จากเจ้าขุนมูลนายสู่ยุค Bitcoin: ความมั่งคั่งวัดกันยังไง?

👑 จากเจ้าขุนมูลนายสู่ยุค Bitcoin: ความมั่งคั่งวัดกันยังไง?

ลองนึกภาพย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน…
ในยุคที่บ้านเมืองยังปกครองกันด้วยเจ้าขุนมูลนาย ความมั่งคั่งไม่ได้วัดด้วย “บัญชีธนาคาร” หรือ “หุ้นในพอร์ต” แต่วัดจาก จำนวนครอบครัว คนในเรือน และบ่าวไพร่ ที่เจ้าของบ้านเลี้ยงดูได้

บ้านใดมีลูกหลานเยอะ = มีกำลังแรงงาน

มีภรรยาหลายคน = มีผู้ดูแลกิจการ บ้านเรือน และทายาทมากมาย

มีบ่าวไพร่จำนวนมาก = แปลว่ามีอาณาจักรที่แข็งแรง

นั่นคือมาตรฐานความมั่งคั่งในอดีต 🏰

---

⚡ ข้ามมายังยุคปัจจุบัน โลกของเราไม่ได้วัดความมั่งคั่งด้วยจำนวนบ่าวไพร่อีกต่อไป
แต่เรายังมีโจทย์เดิม…
👉 “เราจะเลี้ยงครอบครัวให้อยู่อย่างสุขสบายได้อย่างไร?”

ปัญหาคือ หากวัดด้วย เงินบาท หรือ ดอลลาร์ ความมั่งคั่งที่เราวางแผนไว้มักถูก เงินเฟ้อกัดกิน ทุกปี ๆ ก๋วยเตี๋ยวจาก 5 บาทกลายเป็น 50 บาท เงินเก็บที่เคยพอ กลายเป็นไม่พอ

แล้วจะมีมาตรฐานใหม่ที่ใช้วัดได้มั่นคงกว่านี้ไหม?

---

💡 สมมุติว่าเราลองใช้ Bitcoin เป็นหน่วยวัดความมั่งคั่ง

เพราะ Bitcoin ไม่เหมือนเงินกระดาษ มัน หายาก มีจำกัด 21 ล้านเหรียญ และไม่มีใครพิมพ์เพิ่มได้
ถ้าเราใช้มันเป็นเกณฑ์ ก็จะวางแผนชีวิตได้ชัดเจนขึ้น

เลี้ยงภรรยา 1 คนให้อยู่สุขสบายพอเพียง อาจต้องใช้ 0.5 BTC

ถ้ามีภรรยา 4 คน + ลูก ๆ อีกหลายชีวิต = อาจต้องใช้ 2-3 BTC

จากนั้นเราก็สร้าง “อาณาจักรของครอบครัว” ที่มั่นคงได้


นี่ไม่ใช่การบอกให้มีภรรยาเยอะ ๆ 😅 แต่เป็นการชวนให้คิดว่า:

👉 หน่วยวัดความมั่งคั่งที่มั่นคง สำคัญแค่ไหนต่อการวางแผนชีวิต
---
🔥 ยุคสมัยเปลี่ยนไปจากเจ้าขุนมูลนายสู่โลกดิจิทัล แต่หลักการยังเหมือนเดิม:
คนมั่งคั่งไม่ใช่คนที่หาได้เยอะที่สุด แต่คือคนที่วัดและเก็บความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคงที่สุด

บางที Bitcoin อาจเป็น “หน่วยวัดความมั่งคั่ง” แบบใหม่ ที่ทำให้เรากลับมาวางแผนอนาคตได้เหมือนบรรพบุรุษ…
เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่การวัดด้วย “จำนวนไร่นา” หรือ “จำนวนบ่าวไพร่”
แต่คือ กี่ Bitcoin ถึงจะพอ? 💎

---

คุณล่ะ? ถ้าวัดด้วย Bitcoin ตอนนี้ คุณคิดว่าความมั่งคั่งที่ “พอ” ของคุณอยู่ที่กี่ BTC? 🚀

#soundmoneyzap #siamstr #bitcoin

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่