ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 2
จากที่ จขกท เล่ามา
อนุมานได้ว่า โรคที่กำลังเป็นอยู่คือโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) หรือที่รู้จักกันว่า ชอกโกแลตซิสต์
ซึ่งทำให้ปวดประจำเดือน เกิดเป็นก้อนเนื้องอกที่รังไข่ และมดลูก พร้อมพังผืดในอุ้งเชิงกราน กับเกิดการมีบุตรยาก
จขกท น่าจะอายุเกินวัยมีลูกแล้ว แต่ยังไม่ใกล้วัยหมดประจำเดือน คือ 50 ปี
หมอจึงตัดมดลูก และตัดรังไข่ออกหนึ่งข้าง เหลือไว้ได้ 1 ข้าง ซึ่งน่าจะดูดีจึงเก็บไว้ได้
โรคนี้ ถ้าตราบใดที่ยังมีรังไข่ คอยให้ฮอร์โมนอยู่ ก็จะไม่หายขาดมีโอกาสงอกขึ้นมาอีก
ถ้าไม่ตัดออกหมด ต้องรักษาด้วยฮอร์โมน ให้ไปกดฮอร์โมนจากรังไข่ ฮอร์โมนที่ว่านี้คือยาคุมกำเนิดนั่นเอง
เลือกใช้ได้ทั้งแบบกิน แบบฉีด ใช้ไป 2 ปีอย่างหมอว่า อาการก็จะสงบ แล้วลองหยุดดู
หลังจากหยุด อาการกลับมาอีกเมื่อไร ก็เริ่มฮอร์โมน (ยาคุม)อีก แบบนี้วนไป
ส่วนมาก มักไม่ทน มาขอให้หมอตัดออกหมด แล้วรับฮอร์โมนแบบวัยหมดประจำเดือนต่อไป
ฮอร์โมนที่รักษา นอกจากยาคุมกำเนิด แบบกิน และฉีด ยังมีฮอร์โมนอื่น ที่ราคาแพง
บางอย่าง นอกจากแพงแล้ว ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบวัยหมดประจำเดือน ซึ่งมักไม่แนะนำให้ใช้ถ้าไม่ต้องการมีบุตรแล้ว
อนุมานได้ว่า โรคที่กำลังเป็นอยู่คือโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) หรือที่รู้จักกันว่า ชอกโกแลตซิสต์
ซึ่งทำให้ปวดประจำเดือน เกิดเป็นก้อนเนื้องอกที่รังไข่ และมดลูก พร้อมพังผืดในอุ้งเชิงกราน กับเกิดการมีบุตรยาก
จขกท น่าจะอายุเกินวัยมีลูกแล้ว แต่ยังไม่ใกล้วัยหมดประจำเดือน คือ 50 ปี
หมอจึงตัดมดลูก และตัดรังไข่ออกหนึ่งข้าง เหลือไว้ได้ 1 ข้าง ซึ่งน่าจะดูดีจึงเก็บไว้ได้
โรคนี้ ถ้าตราบใดที่ยังมีรังไข่ คอยให้ฮอร์โมนอยู่ ก็จะไม่หายขาดมีโอกาสงอกขึ้นมาอีก
ถ้าไม่ตัดออกหมด ต้องรักษาด้วยฮอร์โมน ให้ไปกดฮอร์โมนจากรังไข่ ฮอร์โมนที่ว่านี้คือยาคุมกำเนิดนั่นเอง
เลือกใช้ได้ทั้งแบบกิน แบบฉีด ใช้ไป 2 ปีอย่างหมอว่า อาการก็จะสงบ แล้วลองหยุดดู
หลังจากหยุด อาการกลับมาอีกเมื่อไร ก็เริ่มฮอร์โมน (ยาคุม)อีก แบบนี้วนไป
ส่วนมาก มักไม่ทน มาขอให้หมอตัดออกหมด แล้วรับฮอร์โมนแบบวัยหมดประจำเดือนต่อไป
ฮอร์โมนที่รักษา นอกจากยาคุมกำเนิด แบบกิน และฉีด ยังมีฮอร์โมนอื่น ที่ราคาแพง
บางอย่าง นอกจากแพงแล้ว ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบวัยหมดประจำเดือน ซึ่งมักไม่แนะนำให้ใช้ถ้าไม่ต้องการมีบุตรแล้ว
แสดงความคิดเห็น
เป็นเนื้องอกจากปากช่องคลอด มีเลือดออก เราตัดมดลูกแล้วแต่ยังมีรังไข่
📌การรักษาเป็นไปได้ด้วยดี ก้อนติ่งเนื้องจาก 2 เซน ที่หมอมองด้วยตาเปล่า ตอนนี้หมอเอาออกให้จนเหลือ 0.5 เซน และนัดอีกที อาทิตย์หน้า ก้อนนี้น่าจะหมด แต่ยังเหลือก้อนที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อีก 2 เซนที่หมอไม่สามารถเอาออกให้ได้ ก้อนตรงนี้มันอยู่ลึกเข้าไปจากก้อนที่มองเห็น ซึ่งอาจเกินจาก การผ่าตัดเนื้องอกมดลูกครั้งที่แล้ว ทำให้เกิดเนื้องอกออกมาใหม่จากแผลผ่าตัดอันเดิมและอนาคต บอกไม่ได้ว่ามันจะโตขึ้นมาอีกมั้ย โดนต้องมาอัลต้าซาวดูก้อนนี้เป็นระยะๆ
📌แต่หลังจากนี้การรักษาต่อไปคือจะทำยังไงไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีก 😭
📌หมอแจ้งว่า จะต้องให้กินฮอร์โมน ต่อเนื่อง 2 ปี 😱
❗️มีสองทางเลือกคือฮอร์โมนแบบฉีด 3 เดือนครั้ง
❗️กับแบบกิน ต้องกินทุกวันห้ามลืม 2 ปี 😩
ซึ่งทั้งสองแบบมีผลข้างเคียงทุกคู่ คือ
- จะเกิดสภาวะเหมือนวัยทอง ร้อนวูบวาบ
- อารมณ์แปรปวน หงุดหงิด
- รู้สึกดาว หดหู่ ซึมเศร้าได้
- ทำให้อ้วนขึ้น !!!
ซึ่งไม่ดีสักอย่าง และตัวเองมีความกังวลอย่างมากกับผลข้างเคียงนี้ โดนได้ปรึกษาหมอ ว่าถ้าไม่กินฮอร์โมนจะมีวิธีอื่นที่จะรักษาไหมคะ หมอแจ้งว่า ถ้าไม่กินหมอไม่มั่นใจว่ามันจะเกิดอีกมั้ย ฮอร์โมนอันนี้แยกออกมาเฉพาะส่วน ไม่ใช่ทั้งหมด แล้วแต่คนไข้ว่าจะกินมั้ย (ถ้าไม่กินหมอไม่รับประกันว่าจะเกิดขึ้นอีกมั้ย) ส่วนความคิดตัวเอง ไม่อยากกิน!!! เพราะเนื้องอกเราเคยเป็นเเล้ว แล้วมันก็งอกมาใหม่อีก ตัดตรงนี้ออก ไปงอกตรงใหม่อีก แต่ก็ไม่ได้บอกว่าถ้ากินฮอร์โมนแล้วมันจะไม่เกิดอีก 100%
📌ใครเป็นคุณหมอที่มีความเห็นต่างช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ ว่าจำเป็นต้องกินฮอร์โมนจริงๆใช่มั้ยคะ หรือไม่ต้องกินก็ได้