"การตัดสินใจครั้งที่สร้างตำนาน" – บทสัมภาษณ์ผู้อำนวยการฝ่ายแคสติงของ Big Hit ถึงเบื้องหลังการแคสติง BTS Jungkook

บทสัมภาษณ์ผู้อำนวยการฝ่ายแคสติงของ Big Hit ถึงเบื้องหลังการแคสติง จองกุก วง BTS ซึ่งกลายเป็น Golden Maknae ของวงการ


บทสัมภาษณ์กับ โน มิน-มิ ผู้อำนวยการฝ่ายแคสติงของ Big Hit

ผู้สัมภาษณ์: "คุณเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่แคสติงสมาชิก BTS คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อได้พบพวกเขาเป็นครั้งแรก?"

โน มิน-มิ: "ตอนที่ฉันเข้ามาในบริษัท อาร์เอ็มกับเจ-โฮปอยู่ที่นี่แล้ว แต่ฉันเริ่มมีส่วนร่วมในการแคสติงของชูก้า และสมาชิกคนแรกที่ฉันได้แคสติงตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตัวเองก็คือจองกุกค่ะ เขาเข้าร่วมรายการ Superstar K และได้รับนามบัตรมากมายจากบริษัทต่างๆ... แล้วฉันก็ได้เจอกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีดวงตาสดใสเป็นประกาย รูปร่างหน้าตาที่น่ารักมาก และมี 'ออร่า' บางอย่างรอบตัวเขา ฉันคิดในใจว่า 'ว้าว เด็กคนนี้ยอดเยี่ยมมาก!' แล้วเหมือนกับโดนสะกดจิต ฉันก็ยื่นนามบัตรให้เขาทันที ขอเบอร์ติดต่อแล้วก็ปล่อยเขาไป แต่ในขณะเดียวกันฉันก็สังเกตเห็นว่าผู้กำกับฝ่ายแคสติงคนอื่นๆ จากหลายบริษัทก็ให้ความสนใจจองกุกเหมือนกัน"

"โดยปกติแล้วกระบวนการจะเป็นแบบนี้ค่ะ คุณพาคนมาออดิชัน ผ่านการคัดเลือก แล้วถึงจะได้เป็นเด็กฝึกหัด แต่ตอนนั้นเขาได้รับข้อเสนอมากมายจนฉันรู้ตัวว่าอาจจะเสียเขาไปได้ ฉันหันไปคุยกับบริษัทว่า 'เราจะทำยังไงดีคะ? ฉันว่าเราพลาดเด็กคนนี้ไม่ได้' และสิ่งที่ฉันได้ยินกลับมาอย่างไม่คาดคิดก็คือ 'ถ้าคุณมั่นใจ ก็เซ็นสัญญาเลย'"

"ฉันตกใจมาก เพราะปกติเขาไม่ทำกันแบบนี้ แต่ฉันรู้สึกว่านี่คือโอกาสที่ห้ามพลาด ตอนนั้นฉันโทรหาคุณพ่อของจองกุกทันทีแล้วพูดว่า 'เราอยากจะเซ็นสัญญากับลูกชายของคุณ' ซึ่งท่านก็ถามกลับมาว่า 'ทำไม Big Hit ถึงไม่นัดวันออดิชันเหมือนบริษัทอื่น แต่กลับเสนอสัญญาเลยล่ะครับ?'"

"ตอนนั้น เหมือนสัญชาตญาณบอกให้ฉันพูดว่า 'ลูกชายของคุณมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ ฉันต้องได้ตัวเขามาให้ได้' และนี่เป็นเรื่องน่ารักๆ อีกอย่างหนึ่งค่ะ ตอนที่ฉันโทรหาจองกุกเอง เสียงรอสายของเขาเป็นเพลงของวง 2AM ซึ่งตอนนั้นเราดูแลจัดการวง 2AM อยู่ด้วย ฉันยังเล่าเรื่องนี้ให้คุณพ่อของจองกุกฟังเลยค่ะ เราคุยกันทางโทรศัพท์นานมาก และอยู่มาวันหนึ่งท่านก็โทรหาฉันแล้วบอกว่า 'เราตัดสินใจจะเซ็นสัญญากับ Big Hit แล้วครับ'"

"หลังจากนั้น ฉันก็ได้รู้เรื่องที่น่าสนใจอย่างหนึ่งค่ะ บริษัทอื่นถึงกับตามตื้อขอให้เขาไปเจอ บอกว่าจะรออยู่ที่สถานีรถไฟโซลเพื่อให้ได้มีโอกาสคุยด้วย แต่คุณพ่อของจองกุกตอบไปว่า 'ไม่ครับ เราตัดสินใจเซ็นสัญญาแล้ว'"

"และนั่นคือวิธีที่เราเซ็นสัญญากับจองกุก มันเหมือนกับโชคชะตาจริงๆ ค่ะ ทั้งคุณพ่อของเขาที่เชื่อมั่นในบริษัทของเรา และผู้บริหารที่ยอมเซ็นสัญญาโดยไม่มีการออดิชัน ทุกอย่างประจวบเหมาะกันและกลายเป็นปาฏิหาริย์ที่แท้จริงค่ะ แม้แต่ตอนนี้ ทุกวันมันก็ยังคงเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์สำหรับฉัน"


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่