การคุย หรือ การเจรจา มันต้องมีจุดประสงค์หรือเป้าหมายในการคุย
ดังนั้นการที่นายกอิ๊งและฮุนเซนคุยกัน ต่างย่อมต้องมีจุดประสงค์และเป้าหมาย
มาดูกันว่าแต่ละฝ่ายมีจุดประสงค์อย่างไร และใครมีเป้าหมายและประสบความสำเร็จ Getting to Yes
ฮุนเซนชัดเจนว่ามีความโกรธไม่พอใจในเรื่องที่ไทยจะมีมาตราการตัดเน็ตตัดไฟ
และต้องการให้ไทยเปิดด่านก่อน แล้วเขมรถึงเปิดตามภายหลัง เพื่อสามารถนำไปบอกประชาชนว่าสามารถทำให้ไทยเปิดด่านได้ เพื่อเรียกคะแนนนิยม
นายกอิ๊งต้องการทำให้ฮุนเซนหายโกรธ
โดยกล่าวว่าแม่ทัพภาคสองเป็นฝ่ายตรงข้าม การกระทำของแม่ทัพภาค 2 ที่ทำให้โกรธ ไม่เกี่ยวกับเรา(ผู้พูด)
และยังกล่าวขอให้เห็นใจ เพราะถูกคนไทยไล่ให้ไปเป็นนายกเขมรอยู่แล้ว
ขอโทษข่าวเรื่องตัดเน็ตตัดไฟว่าเป็นเพียงการอธิบายขั้นตอน ยังไม่ได้จะตัดเน็ตตัดไฟแต่อย่างไร
(หลังจากคุยกันแล้ว (15 มิ.ย.)ก็มีการยกเลิกการประชุม สมช.(16 มิ.ย.) เกี่ยวกับเรื่องตัดไฟ ตัดเน็ตที่กัมพูชาเริ่มก่อน)
นายกอิ๊งต้องการให้เปิดด่านพร้อมกัน
" ถ้าจะให้มันโอเคทั้งสองฝ่าย เหมือนเราต้องพูดพร้อมกันว่าเราตกลงร่วมกันแล้ว รัฐบาลคุยร่วมกันแล้วว่า จะเปิดทุกอย่างให้กลับมาเป็นปกติได้" น.ส.แพทองธารกล่าว "จะเอาเป็นอิ๊ง กับฮุน มาเนตก็ได้ จะอย่างไรก็ได้ เหมือนว่าเราได้คุยร่วมกัน แล้วทั้งสองฝ่ายเห็นว่าอยากให้เหตุการณ์กลับเป็นปกติ "
ฮุนเซนยืนยันไทยต้องเปิดด่านก่อนเพราะเริ่มก่อน นายกอิ๊งก็รับปากบอกว่าจัดการได้
" ได้ค่ะ เดี๋ยวอิ๊งค์ลองไปคุยกลาโหมดู แล้วก็ขอคอนเฟิร์มกลับมา เพราะเดี๋ยวจะต้องคุยกับกองทัพก่อน แต่ก็เดี๋ยวเราจะสั่งไปเลยค่ะพี่ แต่ว่าอิ๊งค์รอให้มัน 100% แล้วค่อยแจ้งท่านกลับมาดีกว่า เพราะไม่อยากจะยังไม่ 100 แล้วบอกท่านก่อน แต่ว่าจริงๆ ก็จัดการได้ค่ะพี่ "
ฮุนเซน Getting to Yes สมประสงค์ บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
มั่นใจว่าไทยต้องเปิดด่านแน่
วันที่ 16 มิ.ย. ฮุนเซนประกาศกร้าวว่าไทยต้องเปิดด่านภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดด่านชายแดนทั้งหมดกับไทยและห้ามสินค้าไทยทุกชนิดเข้าสู่ราชอาณาจักร
วันที่ 16 มิ.ย. นายกไทยประชุมฝ่ายมั่นคงกลุ่มเล็ก และยกเลิกการประชุม สมช. เรื่องมาตราการตัดเน็ตตัดไฟของกัมพูชา
และแถลงข่าวหลังการประชุมโดยไม่มีการเปิดด่านตามปกติตามที่ฮุนเซนต้องการ
(ความคิดเห็นของผู้ตั้งกระทู้ น่าจะมีการคุยเรื่องเปิดด่านตามปกติ แต่ทางกลาโหมและทหารคงไม่ยอม เพราะถ้ายอมเท่ากับเป็นการอ่อนข้อให้เขมร เสียศักดิศรีเกียรติภูมิทหารไทย)
ฮุนเซนเสียหน้ามากเพราะคิดว่าเมื่อไทยเปิดด่านก่อนก็จะนำไปโฆษณาได้ เพื่อเรียกคะแนนนิยมให้กับตนและลูก
แถมยังถูกหาว่าทั้งพ่อทั้งลูกสื่อสารไม่โปรเฟสชั่นนอล
ความโกรธที่มีตั้งแต่ถูกปิดด่าน และข่าวตัดน้ำตัดไฟ มาผนวกกับการที่ทำตามรับปากว่าจะเปิดด่านทำไม่ได้ และถูกถอนหงอกอีก
คลิปจึงถูกปล่อยออกมาในวันที่ 18 มิ.ย. นั่นแล
การวิเคราะห์ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้
การที่นายกอิ๊งจะผิดจริยธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ก็คงขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลในวันที่ 29 ส.ค. 2568 นี้
จุดประสงค์ เป้าหมายของการคุยของนายกอิ๊งกับฮุนเซน
ดังนั้นการที่นายกอิ๊งและฮุนเซนคุยกัน ต่างย่อมต้องมีจุดประสงค์และเป้าหมาย
มาดูกันว่าแต่ละฝ่ายมีจุดประสงค์อย่างไร และใครมีเป้าหมายและประสบความสำเร็จ Getting to Yes
ฮุนเซนชัดเจนว่ามีความโกรธไม่พอใจในเรื่องที่ไทยจะมีมาตราการตัดเน็ตตัดไฟ
และต้องการให้ไทยเปิดด่านก่อน แล้วเขมรถึงเปิดตามภายหลัง เพื่อสามารถนำไปบอกประชาชนว่าสามารถทำให้ไทยเปิดด่านได้ เพื่อเรียกคะแนนนิยม
นายกอิ๊งต้องการทำให้ฮุนเซนหายโกรธ
โดยกล่าวว่าแม่ทัพภาคสองเป็นฝ่ายตรงข้าม การกระทำของแม่ทัพภาค 2 ที่ทำให้โกรธ ไม่เกี่ยวกับเรา(ผู้พูด)
และยังกล่าวขอให้เห็นใจ เพราะถูกคนไทยไล่ให้ไปเป็นนายกเขมรอยู่แล้ว
ขอโทษข่าวเรื่องตัดเน็ตตัดไฟว่าเป็นเพียงการอธิบายขั้นตอน ยังไม่ได้จะตัดเน็ตตัดไฟแต่อย่างไร
(หลังจากคุยกันแล้ว (15 มิ.ย.)ก็มีการยกเลิกการประชุม สมช.(16 มิ.ย.) เกี่ยวกับเรื่องตัดไฟ ตัดเน็ตที่กัมพูชาเริ่มก่อน)
นายกอิ๊งต้องการให้เปิดด่านพร้อมกัน
" ถ้าจะให้มันโอเคทั้งสองฝ่าย เหมือนเราต้องพูดพร้อมกันว่าเราตกลงร่วมกันแล้ว รัฐบาลคุยร่วมกันแล้วว่า จะเปิดทุกอย่างให้กลับมาเป็นปกติได้" น.ส.แพทองธารกล่าว "จะเอาเป็นอิ๊ง กับฮุน มาเนตก็ได้ จะอย่างไรก็ได้ เหมือนว่าเราได้คุยร่วมกัน แล้วทั้งสองฝ่ายเห็นว่าอยากให้เหตุการณ์กลับเป็นปกติ "
ฮุนเซนยืนยันไทยต้องเปิดด่านก่อนเพราะเริ่มก่อน นายกอิ๊งก็รับปากบอกว่าจัดการได้
" ได้ค่ะ เดี๋ยวอิ๊งค์ลองไปคุยกลาโหมดู แล้วก็ขอคอนเฟิร์มกลับมา เพราะเดี๋ยวจะต้องคุยกับกองทัพก่อน แต่ก็เดี๋ยวเราจะสั่งไปเลยค่ะพี่ แต่ว่าอิ๊งค์รอให้มัน 100% แล้วค่อยแจ้งท่านกลับมาดีกว่า เพราะไม่อยากจะยังไม่ 100 แล้วบอกท่านก่อน แต่ว่าจริงๆ ก็จัดการได้ค่ะพี่ "
ฮุนเซน Getting to Yes สมประสงค์ บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
มั่นใจว่าไทยต้องเปิดด่านแน่
วันที่ 16 มิ.ย. ฮุนเซนประกาศกร้าวว่าไทยต้องเปิดด่านภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดด่านชายแดนทั้งหมดกับไทยและห้ามสินค้าไทยทุกชนิดเข้าสู่ราชอาณาจักร
วันที่ 16 มิ.ย. นายกไทยประชุมฝ่ายมั่นคงกลุ่มเล็ก และยกเลิกการประชุม สมช. เรื่องมาตราการตัดเน็ตตัดไฟของกัมพูชา
และแถลงข่าวหลังการประชุมโดยไม่มีการเปิดด่านตามปกติตามที่ฮุนเซนต้องการ
(ความคิดเห็นของผู้ตั้งกระทู้ น่าจะมีการคุยเรื่องเปิดด่านตามปกติ แต่ทางกลาโหมและทหารคงไม่ยอม เพราะถ้ายอมเท่ากับเป็นการอ่อนข้อให้เขมร เสียศักดิศรีเกียรติภูมิทหารไทย)
ฮุนเซนเสียหน้ามากเพราะคิดว่าเมื่อไทยเปิดด่านก่อนก็จะนำไปโฆษณาได้ เพื่อเรียกคะแนนนิยมให้กับตนและลูก
แถมยังถูกหาว่าทั้งพ่อทั้งลูกสื่อสารไม่โปรเฟสชั่นนอล
ความโกรธที่มีตั้งแต่ถูกปิดด่าน และข่าวตัดน้ำตัดไฟ มาผนวกกับการที่ทำตามรับปากว่าจะเปิดด่านทำไม่ได้ และถูกถอนหงอกอีก
คลิปจึงถูกปล่อยออกมาในวันที่ 18 มิ.ย. นั่นแล
การวิเคราะห์ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้
การที่นายกอิ๊งจะผิดจริยธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ก็คงขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลในวันที่ 29 ส.ค. 2568 นี้