สวัสดีครับทุกคน ก่อนอื่นขอแนะนำตัวกันก่อน ผมเป็นผู้ชายวัยกลางคน คนหนึ่งที่ได้ทำสิ่งต่าง ๆ มากมายในชีวิต ซึ่งบอกได้เลยว่าแต่ละช่วงวัยมีการดำเนินชีวิตที่อยู่ในจุด ต่ำตมสุด ๆ และจุดที่สูงเสียดฟ้า แต่สิ่งที่อยากจะเล่าให้เพื่อน ๆ ได้อ่านนั้นมีหลากหลายอารมณ์และมันอาจจะเป็นการบรรยายที่ออกจะตัดพ้อไปบ้าง มาเริ่มกันเลย
ผมขออนุญาติเล่นเป็นช่วงเวลานะครับเพื่อไม่ให้สับสนกับเรื่องที่อยากจะเล่า
ช่วงวัยเด็ก - วัยรุ่น (1 - 15ขวบปี)
ผมเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง พ่อแม่ทำงานราชการ อนุบาลเรียน 2 โรงเรียนซึ่งก็ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร ขึ้นประถมต้นก็เรียน 2 โรงเรียน ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นถึงได้ย้ายไปเรื่อย พอระถมปลายก็ย้ายไปอีกโรงเรียนนึงหลังจากจบ ป.6 ได้ย้ายอีกที่ซึ่งเป็น โรงเรียนประจำ หลังจบ ม.ต้นก็ย้ายกลับมาเรียนสายอาชีพ ซึ่งก็ย้ายไปย้ายมาอีก 3 วิทลัย เห้ออออ คิดแล้วเหนื่อย รอดมาได้ยังไง เอาเป็นว่าน่าจะเป็นเรื่องของฐานะทางการเงินหรืออะไรสักอย่างจำไม่ได้เพราะพ่อเคยเล่าให้ฟังนานมากแล้ว
ช่วงวัยรุ่น (15 - 25ขวบปี)
ผมก็เรียน ๆ เล่น ๆ จนจบปริญญาตามที่พ่อแม่หวังไว้ปกติแต่ระหว่างทางนั้นมีเลี้ยวซ้ายขวาบ้างซึ่งเป็นช่วงที่ทำให้ทุกคนในครอบครัวเสียใจกันยกใหญ่ ถ้าให้เพื่อน ๆ เดามีอะไรบ้างล่ะสำหรับเด็ก ผู้ชาย > ติดเพื่อน,ติดยา,ติดเกมส์,การพนัน,เที่ยวกลางคืน,ติดหญิง เอาเป็นว่า ผมได้ลองทำทุกอย่างครับ แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรเลย เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเป็นเยี่ยงอย่าง มีแม้กระทั่งนั่งสารภาพกับพ่อแม่ว่าไม่ได้เรียนแล้ว แต่ที่แต่งตัวออกไปทุกวันนั่นคือไปทำอย่างอื่น ไปที่อื่น แต่ก็นะ บางคนอาจจะมีการกระทำที่เลวร้ายกว่านี้ก็ได้ใครจะรู้ ปัญหาของผมมันอาจจะเล็กไปเลยก็ได้ แต่สำหรับผมตอนนั้น เรื่องใหญ่มากกับเด็กคนนึงที่พึ่งท่องโลกกว้าง และก็เข้าสู่ช่วงทำผิดหนัก ๆ ก็ติดพนันนี่แหละ หมดทุกอย่าง ทั้งเงิน ทั้งความไว้เนื้อเชื่อใจ ทั้งเพื่อน ตอนนั้นก็มีหวั่น ๆ ว่าจะอยู่ต่อไปไม่ได้แต่ก็ยังมี พ่อแม่ คอยยื้อไว้
ไม่รู้ช่วงนี้จะยังเรียกวัยรุ่นมั้ย (26-ปัจจุบัน)
ช่วงนี้ทำงานแล้ว แต่.....ยังจดจ่อกับ อบายมุข หาทางออกมายากเหมือนเดิม มีการงานที่ดีทำนะ แต่ว่า ไม่ค่อยได้เติบโต ไม่รู้ว่าเหมาะสมกับงานที่ทำตอนนี้หรือเปล่า อยากทำหลายอย่างแต่ไม่เริ่มสักอย่าง บางทีก็อยากจะมาระบายเพื่อให้ความคิดมันได้แล่นต่อไป
จริง ๆ ผมก็ไม่ได้มีเรื่องมาเล่าอะไรมากมายอยากขอกำลังใจจากเพื่อน ๆ ที่ผ่านเข้ามาเจอ มาอ่านสักนิดสักหน่อย เพื่อเป็นเครื่องกระตุ้นให้มีแรงในการใช้ชีวิตต่อไป......หากมีอะไรจะเล่าอีกเดี๋ยวมาพิมพ์ต่อนะ
ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
ผมขออนุญาติเล่นเป็นช่วงเวลานะครับเพื่อไม่ให้สับสนกับเรื่องที่อยากจะเล่า
ช่วงวัยเด็ก - วัยรุ่น (1 - 15ขวบปี)
ผมเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง พ่อแม่ทำงานราชการ อนุบาลเรียน 2 โรงเรียนซึ่งก็ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร ขึ้นประถมต้นก็เรียน 2 โรงเรียน ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นถึงได้ย้ายไปเรื่อย พอระถมปลายก็ย้ายไปอีกโรงเรียนนึงหลังจากจบ ป.6 ได้ย้ายอีกที่ซึ่งเป็น โรงเรียนประจำ หลังจบ ม.ต้นก็ย้ายกลับมาเรียนสายอาชีพ ซึ่งก็ย้ายไปย้ายมาอีก 3 วิทลัย เห้ออออ คิดแล้วเหนื่อย รอดมาได้ยังไง เอาเป็นว่าน่าจะเป็นเรื่องของฐานะทางการเงินหรืออะไรสักอย่างจำไม่ได้เพราะพ่อเคยเล่าให้ฟังนานมากแล้ว
ช่วงวัยรุ่น (15 - 25ขวบปี)
ผมก็เรียน ๆ เล่น ๆ จนจบปริญญาตามที่พ่อแม่หวังไว้ปกติแต่ระหว่างทางนั้นมีเลี้ยวซ้ายขวาบ้างซึ่งเป็นช่วงที่ทำให้ทุกคนในครอบครัวเสียใจกันยกใหญ่ ถ้าให้เพื่อน ๆ เดามีอะไรบ้างล่ะสำหรับเด็ก ผู้ชาย > ติดเพื่อน,ติดยา,ติดเกมส์,การพนัน,เที่ยวกลางคืน,ติดหญิง เอาเป็นว่า ผมได้ลองทำทุกอย่างครับ แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรเลย เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเป็นเยี่ยงอย่าง มีแม้กระทั่งนั่งสารภาพกับพ่อแม่ว่าไม่ได้เรียนแล้ว แต่ที่แต่งตัวออกไปทุกวันนั่นคือไปทำอย่างอื่น ไปที่อื่น แต่ก็นะ บางคนอาจจะมีการกระทำที่เลวร้ายกว่านี้ก็ได้ใครจะรู้ ปัญหาของผมมันอาจจะเล็กไปเลยก็ได้ แต่สำหรับผมตอนนั้น เรื่องใหญ่มากกับเด็กคนนึงที่พึ่งท่องโลกกว้าง และก็เข้าสู่ช่วงทำผิดหนัก ๆ ก็ติดพนันนี่แหละ หมดทุกอย่าง ทั้งเงิน ทั้งความไว้เนื้อเชื่อใจ ทั้งเพื่อน ตอนนั้นก็มีหวั่น ๆ ว่าจะอยู่ต่อไปไม่ได้แต่ก็ยังมี พ่อแม่ คอยยื้อไว้
ไม่รู้ช่วงนี้จะยังเรียกวัยรุ่นมั้ย (26-ปัจจุบัน)
ช่วงนี้ทำงานแล้ว แต่.....ยังจดจ่อกับ อบายมุข หาทางออกมายากเหมือนเดิม มีการงานที่ดีทำนะ แต่ว่า ไม่ค่อยได้เติบโต ไม่รู้ว่าเหมาะสมกับงานที่ทำตอนนี้หรือเปล่า อยากทำหลายอย่างแต่ไม่เริ่มสักอย่าง บางทีก็อยากจะมาระบายเพื่อให้ความคิดมันได้แล่นต่อไป
จริง ๆ ผมก็ไม่ได้มีเรื่องมาเล่าอะไรมากมายอยากขอกำลังใจจากเพื่อน ๆ ที่ผ่านเข้ามาเจอ มาอ่านสักนิดสักหน่อย เพื่อเป็นเครื่องกระตุ้นให้มีแรงในการใช้ชีวิตต่อไป......หากมีอะไรจะเล่าอีกเดี๋ยวมาพิมพ์ต่อนะ