เหตุใดความเร็วของเรือจึงวัดเป็น “นอต (Knot)”
เวลาที่เราขับรถหรือขี่จักรยาน ความเร็วจะถูกวัดเป็น “ไมล์ต่อชั่วโมง” หรือ “กิโลเมตรต่อชั่วโมง” แต่พอขึ้นเรือ หน่วยวัดจะเปลี่ยนไป จะใช้เป็น “นอต (Knot)” แทนในการบอกความเร็ว
แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? วันนี้เราลองมาหาคำตอบกัน
ในสมัยก่อน ลูกเรือยังไม่มีทั้งจีพีเอสหรือแผนที่สมัยใหม่ พวกเขาต้องอาศัยสิ่งที่มีอยู่รอบตัวในการกำหนดเส้นทางและคำนวณเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทาง การรู้ความเร็วของเรือจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากไม่รู้ เรืออาจหลงทางไปไกลจนถึงขั้นเป็นอันตรายได้ การรู้ว่าเรือแล่นเร็วแค่ไหนจึงจำเป็นต่อการเดินเรือและการคำนวณเวลาที่จะไปถึงจุดหมาย
คำว่า “นอต (Knot)” อาจจะฟังดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับเชือก ซึ่งก็ถูก เพราะคำนี้มีที่มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 อ้างอิงจากความยาวของ “ไมล์ทะเล (Nautical mile)” ซึ่งคำนวณมาจากเส้นรอบวงของโลก โดย 1 ไมล์ทะเลเท่ากับ 1 ลิปดา (หรือ 1/60 ขององศา) ของเส้นละติจูด และ 1 นอตก็คือการเดินทางด้วยความเร็ว 1 ไมล์ทะเลต่อชั่วโมง
ส่วน “ไมล์” ที่เราใช้กันบนบกนั้นคือ “ไมล์สถิต” (Statute mile)” ซึ่ง 1 ไมล์ทะเลจะเท่ากับ 1.1508 ไมล์สถิต
ในสมัยศตวรรษที่ 17 กะลาสีเรือจะวัดความเร็วของเรือด้วยเครื่องมือที่ดูธรรมดาชิ้นหนึ่ง นั่นคือเชือกเส้นหนึ่งที่ผูกติดกับชิ้นไม้รูปสามเหลี่ยมแบนๆ ปลายเชือกจะมีการผูกปมไว้เป็นช่วงๆ ตามระยะทางที่คำนวณมาจากความยาวของ 1 ไมล์ทะเล (1,852 เมตร หรือประมาณ 6,076 ฟุต) โดยแต่ละปมจะเว้นห่างกัน 14.4 เมตร พอดี ปลายเชือกด้านหนึ่งจะถูกผูกกับเรือ และอีกด้านที่มีไม้จะถูกโยนลงไปในทะเล
จากนั้น กะลาสีจะใช้นาฬิกาทรายจับเวลา วัดว่าภายในช่วงเวลา 30 วินาที เชือกคลายออกไปเท่าไหร่ และนับจำนวนปมที่ผ่านมือของพวกเขา จำนวนปมที่นับได้ในเวลาที่กำหนดนั้นก็คือความเร็วของเรือในขณะนั้น
ในอดีต ระยะห่าง 14.4 เมตรต่อหนึ่งปมถูกคำนวณมาจากการใช้ นาฬิกาทราย 28 วินาที เพื่อให้มีช่วงเวลาสำรองเผื่อการปล่อยเชือกและให้เชือกตึงพอดี
กะลาสีเรือไม่ได้มีเครื่องบอกความเร็วตลอดเวลาเหมือนเรือสมัยใหม่ พวกเขาจะทำการวัดหลายครั้งในแต่ละวัน แล้วนำมาคำนวณเป็นค่าเฉลี่ย เพื่อใช้ในการระบุพิกัดและประเมินเวลาที่จะไปถึงจุดหมายได้แม่นยำขึ้น
ในยุคปัจจุบัน เครื่องมือที่ใช้วัดความเร็วของเรือจะเรียกว่า “ล็อก (Log)” แต่รูปแบบการทำงานนั้นเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนแล้ว โดยใช้การวัดผ่านเซนเซอร์อัลตราโซนิก ทำให้สามารถตรวจวัดความเร็วได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนก็คือการใช้ไมล์ทะเลเป็นหน่วยวัดระยะทาง ซึ่งยังคงใช้ทั้งในการเดินเรือและการบิน
เครื่องบินเองก็วัดความเร็วเป็นนอตและใช้ไมล์ทะเลเช่นเดียวกัน เพราะทั้งหมดอ้างอิงจากเส้นรอบวงของโลก
นี่ก็คือเกร็ดประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งที่หลายคนอาจสงสัย
รู้ไว้ใช่ว่า ไม่ต้องแบกไม่ต้องหาม... เหตุใดความเร็วของเรือจึงวัดเป็น “นอต (Knot)”