เล่าประสบการณ์ JEW CCI tcas68 รอบ 2 วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สาขาอัญมณีและเครื่องประดับ (หลักสูตรสองภาษา) มศว

คิดว่าข้อมูลที่มีบนเน็ตเกี่ยวกับรอบ2 CCI น้อยมาก ๆ เพราะคนส่วนมากเลือกสมัครรอบ 3 และตอนเราหาข้อมูลก็มีแค่กระทู้ DekD หนึ่งกระทู้จากหลายปีก่อนและเปลี่ยนไปค่อนข้างมากจึงมาลงเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของรอบ 69 และต่อ ๆ ไปนะคะ

กดสปอยล์*
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(เอาเนื้อ ๆ อยู่ตาม ☆ ค่ะ)
เรายื่นรอบสองวิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สาขาอัญมณีและเครื่องประดับหลักสูตรสองภาษาตามที่ว่าในหัวกระทู้ สาเหตุที่ยื่นเพราะความชอบเครื่องประดับล้วน ๆ เลยค่ะ
ทุกอย่างทำผ่านเว็บ swu admission

1.การยื่นพอร์ท
ขอ disclaimer ก่อนเลยนะคะว่าไม่ได้แพลนมาเข้าคณะหรือมหาวิทยาลัยนี้ด้วยซ้ำค่ะ ตั้งใจจะไปเข้าคณะอื่นม.อื่นสายงานอื่น และรู้การมีอยู่ขอคณะนี้ประมาณช่วงต้นเดือนกุมภาที่เลยรอบหนึ่งไปแล้วและกำลังจะปิดสมัครรอบสองสิ้นเดือนจึงเป็นการทำพอร์ทที่เผาสุด ๆ เลยค่ะ ยังดีที่ตอนม.4ยังคิดไว้ว่าจะเข้าสายศิลป์จึงได้พอเตรียมตัวมีผลงานจากที่เคยเรียนบ้าง

เขารับ 8 คนแต่คนยื่นไป 3 ถ้วนคนค่ะ เลยแอบเกรง ๆ

☆ รายละเอียดพอร์ทเรามีดังนี้ค่ะ
• 1 ข้อมูลส่วนตัว/ติดต่อ
เกรดและคะแนนอื่น ๆ ที่ใส่ ๆ ไปให้เต็ม (SAT, Oxford CFER)
• 2 จิตอาสา
• 3-10 เป็นผลงานต่าง ๆ
3-6 เป็นผลงานประกวดชนะและไม่ชนะ (ประกวดออกแบบบอร์ดความรู้ระดับชั้น, ประกวดออกแบบที่ได้เข้าร่วมนะดับโรงเรียน)
7 เป็นผลงานเกี่ยวกับวิชาสายศิลป์-เลขที่โรงเรียนสอนมาค่ะ (นำเสนอขาย start up) ตัดสินใจใส่เข้าไปเพราะวิชาของคณะมีเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ
8 เป็นชิ้นงานออกแบบ brand identity ที่เคยไปเรียนจากโรงเรียนติวเข้าคณะศิลป์คอร์สสอนใช้ adobe ออกแบบ
9-10 เราวาดงานคิดคอนเซปต์เครื่องประดับเพื่อเติมให้ดูมีผลงานเพิ่ม โดยอิงจากที่เคยเรียนมาจาก 8. ค่ะ
(8-10 เรามีการเขียนเติมรายละเอียดขั้นตอนการคิด คอนเซปต์ของชิ้นงานเพิ่มเติม)

2.การสอบ
ตอนแรกเราเครียดเพราะสอบกระชั้นชิดกับอีกคณะที่เราสมัครไว้ คณะที่เราสมัครไว้คือ IR มธ. ต้องจำข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่าง ๆ ซึ่งเยอะมาก ๆ เลยค่ะ (ถ้าสนใจเดี๋ยวมาเขียนเพิ่มให้ได้ค่ะ) รวมกับข้อมูลเกี่ยวกับรอบสองของ CCI ที่มีน้อยสุด ๆ (หนึ่งกระทู้เด็กดี) กระทู้นั้นได้เล่าว่าเป็นข้อสอบรวมทั้งสามสาขา(จิว,แฟชั่น,โปรดัก) และข้อสอบที่จะแยกออกมาคือปฏิบัติที่ให้ออกแบบตามโจทย์ที่ได้รับของสาขานั้น ๆ ทางเราก็เตรียมใจ หาข้อมูลเกี่ยวกับแฟชั่นต่าง ๆ วัสดุการออกแบบสินค้า และเน้นข้อมูลเกี่ยวกับอัญมณี, การเจียรแบบต่าง ๆ, โลหะต่าง ๆ แต่อย่างที่ทุกคนรู้กัน เกิดแผ่นดินไหวค่ะ การสอบถูกเลื่อนทำให้มีเวลาอ่านหนังสือเพิ่มขึ้น

รายละเอียดการสอบแจ้งผ่านเว็บ swu admission ที่สอบให้ไปสอบที่ตึดคณะเขาเลย เป็นห้อง 3d printer เขา มีไม้บรรทัดเรขาคณิตและปากกามาร์กเกอร์เตรียมไว้ให้ สามารถเอาอุปกรณ์ตัวเองไปใช้ได้ ไม่ได้บังคับ แต่แอบตกใจนิดนึงเพราะคนอื่นเอาสีไม้แบบ 32สี++ ไปส่วนเราแฮปปี้กับสีไม้ 12 สีของเรา555

☆ การสอบมีกระดาษ A4 สองแผ่นมาให้ แผ่นแรกมีโจทย์ส่วนแผ่นที่สองคือกระดาษคำตอบ
-โจทย์คือให้ออกแบบเครื่องประดับโดยต้องประกอบไปด้วยโลหะมีค่า, อัญมณี &/ วัสดุอื่น
-แรงบันดาลใจ, ชนิด-สีและรูปร่างของอัญมณี, ชนิดและสีโลหะมีค่า หรือ วัสดุอื่นที่เป็นองค์ประกอบ, กลุ่มลูกค้า ช่องทางการจำหน่าย ราคาเหตุผลที่ตั้งราคา

แตกต่างจากกระทู้ที่เราอ่านไปสุด ๆ แต่ก็มีประโยชน์สำหรับการสอบ คำถามสุดท้ายเราพึ่งบุญเก่าจากวิชาการตลาดที่โรงเรียนสอนมา ปัญหาเดียวของเราคือเราจำราคาของอัญมณีและทองไม่ได้เลยค่ะ กะไม่ถูกด้วยว่าต้องใช้เท่าไหร่ จึงเขียนไปอย่างกว้าง ๆ ว่าล้านห้าถึงสองล้าน ค่าวัตถุดิบ, แรงงานและการตลาด เมื่อเทียบกับกระทู้ถือว่าง่ายขึ้นมาก ๆ ไม่แน่ใจว่าปีของน้อง ๆ 69 จะเปลี่ยนไปมากรึเปล่า แต่จากการที่ได้เรียนมาเกือบเดือนแล้ว รอบหนึ่งและสองเขาต้องการเด็กที่มีไอเดียและความคิดนวัฒกรรมใหม่ ๆ ค่ะ เพราะเข้ามาเขาก็ต้องปูพื้นฐานใหม่ให้อยู่ดี



3.รอบสัมภาษณ์
(ตอนสัมเราหาชุดนักเรียนไม่เจอค่ะ เหตุวุ่น ๆ ตอนย้ายของแผ่นดินไหว เลยโดนถามเป็นคำถามแรกเลยค่ะ 555)

ข้อมูลที่เราเตรียมก็ตามที่อ่านเจอในเน็ต
-ชื่อ นามสกุล โรงเรียน สายที่เรียนมา สิ่งที่ชอบ
-ทำไมถึงอยากเรียนคณะ/สาขานี้
-ทำไมถึงอยากเรียน มศว / รู้อะไรเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย/คณะนี้บ้าง

อาจารย์ที่เราเจอเป็นอาจารย์ผู้หญิงสามคน มารู้ทีหลังว่าหนึ่งในนั้นเป็นอาจารย์ที่จบฝรั่งเศสมา พูดได้สามภาษาและสัมเราเป็นภาษาอังกฤษเพราะเราเล่าไปว่าคิดว่าความรู้เลขตามหลังเพื่อนเพราะไปซัมเมอร์ที่อังกฤษไม่ได้ปรับพื้นฐานเหมือนเพื่อนเขาและไม่ได้เจอโจทย์เยอะแบบเพื่อนตอนถามว่าเรามีข้อเสียหรือจุดอ่อนอะไรบ้าง ประกอบกับว่าเขาถามว่าเราสมัครคณะอื่นไปไหม เราก็ตอบตามตรงว่าตอนแรกจะสมัคร BBA ฬ. แต่คะแนน SAT เฟ้อขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ตัดสินใจไม่ยื่น จึงทำให้ถูกถามเป็นภาษาอังกฤษค่ะ แอบช็อกหน่อยนึงเพราะเตี้ยมมาเป็นภาษาไทย ปรับโหมดภาษาในสมองไม่ทัน555

☆ คำถามที่เราไม่คิดว่าจะเจอคืออยากเข้าฝึกงานที่ไหน? มีถามให้อธิบายภาพลักษณ์แบรนด์ที่ตอบมาด้วยค่ะ
☆ อีกคำถามคือมีเป้าหมายอะไรในอุตสาหรรมนี้? ในฐานะคนที่สมัครเพราะชอบเครื่องประดับเราลนมาก ๆ เลย เราพอมีความรู้ด้านเหมืองอัญมณีที่เอาเปรียบแรงงานอยู่บ้างและการทำ lab grown diamond จึงลนเล่า(บ่น)ให้เขาฟังว่าเราอยากให้คนหันมาให้มูลค่า lab grown diamond เท่ากับหรือมากกว่าเพรชที่มาจากการเอาเปรียบแรงงานทั้งๆ ที่เป็นเพรชเหมือนกัน และบอกต่อว่าเราอยากให้ในอุตสาหกรรมนี้ตั้งอยู่บนความกินดีอยู่ดี ตั้งแต่แรงงานผลิตวัตถุดิบไปช่างฝีมือจนถึงมือลูกค้าอยากให้เต็มไปด้วยความสุข ไม่มีการเอาเปรียบกัน จารย์ก็ได้ตอบเรากลับมาว่าพอเรามาเข้าเรียนแล้วจบไปเราอาจจะสามารถสังเคราะห์อัญมณีอื่น ๆ ได้อีกที่ไม่ใช่แค่เพรชอีก จึงค่อนข้างแน่ใจว่าติดแล้ว

(พอมาเรียนก็ได้รู้ค่ะว่าอาจารย์ที่ถามเราเป็นนั้นสอนเฉพาะทางด้านอัญมณี และในประเทศไทยได้หยุดการทำเหมืองไปเป็นส่วนมากทำให้ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างชาติมาทำ และเขามีเป้าหมายอยากให้อุตสาหกรรมในไทยขยายออกนอกจากการที่มีแค่ช่างฝีมือดี อยากให้ผลิตเองตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ)
ไม่รู้ที่เล่ามาจะได้ประโยชน์กันแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วถ้าชอบ สนใจเครื่องประดับ ก็อยากให้ลองมาสมัครดูค่ะ มีคำถามถามได้เลยนะคะ จะพยายามมาตอบให้ค่ะ