บริจาคเงินแล้ว คนเอาเงินไปทรมานหมาแมว ทรมานคนติดเชื้อ
แล้วคิดว่าได้บุญ >> เป็นการคิดสั้นๆ
กรรมนี้ ก็จะสนองกลับในรูปแบบเดียวกัน
ชาติหน้าคุณจะเป็นคนติดเชื้อ หรือเป็นหมาแมว แล้วมีคนมาทรมาน
ดันมีคนใจบุญบริจาค มาส่งเสริม ในการแกล้งทรมานคุณให้สาหัสขึ้นไปอีก
บางคนให้เงินขอทาน แล้วฟินมาก บอกว่าได้บุญตอนทำแล้ว
แก๊งค์ขอทานไปขโมยเด็ก มาทำให้พิการ แล้วออกขอทาน
ยิ่งให้ แก๊งค์ยิ่งเติบใหญ่ ในที่สุด กรรมนั้นก็จะตกแก่ลูกหลานคุณเอง ไม่ต้องไปรอถึงชาติหน้า
>>พระที่บอกว่า ทำบุญก็ได้บุญตอนนั้นแล้ว คงตั้งใจจะเอาเงินนั้นไปถลุง
เหมือนที่นักโทษบีบอก วัดได้ 70% ตัวเขาได้ 30% คนบริจาคได้บุญ มีแต่คนได้ๆๆ ไม่มีคนเสีย แล้วจะผิดตรงไหน
ตรรกะนี้เกิดขึ้นได้ไง
ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ทำบุญข้างเดียวจะได้อะไร ไม่เข้าใจ
มันก็คือ อวิชชาแบบหนึ่ง คือโง่ แล้วคิดเข้าข้างตัวเอง เพื่อให้สบายใจ
บุญได้ตอนที่ทำ กรรมก็สนองตามบุญที่คิดว่าได้นั่นแหละ
แล้วคิดว่าได้บุญ >> เป็นการคิดสั้นๆ
กรรมนี้ ก็จะสนองกลับในรูปแบบเดียวกัน
ชาติหน้าคุณจะเป็นคนติดเชื้อ หรือเป็นหมาแมว แล้วมีคนมาทรมาน
ดันมีคนใจบุญบริจาค มาส่งเสริม ในการแกล้งทรมานคุณให้สาหัสขึ้นไปอีก
บางคนให้เงินขอทาน แล้วฟินมาก บอกว่าได้บุญตอนทำแล้ว
แก๊งค์ขอทานไปขโมยเด็ก มาทำให้พิการ แล้วออกขอทาน
ยิ่งให้ แก๊งค์ยิ่งเติบใหญ่ ในที่สุด กรรมนั้นก็จะตกแก่ลูกหลานคุณเอง ไม่ต้องไปรอถึงชาติหน้า
>>พระที่บอกว่า ทำบุญก็ได้บุญตอนนั้นแล้ว คงตั้งใจจะเอาเงินนั้นไปถลุง
เหมือนที่นักโทษบีบอก วัดได้ 70% ตัวเขาได้ 30% คนบริจาคได้บุญ มีแต่คนได้ๆๆ ไม่มีคนเสีย แล้วจะผิดตรงไหน
ตรรกะนี้เกิดขึ้นได้ไง
ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ทำบุญข้างเดียวจะได้อะไร ไม่เข้าใจ
มันก็คือ อวิชชาแบบหนึ่ง คือโง่ แล้วคิดเข้าข้างตัวเอง เพื่อให้สบายใจ