เป็นเนื้องอกจากปากช่องคลอด มีเลือดออก เราตัดมดลูกแล้วแต่ยังมีรังไข่

กระทู้คำถาม
จากการรักษาเลือดออกในช่องคลอดพบมีติ่งเนื้องอก
📌การรักษาเป็นไปได้ด้วยดี ก้อนติ่งเนื้องจาก 2 เซน ที่หมอมองด้วยตาเปล่า ตอนนี้หมอเอาออกให้จนเหลือ 0.5 เซน และนัดอีกที อาทิตย์หน้า ก้อนนี้น่าจะหมด แต่ยังเหลือก้อนที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อีก 2 เซนที่หมอไม่สามารถเอาออกให้ได้ ก้อนตรงนี้มันอยู่ลึกเข้าไปจากก้อนที่มองเห็น ซึ่งอาจเกินจาก การผ่าตัดเนื้องอกมดลูกครั้งที่แล้ว ทำให้เกิดเนื้องอกออกมาใหม่จากแผลผ่าตัดอันเดิมและอนาคต บอกไม่ได้ว่ามันจะโตขึ้นมาอีกมั้ย โดนต้องมาอัลต้าซาวดูก้อนนี้เป็นระยะๆ
📌แต่หลังจากนี้การรักษาต่อไปคือจะทำยังไงไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีก 😭
📌หมอแจ้งว่า จะต้องให้กินฮอร์โมน ต่อเนื่อง 2 ปี 😱
❗️มีสองทางเลือกคือฮอร์โมนแบบฉีด 3 เดือนครั้ง
❗️กับแบบกิน ต้องกินทุกวันห้ามลืม 2 ปี 😩
ซึ่งทั้งสองแบบมีผลข้างเคียงทุกคู่ คือ
- จะเกิดสภาวะเหมือนวัยทอง ร้อนวูบวาบ
- อารมณ์แปรปวน หงุดหงิด
- รู้สึกดาว หดหู่ ซึมเศร้าได้
- ทำให้อ้วนขึ้น !!!
ซึ่งไม่ดีสักอย่าง และตัวเองมีความกังวลอย่างมากกับผลข้างเคียงนี้ โดนได้ปรึกษาหมอ ว่าถ้าไม่กินฮอร์โมนจะมีวิธีอื่นที่จะรักษาไหมคะ หมอแจ้งว่า ถ้าไม่กินหมอไม่มั่นใจว่ามันจะเกิดอีกมั้ย ฮอร์โมนอันนี้แยกออกมาเฉพาะส่วน ไม่ใช่ทั้งหมด แล้วแต่คนไข้ว่าจะกินมั้ย (ถ้าไม่กินหมอไม่รับประกันว่าจะเกิดขึ้นอีกมั้ย) ส่วนความคิดตัวเอง ไม่อยากกิน!!! เพราะเนื้องอกเราเคยเป็นเเล้ว แล้วมันก็งอกมาใหม่อีก ตัดตรงนี้ออก ไปงอกตรงใหม่อีก แต่ก็ไม่ได้บอกว่าถ้ากินฮอร์โมนแล้วมันจะไม่เกิดอีก  100%
📌ใครเป็นคุณหมอที่มีความเห็นต่างช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ ว่าจำเป็นต้องกินฮอร์โมนจริงๆใช่มั้ยคะ หรือไม่ต้องกินก็ได้
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 1
อ่านแล้ว เข้าใจผิดคิดว่า จขกท ตัดมดลูก พร้อมตัดรังไข่ทั้งสองข้าง
ซึ่งเป็นภาวะหมดประจำเดือนเนื่องจากการผ่าตัด
จึงตอบเรื่องความจำเป็นในการให้ฮอร์โมน เสียยาว เสียเวลาแท้ๆ
เรื่องที่ จขกท ถาม เดี๋ยวมาตอบในอีกความคิดเห็นนะ
ความคิดเห็นที่ 2
จากที่ จขกท เล่ามา
อนุมานได้ว่า โรคที่กำลังเป็นอยู่คือโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) หรือที่รู้จักกันว่า ชอกโกแลตซิสต์
ซึ่งทำให้ปวดประจำเดือน เกิดเป็นก้อนเนื้องอกที่รังไข่ และมดลูก พร้อมพังผืดในอุ้งเชิงกราน กับเกิดการมีบุตรยาก

จขกท น่าจะอายุเกินวัยมีลูกแล้ว แต่ยังไม่ใกล้วัยหมดประจำเดือน คือ 50 ปี
หมอจึงตัดมดลูก และตัดรังไข่ออกหนึ่งข้าง  เหลือไว้ได้ 1 ข้าง ซึ่งน่าจะดูดีจึงเก็บไว้ได้
โรคนี้ ถ้าตราบใดที่ยังมีรังไข่ คอยให้ฮอร์โมนอยู่ ก็จะไม่หายขาดมีโอกาสงอกขึ้นมาอีก
ถ้าไม่ตัดออกหมด ต้องรักษาด้วยฮอร์โมน ให้ไปกดฮอร์โมนจากรังไข่ ฮอร์โมนที่ว่านี้คือยาคุมกำเนิดนั่นเอง
เลือกใช้ได้ทั้งแบบกิน แบบฉีด ใช้ไป 2 ปีอย่างหมอว่า  อาการก็จะสงบ แล้วลองหยุดดู
หลังจากหยุด อาการกลับมาอีกเมื่อไร ก็เริ่มฮอร์โมน (ยาคุม)อีก แบบนี้วนไป
ส่วนมาก มักไม่ทน มาขอให้หมอตัดออกหมด แล้วรับฮอร์โมนแบบวัยหมดประจำเดือนต่อไป

ฮอร์โมนที่รักษา นอกจากยาคุมกำเนิด แบบกิน และฉีด ยังมีฮอร์โมนอื่น ที่ราคาแพง
บางอย่าง นอกจากแพงแล้ว ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบวัยหมดประจำเดือน ซึ่งมักไม่แนะนำให้ใช้ถ้าไม่ต้องการมีบุตรแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่