หนูชื่อปันนานะคะ
หนูเพิ่งเป็นตัวแทนได้ไม่นานค่ะ
คือตัวหนูเองก็อยากจะมีลูกค้านะคะ แต่ ไม่ชอบไปฝืนใจใครให้มาซื้อ หรือต้องไปตามตื้อใคร เพราะก่อนมาเป็นตัวแทนประกันชีวิต หนูก็เป็นคนที่ ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับประกันมาก่อนเลยค่ะ และมีความรู้สึกว่า ไม่กล้าทำประกัน เพราะไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง จะดีไหม ไม่ชอบที่มาตื้อทำให้อึดอัดใจ พอมาเป็นตัวแทนเลยไม่อยากทำให้ใครรู้สึกแบบนี้
ตอนนี้พอเข้ามารู้จักประกันชีวิตจริง ๆ หนูรู้สึกว่ามัน ดีมากนะคะ (ถ้าเรารู้จักมันแบบลึกซึ้ง)
หนูมีลูกค้าคนแรกเป็นตัวเองนี่แหละค่ะ 🥹 ทำประกันชีวิตเผื่อเป็นอะไรไปแม่หนูก็ได้เงิน หนูไม่ได้มีเงินมากพอที่จะทำประกันเยอะ ทำสุขภาพด้วยหรือโรคร้ายแรงด้วย หนูเลยเลือกแค่อันเดียวที่คิดว่าหนูทำแล้วหนู สบายใจ
ดังนั้นสิ่งนี้จึงทำให้หนูยิ่งเข้าใจในเรื่องของการ ฟังความต้องการของลูกค้า ค่ะ ว่าความต้องการของคนเรามันไม่เหมือนกัน หนูเองก็โดนกดดันจากคนรอบตัว จากแม่ ว่า “ทำไมไม่ทำสุขภาพหรือโรคร้ายแรงล่ะ” แต่นั่นแหละค่ะ หนูกังวลว่าตัวเองเป็นอะไรไปแล้วคนที่รักจะลำบากมากกว่า
แม้จะเข้ามาเป็นตัวแทนไม่นาน แต่หนูก็พบว่ามัน ไม่ง่ายอย่างที่คิด นะ
กำแพงใจจากคนที่รู้ว่าเราเป็นตัวแทน เพื่อนร่วมงาน ความกดดันจากตัวเราเองที่อยากประสบความสำเร็จ หนูรู้ว่าโลกไม่ได้สวยงามค่ะ แต่หนูก็อยากทำความรู้จักผู้คนจริง ๆ ไม่ใช่แค่เดินไปขายประกันเขา หนูอยากเป็นตัวแทนที่ดี อยากเป็นที่ปรึกษาที่หาความต้องการของลูกค้าได้ แต่หนูรู้สึกว่ามันยากค่ะ
หลายครั้งที่เจอการปฏิเสธ มันทำหนู ท้อ เพราะการปฏิเสธหลายครั้งมันก็มีที่รุนแรง เหมือนเห็นเราเป็นอะไรสักอย่าง ทั้งที่หนูก็มั่นใจว่าไม่ได้พูดอะไรไม่ดี ถ้าคุณลำบากใจหนูก็ไปแล้ว แต่มันทำให้หนูตั้งคำถามกับตัวเองค่ะว่า
“ฉันทำอะไรผิด?”
“เราไม่ดีตรงไหน?”
“ฉันก็เป็นคนเหมือนกันนะ”
จากป้าคนรู้จัก ๆ ที่ดูเอ็นดูดีกับเรา พอรู้ว่าเราทำอาชีพนี้ปุ๊บ ก็ดูเปลี่ยนไป ห่างเหิน ไม่อยากยุ่ง
หนูอยากให้คำปรึกษาจริง ๆ อยากบอกสิ่งที่หนูได้เรียนรู้มา คือหนูไม่ได้ใช้เรื่องพวกนี้เป็นข้ออ้างในการจะขาย คือถ้าคุณ ยินดีจะซื้อ หนูก็ดีใจ แต่ถ้า ไม่ซื้อ ทำไมหนูจะต้องโกรธด้วย?
แต่หนูก็พยายามจะ ไม่ท้อ นะคะ หนูอยากทำให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่ไปเลยค่ะ
_____
ไม่ว่าจะดีหรือแย่…ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต
ที่เราได้มาเป็นตัวแทน และได้พบเจอผู้คนใหม่ ๆ ทั้งดีและไม่ดี
หนูขอขอบคุณทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตระหว่างที่ทำอาชีพนี้ และได้ให้โอกาสหนู
ไม่ว่าจะเป็นคำปฏิเสธ หรือให้โอกาส ทุกอย่างที่ได้รับมันก็ทำให้หนูได้เติบโตขึ้น
หนูไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง…
แต่ถ้าวันหนึ่งหนูได้กลับมาอ่านกระทู้นี้อีกครั้ง ก็อยากบอกกับตัวเองว่า “อย่าลืมความตั้งใจเดิมนะ”
เพราะวันที่ตัดสินใจเริ่มต้นอาชีพนี้ หนูอยากพัฒนาตัวเอง และอยากทำสิ่งที่ดีจริง ๆ
การเป็นตัวแทนประกันชีวิตครั้งแรก…ของปันา ในวัย 22 ปี💚
“จากคนที่ไม่กล้าทำประกัน…วันนี้กลายมาเป็นตัวแทนเอง”
หนูเพิ่งเป็นตัวแทนได้ไม่นานค่ะ
คือตัวหนูเองก็อยากจะมีลูกค้านะคะ แต่ ไม่ชอบไปฝืนใจใครให้มาซื้อ หรือต้องไปตามตื้อใคร เพราะก่อนมาเป็นตัวแทนประกันชีวิต หนูก็เป็นคนที่ ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับประกันมาก่อนเลยค่ะ และมีความรู้สึกว่า ไม่กล้าทำประกัน เพราะไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง จะดีไหม ไม่ชอบที่มาตื้อทำให้อึดอัดใจ พอมาเป็นตัวแทนเลยไม่อยากทำให้ใครรู้สึกแบบนี้
ตอนนี้พอเข้ามารู้จักประกันชีวิตจริง ๆ หนูรู้สึกว่ามัน ดีมากนะคะ (ถ้าเรารู้จักมันแบบลึกซึ้ง)
หนูมีลูกค้าคนแรกเป็นตัวเองนี่แหละค่ะ 🥹 ทำประกันชีวิตเผื่อเป็นอะไรไปแม่หนูก็ได้เงิน หนูไม่ได้มีเงินมากพอที่จะทำประกันเยอะ ทำสุขภาพด้วยหรือโรคร้ายแรงด้วย หนูเลยเลือกแค่อันเดียวที่คิดว่าหนูทำแล้วหนู สบายใจ
ดังนั้นสิ่งนี้จึงทำให้หนูยิ่งเข้าใจในเรื่องของการ ฟังความต้องการของลูกค้า ค่ะ ว่าความต้องการของคนเรามันไม่เหมือนกัน หนูเองก็โดนกดดันจากคนรอบตัว จากแม่ ว่า “ทำไมไม่ทำสุขภาพหรือโรคร้ายแรงล่ะ” แต่นั่นแหละค่ะ หนูกังวลว่าตัวเองเป็นอะไรไปแล้วคนที่รักจะลำบากมากกว่า
แม้จะเข้ามาเป็นตัวแทนไม่นาน แต่หนูก็พบว่ามัน ไม่ง่ายอย่างที่คิด นะ
กำแพงใจจากคนที่รู้ว่าเราเป็นตัวแทน เพื่อนร่วมงาน ความกดดันจากตัวเราเองที่อยากประสบความสำเร็จ หนูรู้ว่าโลกไม่ได้สวยงามค่ะ แต่หนูก็อยากทำความรู้จักผู้คนจริง ๆ ไม่ใช่แค่เดินไปขายประกันเขา หนูอยากเป็นตัวแทนที่ดี อยากเป็นที่ปรึกษาที่หาความต้องการของลูกค้าได้ แต่หนูรู้สึกว่ามันยากค่ะ
หลายครั้งที่เจอการปฏิเสธ มันทำหนู ท้อ เพราะการปฏิเสธหลายครั้งมันก็มีที่รุนแรง เหมือนเห็นเราเป็นอะไรสักอย่าง ทั้งที่หนูก็มั่นใจว่าไม่ได้พูดอะไรไม่ดี ถ้าคุณลำบากใจหนูก็ไปแล้ว แต่มันทำให้หนูตั้งคำถามกับตัวเองค่ะว่า
“ฉันทำอะไรผิด?”
“เราไม่ดีตรงไหน?”
“ฉันก็เป็นคนเหมือนกันนะ”
จากป้าคนรู้จัก ๆ ที่ดูเอ็นดูดีกับเรา พอรู้ว่าเราทำอาชีพนี้ปุ๊บ ก็ดูเปลี่ยนไป ห่างเหิน ไม่อยากยุ่ง
หนูอยากให้คำปรึกษาจริง ๆ อยากบอกสิ่งที่หนูได้เรียนรู้มา คือหนูไม่ได้ใช้เรื่องพวกนี้เป็นข้ออ้างในการจะขาย คือถ้าคุณ ยินดีจะซื้อ หนูก็ดีใจ แต่ถ้า ไม่ซื้อ ทำไมหนูจะต้องโกรธด้วย?
แต่หนูก็พยายามจะ ไม่ท้อ นะคะ หนูอยากทำให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่ไปเลยค่ะ
_____
ไม่ว่าจะดีหรือแย่…ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต
ที่เราได้มาเป็นตัวแทน และได้พบเจอผู้คนใหม่ ๆ ทั้งดีและไม่ดี
หนูขอขอบคุณทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตระหว่างที่ทำอาชีพนี้ และได้ให้โอกาสหนู
ไม่ว่าจะเป็นคำปฏิเสธ หรือให้โอกาส ทุกอย่างที่ได้รับมันก็ทำให้หนูได้เติบโตขึ้น
หนูไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง…
แต่ถ้าวันหนึ่งหนูได้กลับมาอ่านกระทู้นี้อีกครั้ง ก็อยากบอกกับตัวเองว่า “อย่าลืมความตั้งใจเดิมนะ”
เพราะวันที่ตัดสินใจเริ่มต้นอาชีพนี้ หนูอยากพัฒนาตัวเอง และอยากทำสิ่งที่ดีจริง ๆ
การเป็นตัวแทนประกันชีวิตครั้งแรก…ของปันา ในวัย 22 ปี💚