ทภ.2 พบหน่วย BHQ ดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย เนิน 350 เจอทุ่นระเบิด PMN-2
.
.
ทภ.2 ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบ หน่วย BHQ ดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย เนิน 350 ห่างจากเส้นปฏิบัติการเข้ามาฝั่งไทยประมาณ 100 เมตร พร้อม ทุ่นระเบิด PMN-2 จำนวน 1 ทุ่น สะท้อนกัมพูชายังคงลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหาร ในพื้นที่อธิปไตยของไทย ชี้เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และละเมิดสนธิสัญญาออตตาวา
.
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารฝ่ายกัมพูชา ประมาณ 2–3 นาย คาดว่าเป็นหน่วย BHQ เนื่องจากมีการสวมหมวกทรง FAST สีดำ และได้กระทำการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตก เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากแนวเส้นปฏิบัติการเข้ามาฝั่งไทยประมาณ 100 เมตร
.
ขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ หน่วยได้ตรวจพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณจุดที่พบทหารกัมพูชาดักซุ่ม จำนวน 1 ทุ่น หน่วยจึงได้ใช้เครื่องตรวจทุ่น ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด และได้ทำเครื่องหมาย เพื่อรอรับการสนับสนุนชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดดำเนินการต่อไป
.
จากสถานการณ์ดังกล่าวยืนยันได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่อง
.
..
ชาวบ้านน้ำยืน และบ้านโซง ขออพยพ เพราะไม่วางใจในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
.
ชาวบ้านน้ำยืน และบ้านโซง ขอออกจากพื้นที่ไปพักอาศัยที่บ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงชั่วคราว เพราะไม่วางใจในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
.
จากเหตุการณ์ที่โรงเรียนในพื้นที่อำเภอน้ำยืน ได้มีการแจ้งให้ผู้ปกครองมารับลูกหลานกลับบ้านก่อนเวลาเลิกเรียน ทำให้ในพื้นที่เกิดความตกใจเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นรอบที่ 2
.
ซึ่งในเวลาต่อมาทางเพจ กองทัพภาคที่ 2 ได้มีการออกมาชี้แจงว่าในพื้นที่อำเภอน้ำยืนไม่ได้มีการปะทะกันตามที่มีการโพสต์ในโลกออนไลน์แต่อย่างใด ขอให้ฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น
.
แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านน้ำยืน และบ้านโซง บางส่วนได้มีการย้ายตัวเองออกจากพื้นที่ไปพักอาศัยที่บ้านญาติ หรือ ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในอำเภอเดชอุดม เพื่อความปลอดภัย และความสบายใจในครอบครัว
.
ผู้สื่อข่าวได้มีการตรวจสอบในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (22 ส.ค. 68) จนถึงเวลาประมาณ 21.30 น. พบว่าบรรยากาศในตัวอำเภอน้ำยืนและหมู่บ้านใกล้เคียงช่องบก ช่องอานม้า เงียบสงบไม่ค่อยมีรถสัญจรเหมือนก่อนหน้าส่วนใหญ่จะเป็นรถของทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ชรบ ของหมู่บ้านที่ออกตระเวนตรวจพื้นที่รับผิดชอบ
.
นางกชพร ธรรมโม อายุ 43 ปี ผู้ใหญ่บ้านน้ำยืน กล่าวว่าสถานการณ์เริ่มแรกเกิดจากโรงเรียนในพื้นที่ ประกาศให้ผู้ปกครองไปรับนักเรียน เดิมเรามีแผนเรียนถึงแค่ 15.00 น แต่โรงเรียนให้ไปรับก่อนเวลาช่วง 14.00 น ทำให้ผู้ปกครองกังวลใจบางรายถึงขั้นย้ายไปนอกพื้นที่
.
นางกชพร บอกอีกว่า ตอนนี้มีผู้ที่ย้ายออกนอกพื้นที่ยังไม่ถึง 100 คน จาก 2 หมู่บ้าน สาเหตุที่ย้ายออกเพราะบ้านอยู่หน้าด่านชาวบ้านจึงรู้สึกกลัว เกิดความกังวลใจในความไม่สงบหากมีการปะทะกันขึ้นจะหลบหนีออกจากพื้นที่ไม่ทัน
.
ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็ยังอยู่ในพื้นที่คอยโทรสอบถามสถานการณ์ว่ายังสามารถอยู่ได้หรือไม่ จะออกได้ตอนไหนซึ่งเบื้องต้นตอนนี้ยังไม่มีประกาศให้อพยพออกนอกพื้นที่ ขอให้ทุกคนต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ต้องรอฟัง ข่าวสารจากทางราชการอีกครั้ง
.
.
วันนอร์ ไม่ขอเดาคำวินิจฉัยศาลรธน. ชี้ชะตา อิ๊งค์ ปมคลิปเสียง ยันสภาพร้อมทำตามกม.
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9905660
.
วันนอร์ ไม่ขอเดา คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตา อิ๊งค์ ปมคลิปเสียงฮุนเซน 29 ส.ค.นี้ ยัน สภาพร้อมทำตามกฎหมาย
.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ส.ค. 2568 ที่รัฐสภา นาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรองรับการตัดสินคดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ว่า สภาไม่ได้เตรียมอะไรรองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. เพราะเป็นเรื่องของนายกฯ ที่ถูกกล่าวหา และศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัย
.
หลังจากนั้นผลจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องระหว่างศาลกับนายกฯ สภาจึงไม่ได้มีการเตรียมการอะไร แต่หลังวันที่ 29 ส.ค. ถ้ามีผลอย่างไรสิ่งใดที่เป็นหน้าที่ของสภา สภาก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ย้ำว่าวันที่ 29 ส.ค.นี้ ไม่ใช่หน้าที่ของสภา
.
เมื่อถามว่า หากคำวินิจฉัยวันที่ 29 ส.ค.นี้เป็นลบ กระบวนการขั้นตอนการได้มาซึ่งนายกฯ และรัฐบาล ต้องใช้เวลากี่วัน นาย
วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะการโหวตเลือกนายกฯ เป็นเรื่องของสภาที่จะมีการประชุม จากเดิมต้องประชุมร่วมรัฐสภา แต่มาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญจบไปแล้ว ถึงจะมีแค่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เหมือนกับการโหวตเลือกนายกฯ ที่ผ่านมาครั้งล่าสุด คงใช้เวลาไม่นาน
.
สภาพร้อมดำเนินการเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่เราไม่อยากจะพูดตอนนี้ว่าผลจะออกมาเป็นบวกหรือเป็นลบ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ โดยเฉพาะฝ่ายนิติบัญญัติต้องเคารพฝ่ายตุลาการ
JJNY : ทภ.2 เจอทุ่นระเบิด PMN-2│ชาวบ้านน้ำยืน และบ้านโซง ขออพยพ│วันนอร์ไม่ขอเดาคำวินิจฉัยศาลรธน.│เกาหลีเหนือโวยเกาหลีใต้
..
.
จากเหตุการณ์ที่โรงเรียนในพื้นที่อำเภอน้ำยืน ได้มีการแจ้งให้ผู้ปกครองมารับลูกหลานกลับบ้านก่อนเวลาเลิกเรียน ทำให้ในพื้นที่เกิดความตกใจเพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นรอบที่ 2
.
ซึ่งในเวลาต่อมาทางเพจ กองทัพภาคที่ 2 ได้มีการออกมาชี้แจงว่าในพื้นที่อำเภอน้ำยืนไม่ได้มีการปะทะกันตามที่มีการโพสต์ในโลกออนไลน์แต่อย่างใด ขอให้ฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น
.
แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านน้ำยืน และบ้านโซง บางส่วนได้มีการย้ายตัวเองออกจากพื้นที่ไปพักอาศัยที่บ้านญาติ หรือ ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในอำเภอเดชอุดม เพื่อความปลอดภัย และความสบายใจในครอบครัว
.
ผู้สื่อข่าวได้มีการตรวจสอบในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (22 ส.ค. 68) จนถึงเวลาประมาณ 21.30 น. พบว่าบรรยากาศในตัวอำเภอน้ำยืนและหมู่บ้านใกล้เคียงช่องบก ช่องอานม้า เงียบสงบไม่ค่อยมีรถสัญจรเหมือนก่อนหน้าส่วนใหญ่จะเป็นรถของทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ชรบ ของหมู่บ้านที่ออกตระเวนตรวจพื้นที่รับผิดชอบ
.
นางกชพร ธรรมโม อายุ 43 ปี ผู้ใหญ่บ้านน้ำยืน กล่าวว่าสถานการณ์เริ่มแรกเกิดจากโรงเรียนในพื้นที่ ประกาศให้ผู้ปกครองไปรับนักเรียน เดิมเรามีแผนเรียนถึงแค่ 15.00 น แต่โรงเรียนให้ไปรับก่อนเวลาช่วง 14.00 น ทำให้ผู้ปกครองกังวลใจบางรายถึงขั้นย้ายไปนอกพื้นที่
.
นางกชพร บอกอีกว่า ตอนนี้มีผู้ที่ย้ายออกนอกพื้นที่ยังไม่ถึง 100 คน จาก 2 หมู่บ้าน สาเหตุที่ย้ายออกเพราะบ้านอยู่หน้าด่านชาวบ้านจึงรู้สึกกลัว เกิดความกังวลใจในความไม่สงบหากมีการปะทะกันขึ้นจะหลบหนีออกจากพื้นที่ไม่ทัน
ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็ยังอยู่ในพื้นที่คอยโทรสอบถามสถานการณ์ว่ายังสามารถอยู่ได้หรือไม่ จะออกได้ตอนไหนซึ่งเบื้องต้นตอนนี้ยังไม่มีประกาศให้อพยพออกนอกพื้นที่ ขอให้ทุกคนต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ต้องรอฟัง ข่าวสารจากทางราชการอีกครั้ง
.
วันนอร์ ไม่ขอเดาคำวินิจฉัยศาลรธน. ชี้ชะตา อิ๊งค์ ปมคลิปเสียง ยันสภาพร้อมทำตามกม.
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9905660
.
วันนอร์ ไม่ขอเดา คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตา อิ๊งค์ ปมคลิปเสียงฮุนเซน 29 ส.ค.นี้ ยัน สภาพร้อมทำตามกฎหมาย
.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ส.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรองรับการตัดสินคดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ว่า สภาไม่ได้เตรียมอะไรรองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. เพราะเป็นเรื่องของนายกฯ ที่ถูกกล่าวหา และศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัย
.
หลังจากนั้นผลจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องระหว่างศาลกับนายกฯ สภาจึงไม่ได้มีการเตรียมการอะไร แต่หลังวันที่ 29 ส.ค. ถ้ามีผลอย่างไรสิ่งใดที่เป็นหน้าที่ของสภา สภาก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ย้ำว่าวันที่ 29 ส.ค.นี้ ไม่ใช่หน้าที่ของสภา
.
เมื่อถามว่า หากคำวินิจฉัยวันที่ 29 ส.ค.นี้เป็นลบ กระบวนการขั้นตอนการได้มาซึ่งนายกฯ และรัฐบาล ต้องใช้เวลากี่วัน นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะการโหวตเลือกนายกฯ เป็นเรื่องของสภาที่จะมีการประชุม จากเดิมต้องประชุมร่วมรัฐสภา แต่มาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญจบไปแล้ว ถึงจะมีแค่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เหมือนกับการโหวตเลือกนายกฯ ที่ผ่านมาครั้งล่าสุด คงใช้เวลาไม่นาน
.
สภาพร้อมดำเนินการเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่เราไม่อยากจะพูดตอนนี้ว่าผลจะออกมาเป็นบวกหรือเป็นลบ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ โดยเฉพาะฝ่ายนิติบัญญัติต้องเคารพฝ่ายตุลาการ