[Stray Kids] ภาพงานเปิดตัวอัลบั้ม "KARMA" และบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับการทำอัลบั้มทั้งที่อยู่ระหว่างเวิลด์ทัวร์

.

งานแถลงข่าวมีขึ้นเช้าวันที่ 22 สิงหาคมนะคะ
นักข่าวได้ถ่ายภาพและสัมภาษณ์ถึงการทำงานของวง
เราแปลและเรียบเรียงบทสัมภาษณ์แบบคร่าวๆ ผิดพลาดตรงไหนขออภัยนะคะ

***ต้นฉบับสัมภาษณ์มาจากหลายสำนักข่าว ซึ่งแต่ละที่ลงสั้นยาว+ลำดับคำสัมภาษณ์ต่างกัน
เรานำมาเรียงตามลำดับเมมเบอร์เป็นหลักค่ะ***

สเตรย์คิดส์กลับมาอีกครั้งหลังประสบความสำเร็จอย่างสูง กับเวิลด์ทัวร์ Dominate ที่กินเวลานานถึง 11 เดือน มาพร้อมกับความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม ถือเป็นการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ของสเตรย์คิดส์ที่ทำกิจกรรมระดับโกลบอลได้ยิ่งใหญ่กว่าใครหลังเดบิวได้ 8 ปี

เวิลด์ทัวร์นี้จัดทั้งหมด 54 รอบใน 34 ภูมิภาคทั่วโลกภายใต้ชื่อทัวร์ "dominATE" ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วจนถึงเดือนกรกฎาคม  พวกเขาได้ไปเยือนสนามกีฬา 13 แห่งจากทั้งหมด 27 แห่ง ประสบความสำเร็จในหลายแง่ทั้งคำว่า "ครั้งแรก" "ดีที่สุด" และ "มากที่สุด"

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อัลบั้มที่4 ที่มีชื่อว่า 'KARMA' เป็นอัลบั้มที่บรรจุปรัชญาอันมั่นคงและเรื่องราวของการเติบโตของผู้ที่สร้างเส้นทางของตัวเองโดยไม่สั่นคลอนหวั่นไหวแม้จะมีสายตาของคนนอกนับไม่ถ้วนคอยจับจ้องและมีความขัดแย้งมากมายอยู่ภายในใจ
.
[ บังชาน ]

ลีดเดอร์บังชานกล่าวว่า "นี่เป็นอัลบั้มแรกและคัมแบ็กแรกของเราในปีนี้ เราทัวร์และเตรียมตัวอย่างหนักสำหรับอัลบั้มนี้เป็นเวลานานถึง 11 เดือน ผมคิดว่าอัลบั้มที่เราใส่ความพยายามอย่างมากลงไปนี้คือของขวัญชิ้นใหญ่ที่เราจะมอบให้กับสเตย์ แล้วผมก็อยากเห็นปฏิกิริยาของสเตย์มากๆ อยากรู้ด้วยว่าเราได้ทำอย่างเต็มที่โดยไม่มีอะไรต้องเสียใจทีหลังหรือเปล่า ผมดีใจมากที่จะได้ทักทายทุกคนด้วยอัลบั้มเต็มชุดนี้ครับ"  
.
.

ส่วนชื่ออัลบั้ม 'KARMA' บังชานอธิบายว่า "เราอยากปล่อยอัลบั้มที่สะท้อนถึงผลตอบแทนด้านดีจากผลจากความสำเร็จและความพยายามที่เราสร้างรวมกันมากับสเตย์ครับ"

ชื่ออัลบั้ม 'KARMA' แปลว่า โชคชะตาหรือกรรม สเตรย์คิดส์ได้เพิ่มความหมายของ "ความสงบ" เข้าไป เพื่อสื่อความหมายว่า "เมื่อกรรมชั่วมาถึง เราจะสงบมันด้วยกรรมดี" นอกจากนี้ อัลบั้มนี้ยังดึงดูดความสนใจด้วยการนำเสนอคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับกีฬาอีกด้วย
.

เพลงไตเติ้ล "Ceremony" จะเป็นแนว EDM trap เข้มๆผสมผสานกับจังหวะแบบ Bailey Funk เป็นเพลงที่ฉลองเส้นทางแห่งความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างหนักที่จะเอาชนะอุปสรรคนานับประการตลอดเส้นทางนี้

บังชานกล่าวว่า "ในฐานะคนที่ชอบเกม ผมติดตามดูอีสปอร์ตจริงจังมากครับ ตอนท้ายมิวสิควิดีโอมีคุณ Faker ปรากฏตัวด้วย และผมก็คิดว่ามันเหมือนกับที่เกมมีความหลากหลายนั่นละ เพลงของเราก็มีความหลากหลายมากเช่นกัน ให้ความรู้สึกเหมือนมีหลากหลายแนวและหลากหลายประเภท ผมเลยคิดว่ามันเทียบได้กับอีสปอร์ตครับ"

สเตรย์คิดส์กำลังท้าทายตัวเองด้วยดนตรีแนวใหม่ในเพลง "Ceremony" บังชานที่เป็นคนแต่งเพลงนี้ร่วมกับทีม3ราชาซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของทีมได้กล่าวว่า "เราเตรียมอัลบั้มนี้หลังจากหารือกันอย่างละเอียดกับสมาชิกทุกคน อีกทั้งเรายังอยากโชว์ สีสันทางดนตรีใหม่ๆ ของวงด้วย"  

แม้แต่ตอนอยู่ในห้องพักของโรงแรม ทุกคนก็ยังทุ่มเทแต่งเพลงตลอดช่วงระยะเวลาทัวร์อันยาวนาน สมาชิก 3Racha เล่าว่า "เราต้องเสียงดังมากแน่ๆเพราะไหนจะต้องแพคอุปกรณ์และต้องบันทึกเสียง ตอนทำเพลงกับคิดเรื่องเพอร์ฟอร์มานซ์ทำให้เรารู้ว่าเราทุ่มเททั้งหมดก็เพื่อสเตย์  เรารู้สึกได้ถึงสิ่งที่แผดเผาอยู่ในใจ มันคือความรู้สึกที่เป็นสุขและอบอุ่นครับ"

ทั้งหมดแบ่งปันแนวคิดและนำมาใช้เป็นแหล่งอ้างอิงในการแต่งเพลงด้วย หลัง 3Racha ทำงานเสร็จ เมมเบอร์ที่ดูแลเรื่องเพอร์ฟอมานซ์ ก็จะออกความเห็นและส่งฟีดแบ็กที่มีต่อเพลงให้ ทุกคนทำขั้นตอนเหล่านี้มานานจนเหล่าสมาชิกวงสเตรย์คิดส์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เราทุกคนบ้ากันหมดครับ"


เขาเน้นว่า “เพลงไตเติ้ลนี้เป็นแนวเพลงและคอนเทนต์ที่ผมไม่เคยลองมาก่อน ผมคิดถึงธีมของกรรมดีกับคิดเรื่องที่โชคชะตาของผมจะเปลี่ยนไปยังไงก็อยู่ที่สิ่งที่ผมทำและเลือกในเวลานี้ ความพยายามและความทุ่มเทที่เราทุกคนทำร่วมกันจนถึงปัจจุบันก็ยิ่งใหญ่เช่นกัน การคิดถึง ‘กรรมดี’ ทำให้ผมมีความมั่นใจอย่างมาก”

บังชานกล่าวอย่างถ่อมตนว่า "ถ้า  KARMAได้รับการตอบรับทีดี เราจะรู้สึกซาบซึ้งและเป็นเกียรติมาก แต่เป้าหมายสูงสุดของเราคือการได้โปรโมทต่อไปอย่างยาวนานและได้เผยแพร่ดนตรีกับการแสดงแบบที่เราอยากทำ  เป้าหมายของเราคือการทำให้โลกได้รู้จักแนวดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของเราครับ"
.
[ ลีโนว ]

ลีโนวกล่าวว่า "ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมอินกับรถแข่ง F1 มากในช่วงนี้หรือเปล่า แต่ผมคิดว่ามันค่อนข้างคล้ายกับ F1 ครับ ตรงที่พวกเรายังคงขับอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งรถแข่ง F1 ไม่ใช่กีฬาที่อาศัยความแข็งแกร่งของนักแข่งเพียงคนเดียว แต่อาศัยการทำงานร่วมกันเป็นทีมมากกว่า เช่นเดียวกับกีฬาทุกประเภท เรายังอยากเปรียบเทียบตัวเองกับ F1 ด้วย เพราะเรามองว่าทั้งเรา ทั้งสเตย์ และบริษัท ต่างก็ทำงานร่วมกันได้ดีครับ"
.
[ ชางบิน ]

ชางบินกล่าวว่า "พวกเราได้รับความรักมากมายจากทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกของเรา เพื่อเป็นการตอบแทนความรักนั้น เราคิดว่าเราต้องทำให้ STAY พึงพอใจด้วยอัลบั้มที่คู่ควรกับความรักนั้น และเราคิดว่าอัลบั้มเต็มน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตอบแทน STAY เรายังคิดว่าอัลบั้มที่เราทุ่มเททั้งหัวใจและจิตวิญญาณคือวิธีที่ดีที่สุดในการตอบแทน STAY" เขากล่าวต่อว่า "พวกเราจะอดใจไม่อยู่จริงๆเวลาเจอเรื่องสนุก  'Ceremony' เป็นแนวเพลงที่เราไม่เคยลองมาก่อน เวลานึกไอเดียอะไรได้เราจะพยายามลองทำดู และผลที่ได้ก็คือดนตรีที่สะท้อนให้เห็นเอกลักษณ์ของวงเราครับ"

ชางบินกล่าวอย่างมั่นใจว่า “สมาชิกทุกคนคลั่งไคล้เวที คลั่งไคล้ดนตรี และคลั่งไคล้ทีมที่มีชื่อว่าสเตรย์คิดส์ครับ” เขาเสริมว่า “พวกเรามักรวมตัวกันและถกกันเรื่องวิสัยทัศน์ของวงอย่างจริงจังอยู่บ่อยๆ เราเหมือนคนบ้าครับแต่บ้าแบบดีนะ ความรักที่เรามีต่อทีมเป็นแบบบ้าคลั่งจริง ๆ เราจับทางเก่งว่าเราทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ผลงานออกมาดี และเพลงแบบไหนที่จะทำให้แฟนเพลงของเราคลั่งไคล้”

"เหตุผลที่เราตั้งชื่ออัลบั้มว่า 'Karma' ก็เพราะว่าเราต้องการรวมเอาความสำเร็จและผลจากการทำกรรมดีที่เราได้สร้างไว้กับสเตย์เอาไว้ในอัลบั้มนี้ครับ" เขากล่าวต่อว่า "ส่วนคอนเซ็ปต์เรื่องกีฬาก็มาจากการที่ทัวร์นี้เป็นทัวร์คอนเสิร์ตสเกลสเตเดี้ยมครั้งแรกของเรา และประสบการณ์ที่ได้อยู่บนเวทีและการพูดคุยกับสเตย์ทำให้เรานึกถึงพิธีการต่างๆ เราจึงตัดสินใจเลือกคอนเซ็ปต์นี้ครับ"

เมื่อถามถึงสนามท็อตแนม "ตอนที่ผมเห็นสนามท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ครั้งแรก ปกติผมมักจะไม่ถ่ายวิดีโอนะ แต่วันนั้นผมก็เริ่มถ่ายทันทีเลยครับ ผมซื้อชุดแข่งมาด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษมาก ผมมีช่วงเวลาที่น่าจดจำกับสมาชิกทุกคน และก็มีความสุขมากที่ได้อยู่ที่นั่นกับสเตย์"

ชางบินกล่าวว่า "เมื่อมองย้อนกลับไป ผมรู้สึกขอบคุณมากสำหรับช่วงเวลานี้ ผมคิดว่าเราได้รับความรักมากมายจนไม่น่าเชื่อ" เขากล่าวต่อว่า "ถ้านึกย้อนถึงช่วงแรก ตอนนั้นเรากังวลกันมากว่าเพลงของเรามันถูกทางหรือยังหรือว่าเราควรทำอย่างไร มันมีความไม่แน่ใจอยู่ครับในตอนนั้น แต่สมาชิกและแฟนๆต่างเชื่อมั่นในตัวเรา เราจึงสามารถเดินหน้าต่อด้วยความมั่นใจและความเชื่อมั่นได้ เราดื้อรั้นกันมาก แต่ผมคิดว่าความดื้อรั้นนั้นเหมาะกับสเตรย์คิดส์มากจริงๆ มันเป็นช่วงเวลาที่เหมือนฝันระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ต"
.
[ ฮยอนจิน ]

ฮยอนจินกล่าวว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้จัดคอนเสิร์ตระดับสเตเดียม พวกเราเลยรู้สึกประหม่ามาก ตอนเข้าไปในสเตเดียมผมก็คิดเลยว่าเราควรจะขอบคุณ STAY (ชื่อแฟนคลับของเรา) จริงๆ ที่รักพวกเรามากมายขนาดนี้ทั้งที่อยู่ห่างไกล ถ้าจะให้นึกถึงฉากหนึ่งก่อนที่ผมจะตาย คงจะเป็นภาพแววตาของ STAY ที่ผมได้เห็นจากบนเวทีคอนเสิร์ตครับ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่