วนทุกอย่าง
.
อีกทั้งนายวิโรจน์ก็ยื่นเรื่องดังกล่าวมาที่กรมสรรพากร ไม่ใช่ยื่นไปที่ป.ป.ช. หากนายวิโรจน์มั่นใจว่ากระบวนการนี้ผิด เป็นกระบวนการที่ไม่ถูกไม่ชอบด้วยกฎหมาย วันนี้หนังสือฉบับนี้ไปที่ป.ป.ช.แน่นอน แต่เพราะท่านต้องการให้เกิดความกระจ่างจึงมาที่กรมสรรพากร
.
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ทุกคนติดตามความคืบหน้าอยู่ตลอดว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว แต่หากจะให้สรุปว่าจะเสร็จภายในกี่เดือนกี่ปีนั้น ขอเรียนว่ากระบวนการเหล่านี้ เราเน้นเรื่องของหลักความเป็นธรรมเป็นสูงสุด
.
ฉะนั้น จึงไม่กล้าตอบว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ แต่เราดำเนินการต่อเนื่องไม่ได้หยุด และจะมีข้อสรุปออกมาได้เป็นที่ยอมรับของสังคม หน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะกระทรวงการคลัง เราเน้นเรื่องข้อกฎหมาย ไม่มีใครกล้าไปบิดเบือน
.
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า จากที่ตนฟังคำตอบของนายจุลพันธ์มานั้น คำตอบมากมาย ความหมายคือไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ ว่าท่านได้เร่งรัดหรือไม่ หรืออาจจะยังนะ และก็ไม่รู้ว่าต้องรอให้ดาวเนปจูนโคจรรอบดวงอาทิตย์กี่รอบ ประชาชนจึงจะได้ทราบว่าแพทองธารโมเดลถูกกฎหมายหรือไม่
.
แต่ระหว่างที่รอดาวเนปจูนโคจรรอบดวงอาทิตย์ ระหว่างที่เกิดสุญญากาศเช่นนี้นั้น กรมสรรพากรจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชนคนอื่นๆ ที่มีการโอนหุ้น โอนทรัพย์สิน โอนอสังหาริมทรัยพ์ให้ลูกของเขาอย่างไร มีแนวคิดหรือไม่ มีมาตรการชั่วคราวที่จะอนุญาตให้ประชาชนคนอื่นใช้ตั๋วพี/เอ็นได้ ไม่ใช่อนุญาตแค่น.ส.แพทองธาร ทำได้เพียงคนเดียวในแผ่นดินนี้ อะไรจะเป็นอภิสิทธิ์แต่น.ส.แพทองธารคนเดียว
.
ด้าน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่มีกรณีพิเศษ ไม่ใช่กรณีที่เกิดกับน.ส.แพทองธารเพียงเท่านั้น แต่เป็นกรณีที่ถูกยกมาพูดในสภาฯ ทั้งนี้ เมื่อรับเรื่องได้ตั้งกรรมการตรวจสอบ 2 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและศึกษาถึงการใช้ตั๋วพี/เอ็นที่เป็นช่องโหว่ และควรแก้ไขหรือไม่ ซึ่งในการศึกษาการใช้ตั๋วพี/เอ็นนั้น จะมีข้อสรุปและคำตอบภายในปีนี้ หากมีความจำเป็นเพื่อปิดช่องโหว่ต้องให้สภาฯ แก้ไข ในสภาฯ
.
การตรวจสอบกรณีของน.ส.แพทองธาร ดำเนินการ แม้มองว่าจะช้า แต่กรมสรรรพากรไม่ได้เร่ง แต่ไม่ช้า เป็นไปตามกระบวนการ หากจะเร่งเพื่อความไม่เป็นธรม เพื่อถูกใจท่าน หรือทำให้ช้า เพื่อถูกใจผู้ถูกร้องก็ทำไม่ได้เช่นกัน” นายจุลพันธ์ กล่าว
.

.
ปชน. จี้แก้ท่วมเชียงใหม่ เฉพาะสันป่าตอง จ่ายเยียวยาปีเดียว 64 ล. เหตุจัดการน้ำผิดพลาด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5343021
.

ส.ส.เชียงใหม่ จี้ 3 หน่วยงาน แก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่ เฉพาะอำเภอสันป่าตอง จ่ายเยียวยาแล้วปีเดียว 64 ล้าน เหตุจัดการน้ำผิดพลาด
.
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ในช่วงเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนนั้น นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน หารือถึงการป้องกันและบรรเทาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ลำน้ำขาน อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ลำน้ำขานจะเป็นน้ำที่ไหลมาจากที่สูง ในอำเภอสะเมิงผ่านอำเภอแม่วาง อำเภอสันป่าตอง และอำเภอดอยหล่อ จากนั้นออกสู่ที่แม่น้ำปิง ปัญหาคือเมื่อต้นน้ำที่อำเภอสะเมิง เกิน 60 มิลลิเมตรต่อเนื่องกันเกิน 3 ชั่วโมง ในพื้นที่โซนเมืองของอำเภอสันป่าตองจะต้องลุ้นว่าน้ำจะท่วมหรือไม่ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2565 จนถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2568 น้ำท่วมไปทั้งหมด 17 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากเกินไป เช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นพื้นที่รับน้ำธรรมดา แต่คือการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดแน่นอน ในปี 2567 ปีเดียวใช้งบประมาณเยียวยาไปทั้งหมด 64 ล้านบาทในพื้นที่เดียว เพราะฉะนั้นปัญหานี้คือการบริหารจัดการน้ำ
.
นายภัทรพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนอยากฝากไปยัง 3 ส่วนหน่วยงาน คือ
.
1. จังหวัดเชียงใหม่ ให้บรรจุแผนขุดรอบลำน้ำขานอย่างมีประสิทธิภาพจะต้องดูดดินและดูดทรายไปทิ้งที่อื่นภายในสิ้นปี 2568 หรือต้นปี 2569 เพื่อให้ทันต่อการรองรับน้ำในเดือนพฤษภาคม ปี2569
.
2. ฝากไปยังนายกรัฐมนตรีทราบถึงความเร่งด่วนและความสำคัญของโครงการนี้ เมื่อทางจังหวัดมีการตั้งโครงการขึ้นไป อยากให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนและโดยเร็ว เพื่อให้ทันกับเหตุการณ์ในปีหน้า
.
และ 3. โครงการระยะยาวโครงการต่างๆ ฝากไปยังกรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สนทช.) ให้ระบุแผนบริหารจัดการน้ำลำน้ำขาน ว่าเตรียมการอย่างไรที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
.

.
ศุภณัฐ โวย ซอยข้างศูนย์ราชการ ไฟดับมาเป็นปี เหน็บ ชัชชาติหยุดไลฟ์ แล้วสั่งแก้ปัญหาก่อน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5343019
.
‘ศุภณัฐ’ เหน็บ ‘ผู้ว่าฯชัชชาติ’ หยุดไลฟ์ หยุดวิ่ง หยุดออกอีเวนต์ สัก 10 นาที สั่งหน่วยงานในสังกัดแก้ปัญหาไฟฟ้า-ไฟส่องสว่าง ชุมชนบ่อฝรั่ง-ถนนแจ้งวัฒนะ 5 ซัดร้องเรียนหลายรอบ แต่ไม่คืบหน้า
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 สิงหาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานที่ประชุม ในช่วงเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนนั้น นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคประชาชน หารือเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในชุมชนบ่อฝรั่ง เขตจตุจักร กทม. ว่าไม่มีไฟใช้มานานนับปี มืดทั้งชุมชน ตนร้อง นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าฯกทม.ไปหลายครั้งแต่ไม่มีการแก้ไข ทั้งที่ประชาชนแจ้งปัญหาร้องเรียน และในฐานะ ส.ส. ทำหนังสือสอบถามความคืบหน้าไปหลายครั้ง เรื่องก็ยังเงียบอยู่ และเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ตนได้ลงพื้นที่พร้อมกับ 5 หน่วยงานของ กทม. ทุกคนย้ำตรงกันว่าติดอยู่ที่ผู้ว่าฯกทม.ที่ต้องมอบหมายหน่วยงานเท่านั้นถึงจะทำงานได้ และเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้นำปัญหามาหารือในที่ประชุมสภา แต่ปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไข เกิดการโยนกันไปมาระหว่างนายชัชชาติ และหน่วยงานที่อยู่ในสังกัดกรุงเทพฯ จนวันนี้ตนต้องนำมาหารือในสภาครั้งหนึ่ง
.
แค่ปัญหา แสงสว่าง ผมต้องจี้ขนาดนี้ก็เกินไปหรือไม่ ไปพบผู้ว่าฯลงพื้นที่ ประชุมหน่วยงาน ส่งหนังสือถึงผู้ว่าฯ 2 รอบ อภิปรายในสภา 2 รอบ มันเว่อร์ไปประธาน ติดคอขวดคนเดียว คือผู้ว่าฯชัชชาติ ขอแค่ผู้ว่าฯมอบหมายหน่วยงานให้ดำเนินการ เขาจะได้ทำงานต่อได้ จบแค่นั้น ประชาชนฝากบอก บอกผู้ว่าฯหยุดวิ่ง หยุดไลฟ์ หยุดไปอีเวน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่