วง Lifehouse พวกเขาดังอย่างลงตัว ประสบความสำเร็จช่วง 2 อัลบั้มแรก



เกริ่นเล็กน้อย คือว่า บทความนี้มีทั้งส่วนที่ AI เขียน และ ส่วนที่ คุกกี้ เขียน

วง Lifehouse ถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1990 โดยสมาชิกหลักสามคน ได้แก่ Jason Wade, Sergio Andrade และ Rick Woolstenhulme Jr.

เราเห็นว่าสมาชิกหลักสองคนในวงไม่เน้นหล่อ(มีแค่ wade นักร้องนำที่หล่อ ) เป็นหน้าเป็นตาให้กับวง


เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Jason Wade (รูปหล่อของวง) ซึ่งเป็นนักร้องนำและมือกีตาร์หลัก ย้ายไปอยู่ที่ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมครอบครัว และได้พบกับ Sergio Andrade (อ้วนหุ่นหมี) ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านและมือเบสในอนาคตของวง ด้วยความสนใจในดนตรีเหมือนกัน ทั้งคู่เริ่มรวมตัวกันสร้างวงในชื่อแรกว่า "Blyss" ช่วงนั้นพวกเขาทำเพลงในแนวคริสเตียนร่วมสมัย โดยได้รับอิทธิพลจากวงอย่าง Creed และ Pearl Jam


ต่อมา Rick Woolstenhulme Jr. เข้ามาร่วมวงในฐานะมือกลอง ซึ่งเขาเป็นเพื่อนของ Wade จากเมืองที่เคยอยู่ก่อนหน้านี้ การรวมตัวของสามคนนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปลายปี 1999 ตอนต้น 2000 โดยเริ่มจากการเล่นดนตรีในโบสถ์และงานเล็กๆ ในแคลิฟอร์เนีย วงพัฒนาจากแนวเพลงคริสเตียนไปสู่โพสต์กรันจ์/อัลเทอร์เนทีฟร็อกเมื่อย้ายไปเซ็นสัญญากับ DreamWorks Records


จุดเริ่มต้นของ Lifehouse มาจากการที่ Wade เขียนเพลงจากประสบการณ์ส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องครอบครัวและความเชื่อ ซึ่งสะท้อนในอัลบั้มแรก "No Name Face" (2000) ที่ประสบความสำเร็จจากซิงเกิล "Hanging by a Moment" การร่วมงานของ Wade, Andrade และ Woolstenhulme ในช่วงแรกนี้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้วงก่อนที่ Sergio จะออกไปในปี 2004 และวงเริ่มเปลี่ยนแปลงสมาชิกในภายหลัง


Sergio Andrade เป็นมือเบสคนสำคัญของวง Lifehouse ในช่วงเริ่มต้น Andrade อยู่กับวงจนถึงช่วงหลังการปล่อยอัลบั้ม "Stanley Climbfall" ในปี 2002 และออกจากวงอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน 2004 เพื่อมุ่งสู่โปรเจกต์ส่วนตัว โดยเฉพาะในวงการเพลงคริสเตียนตามที่เขาให้สัมภาษณ์ผ่านผู้จัดการวงว่า "Serg's heart is really in Christian music" หลังจากนั้น Bryce Soderberg เข้ามาแทนที่เขาในตำแหน่งมือเบส



ในช่วงที่ Sergio Andrade ยังเป็นมือเบส วงมีอัลบั้มเดบิวต์ "No Name Face" (2000) ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะซิงเกิล "Hanging by a Moment" ที่ครองชาร์ต Billboard Hot 100 และมียอดขายทะลุแสนทั่วโลก (ส่วนอัลบั้มนั้นรวมๆขายได้ถึง 4 ล้าน) ช่วงนั้นดนตรีของวงมีกลิ่นอายโพสต์กรันจ์ที่เข้มข้นและสดใหม่ ซึ่งอาจเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดแฟนๆ ( ซึ่งถือว่าเป็นแนวที่เคยประสบความสำเร็จ และเป็นแนวที่ดีที่สุดของวง  )



หลังจาก Sergio ออกไปและ Bryce Soderberg เข้ามาในปี 2004 วงเริ่มเปลี่ยนทิศทางไปสู่วงป๊อปร็อกมากขึ้น อย่างในอัลบั้ม "Lifehouse" (2005) ชื่ออัลบั้มชื่อเดียวกับวง ที่มีซิงเกิล "You and Me" แต่ยอดขายและกระแสอาจไม่ร้อนแรงเทียบเท่ายุคแรก อาจเพราะการเปลี่ยนแปลงสไตล์ดนตรีและการแข่งขันในวงการที่สูงขึ้น ความสำเร็จในระดับล้านชุดจึงลดลง แต่ก็ยังมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นอยู่


ภาพลักษณ์และความลงตัวของสมาชิก Lifehouse ในสองอัลบั้มแรก ("No Name Face" และ "Stanley Climbfall") น่าสนใจมากจริงๆ! ในยุคที่ Sergio Andrade ยังเป็นมือเบส ร่วมกับ Jason Wade (นักร้องนำ/กีตาร์) และ Rick Woolstenhulme Jr. (กลอง) วงมีสมาชิกสามคนที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจนและแตกต่างกันอย่าง Wade ด้วยหน้าตาหล่อเหลาในแบบหนุ่มวัยรุ่นยุค 2000s Sergio ด้วยหุ่นหมีที่ดูเป็นมิตร และ Rick ที่ผอมแห้งในสไตล์นักดนตรีแบบดิบๆ ความหลากหลายนี้สร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เน้นการแข่งขันเรื่องหน้าตา แต่เน้นพลังดนตรีและเคมีระหว่างสมาชิก




การที่วงมีสามคนและไม่มีมือกีตาร์โซโล่เต็มตัว ทำให้โฟกัสไปที่น้ำเสียงของ Wade และการเรียบเรียงที่เน้นโพสต์กรันจ์ผสมอารมณ์ ซึ่งอาจรู้สึกถึงความลงตัวในช่วงนั้น เมื่อเทียบกับยุคที่ Bryce Soderberg เข้ามาแทนที่ Sergio วงเริ่มขยายสมาชิกและสไตล์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งอาจทำให้ความรู้สึกนั้นลดลงไปบ้าง


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Hanging by a moment

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Sick cycle carousel

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Spin

หมายเหตุ spin แปลว่า หมุน MV ก็หมุนด้วย


ในความรู้สึกส่วนตัวของคุกกี้ คือ คิดถึง sergio มือเบสหุ่นหมีซึ่งเป็นมือเบสคนเก่า ผู้ซึ่งอยู่กับช่วงเวลาประสบความสำเร็จ จนบางครั้งคุกกี้คิดว่ามือเบส sergio ตอนที่พี่แกอยู่แกน่าจะสร้างเพลงดีและมีส่วนในความสำเร็จในแนวดนตรีที่ดีกว่ายุคมือเบส bryce

==========================

เอาจริงก็อยากเอาข้อมูล lifehouse ยุคใหม่ช่วง bryce เข้าวงมา เขียนลงกระทู้ แต่เพลงดีและความสำเร็จดั้งเดิมเป็นเพลงก่อนยุค bryce ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่