เราน่าจะไปต่อคิวซื้อ Himars บ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จรวด ATACMS ที่ยิงจากแนวชายแดนประเทศไทย สามารถครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของประเทศกัมพูชาได้อย่างแน่นอนครับ
คำอธิบายเพิ่มเติม:
จรวด ATACMS (Army Tactical Missile System) เป็นขีปนาวุธทางยุทธวิธีที่มีระยะยิงไกล โดยรุ่นมาตรฐานสามารถยิงได้ไกลถึง 300 กิโลเมตร
เมื่อพิจารณาจากภูมิศาสตร์ ประเทศกัมพูชามีความกว้างจากตะวันตกไปตะวันออกประมาณ 500-600 กิโลเมตร และจากเหนือจรดใต้ประมาณ 450-550 กิโลเมตร ดังนั้น หากยิงจรวด ATACMS จากจุดต่างๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จะสามารถครอบคลุมเป้าหมายสำคัญได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น:
* กรุงพนมเปญ: เมืองหลวงและศูนย์กลางการบัญชาการ
* เมืองพระสีหนุ: เมืองท่าสำคัญทางทะเล
* เมืองเสียมราฐ: ที่ตั้งของนครวัดและนครธม
* ฐานทัพและที่ตั้งทางทหารต่างๆ
ด้วยเหตุนี้ การมีระบบจรวด HIMARS พร้อมด้วยจรวด ATACMS จึงเป็นการยกระดับศักยภาพในการป้องปรามและสร้างอำนาจต่อรองเชิงยุทธศาสตร์ให้กับประเทศไทยได้อย่างมหาศาล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แน่นอนครับ หากปรับอัตราแลกเปลี่ยนเป็น 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้สามารถจัดซื้อจรวด ATACMS ได้ในจำนวนที่มากขึ้นครับ
จากการคำนวณใหม่ด้วยงบประมาณ 5,000 ล้านบาท หลังจากจัดซื้อระบบ HIMARS 4 ระบบ จะสามารถจัดหาจรวด ATACMS ได้เป็นจำนวนประมาณ 53 ถึง 90 ลูก
การคำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 32 บาท/ดอลลาร์
การคำนวณนี้จะใช้ราคาประเมินเดิมของยุทโธปกรณ์ แต่ปรับอัตราแลกเปลี่ยนใหม่:
* ราคาระบบ HIMARS (ประเมิน): 19.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อระบบ
* ราคาจรวด ATACMS (ประเมิน): 1 - 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อลูก
ขั้นตอนการคำนวณ:
* คำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับระบบ HIMARS 4 ระบบ (อัตราใหม่):
* 4 ระบบ x 19.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ระบบ = 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
* แปลงเป็นเงินบาท: 78,000,000 x 32 = 2,496,000,000 บาท
* คำนวณงบประมาณที่เหลือสำหรับจรวด ATACMS:
* 5,000,000,000 - 2,496,000,000 = 2,504,000,000 บาท
* คำนวณจำนวนจรวด ATACMS ที่สามารถจัดซื้อได้ (อัตราใหม่):
* กรณีราคาต่ำสุด (1 ล้านดอลลาร์/ลูก):
* ราคาต่อลูก: 1,000,000 x 32 = 32,000,000 บาท
* จำนวน: 2,504,000,000 / 32,000,000 ≈ 78 ลูก (เดิมคำนวณได้ 76) แก้ไขการคำนวณให้ถูกต้อง
* 2,504,000,000 / 32,000,000 = 78.25 ≈ 78 ลูก
* กรณีราคาสูงสุด (1.7 ล้านดอลลาร์/ลูก):
* ราคาต่อลูก: 1,700,000 x 32 = 54,400,000 บาท
* จำนวน: 2,504,000,000 / 54,400,000 ≈ 46 ลูก (เดิมคำนวณได้ 45) แก้ไขการคำนวณให้ถูกต้อง
* 2,504,000,000 / 54,400,000 = 46.03 ≈ 46 ลูก
สรุป:
เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้งบประมาณที่ใช้จัดซื้อระบบ HIMARS ลดลง และเหลืองบประมาณมากขึ้นสำหรับจัดซื้อจรวด ATACMS ทำให้จำนวนจรวดที่จัดหาได้เพิ่มขึ้นจากเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จรวด ATACMS มีประวัติการใช้งานที่พิสูจน์แล้วในสนามรบจริง และได้สร้างผลกระทบสำคัญในความขัดแย้งต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามล่าสุดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ผลงานหลักๆ สามารถสรุปได้ดังนี้ครับ:
ผลกระทบสำคัญของ ATACMS ในสงครามยูเครน:
* โจมตีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่อยู่ลึกในแนวหลัง: จุดเด่นที่สุดของ ATACMS คือความสามารถในการโจมตีเป้าหมายที่มีมูลค่าสูงซึ่งอยู่นอกระยะของปืนใหญ่หรือจรวดทั่วไปได้ ยูเครนได้ใช้ ATACMS เพื่อโจมตี:
* คลังอาวุธและคลังส่งกำลังบำรุง: การทำลายคลังเหล่านี้จะตัดเส้นเลือดใหญ่ของกองทัพรัสเซีย ทำให้การลำเลียงกระสุน เชื้อเพลิง และเสบียงสู่แนวหน้าเป็นไปได้ยากลำบากขึ้น
* สนามบินและฐานทัพอากาศ: สามารถทำลายเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ที่จอดอยู่บนพื้นดิน ทำให้รัสเซียสูญเสียความได้เปรียบทางอากาศ
* ระบบป้องกันภัยทางอากาศ: การทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศของศัตรู เช่น S-400 เปิดทางให้โดรนและอากาศยานอื่นๆ ของยูเครนสามารถปฏิบัติการได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
* ศูนย์บัญชาการและควบคุม (C2): การโจมตีศูนย์บัญชาการจะทำให้การสื่อสารและการสั่งการของกองทัพรัสเซียเกิดความโกลาหล
* สร้างแรงกดดันทางจิตวิทยา: การที่ยูเครนสามารถโจมตีเป้าหมายที่เคยเชื่อว่าปลอดภัยในแนวหลังของรัสเซียได้ สร้างผลกระทบทางจิตวิทยาอย่างมาก ทำให้ทหารรัสเซียไม่สามารถรู้สึกปลอดภัยได้แม้จะอยู่ห่างจากแนวหน้า
* เปลี่ยนสมดุลในสนามรบ: แม้จะไม่ใช่ "อาวุธวิเศษ" ที่จะยุติสงครามได้โดยลำพัง แต่ ATACMS ได้เพิ่มขีดความสามารถให้ยูเครนสามารถตอบโต้และสร้างความเสียหายให้แก่รัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้รัสเซียต้องปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการวางกำลังและส่งบำรุง
ประวัติการใช้งานในความขัดแย้งอื่น:
ก่อนสงครามในยูเครน ATACMS ได้ถูกใช้งานโดยกองทัพสหรัฐฯ มาแล้วในหลายสมรภูมิ:
* สงครามอ่าวเปอร์เซีย (Operation Desert Storm, 1991): เป็นการใช้งาน ATACMS ในสนามรบครั้งแรก โดยประสบความสำเร็จในการทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศ, ฐานยิงขีปนาวุธ และศูนย์บัญชาการของอิรัก
* สงครามอิรัก (Operation Iraqi Freedom, 2003): มีการใช้งาน ATACMS มากกว่า 450 ลูก เพื่อโจมตีเป้าหมายทางยุทธวิธีและสนับสนุนหน่วยภาคพื้นดิน
โดยสรุป "ผลงาน" ของ ATACMS คือการเป็นอาวุธโจมตีระยะไกลที่มีความแม่นยำสูง สามารถทำลายเป้าหมายสำคัญในแนวลึกของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินสงครามทั้งในด้านกายภาพและจิตวิทยา
เราน่าจะไปต่อคิวซื้อ Himars บ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้