สามีภริยาไม่ได้จดทะเบียนสมรส

สามีภริยาไม่จดทะเบียนสมรส
ทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกัน
ถือเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมในฐานะ
หุ้นส่วนสามัญแบบไม่จดทะเบียน
มีเลขทึ่ผู้เสียภาษีในระบบของสรรพากร
และขอยื่นแบบขอเสียภาษีเงินได้
เหมือนกับบุคคลธรรมดา

​ตามหลักกฎหมาย
และแนวคำพิพากษาของศาลฎีกา
ได้วินิจฉัยไว้ว่า
ชายหญิงที่อยู่กินฉันสามีภริยา
โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส
แม้จะไม่มีสถานะคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย
แต่ทรัพย์สินที่ทั้งสองฝ่ายร่วมกัน
ทำมาหาได้ในระหว่างอยู่กินร่วมกันนั้น
ให้ถือว่าเป็น กรรมสิทธิ์ร่วมในลักษณะของ
ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน


​หลักการนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า
ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันลงทุนลงแรง
ในการประกอบกิจการหรือทำมาหาได้
เพื่อให้เกิดทรัพย์สินงอกเงยขึ้นมา
โดยมีเจตนาที่จะเป็นเจ้าของร่วมกัน
ในทรัพย์สินเหล่านั้นที่งอกเงยขึ้น

​คำพิพากษาศาลฎีกาที่สำคัญ
ซึ่งได้วางหลักการดังกล่าวไว้ ได้แก่

​คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2536
คดีนี้ศาลได้วินิจฉัยในกรณีที่โจทก์
และชายซึ่งเป็นสามีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
ได้ร่วมกันทำมาหากินและมีทรัพย์สินเกิดขึ้น
ระหว่างอยู่กินด้วยกัน
เมื่อฝ่ายชายถึงแก่ความตาย

ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่าทรัพย์สิน
ที่ทำมาหาได้ร่วมกันนั้นเป็นของ
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ได้จดทะเบียน
ซึ่งโจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของอยู่
กึ่งหนึ่งในฐานะหุ้นส่วน
.
.

​คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9577/2552
ได้วินิจฉัยในทำนองเดียวกันว่า
สิทธิในการเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน
ที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้รับมาในระหว่าง
ที่อยู่กินฉันสามีภริยากับอีกฝ่ายหนึ่ง
แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน
ก็ถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มา
ขณะอยู่กินด้วยกัน
จึงเป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างทั้งสองฝ่าย
.
.

​นอกจากนี้ ยังมีคำพิพากษาศาลฎีกา
อีกหลายฉบับที่ได้ยืนยันหลักการนี้ เช่น
​คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2535
​คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2543
​คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10377/2555
.
.

​สาระสำคัญของหลักกฎหมายนี้คือ
​การพิสูจน์เจตนา ฝ่ายที่กล่าวอ้างว่าทรัพย์สิน
เป็นกรรมสิทธิ์ร่วม ผู้ใดกล่าวอ้าง ผู้นั้นนำสืบ
จะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า
ตนได้มีส่วนร่วมในการทำมาหาได้นั้น
ไม่ว่าจะเป็นการร่วมลงทุนด้วยเงินตรา
ทรัพย์สินอื่น หรือลงแรงทำงานร่วมกัน

​การแบ่งทรัพย์สิน
เมื่อความสัมพันธ์สิ้นสุดลง
ไม่ว่าจะด้วยการเลิกรากัน
หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถึงแก่ความตาย
ทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมนี้
จะต้องนำมาแบ่งกันคนละครึ่ง
ตามหลักของกรรมสิทธิ์รวม
เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าแต่ละฝ่าย
มีส่วนในการทำมาหาได้ไม่เท่ากัน

​ดังนั้น แม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรส
แต่กฎหมายก็ยังให้ความคุ้มครอง
แก่คู่รักที่ร่วมกันสร้างฐานะ
ทรัพย์สินมาด้วยกัน
โดยถือว่าทรัพย์สินเหล่านั้น
เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมในฐานะหุ้นส่วน
ซึ่งแต่ละฝ่ายมีสิทธิเรียกร้อง
ส่วนของตนได้ตามกฎหมาย
.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่