ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2568 มีดังนี้:
เศรษฐกิจไทย
GDP: สภาพัฒน์และธนาคารกรุงไทยคาดว่า GDP ของไทยปี 2568 จะขยายตัวที่ 2% ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นและการชะลอตัวของปัจจัยขับเคลื่อนหลัก
ค่าเงินบาท: เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าเล็กน้อยที่ 32.57 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยนักลงทุนจับตาการไต่สวนคดีทางการเมือง
การบริโภคและการลงทุน: ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ 0.6% YoY และดัชนีการลงทุนภาคเอกชนอยู่ที่ 15.4% YoY
การส่งออก: มูลค่าการส่งออกสินค้าเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ 16.1% YoY
การท่องเที่ยว: มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยแล้ว 16.7 ล้านคนตั้งแต่ต้นปี (ถึงเดือนมิถุนายน 2568)
มาตรการภาครัฐ: คณะรัฐมนตรีอนุมัติลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อขายงานศิลปะเพื่อหนุน Soft Power และอนุมัติการกู้เงิน 200 ล้านบาทเพื่อช่วยเกษตรกรโคนม
เศรษฐกิจโลก
สหรัฐฯ: รายงานการประชุมของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชี้ว่ากรรมการมีความเห็นแตกแยกในการตรึงอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม โดยบางส่วนกังวลเรื่องเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน
อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 5.1% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภค การส่งออก และการใช้จ่ายภาครัฐ
ญี่ปุ่น: ญี่ปุ่นเล็งประกาศเป้าหมายการลงทุน 10 ล้านล้านเยนในอินเดีย
จีน: มีรายงานว่าจีนกำลังพิจารณาปิดโรงงานเก่าเพื่อปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
มาเลเซีย: การส่งออกเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตลาดการเงินและการลงทุน
ตลาดหุ้นไทย: ดัชนี SET เปิดตลาดเช้าวันที่ 21 ส.ค. 2568 ปรับตัวบวกเล็กน้อยที่ 3.96 จุด โดยกลุ่มปิโตรเคมีปรับตัวขึ้นแรง
ทองคำ: ราคาทองคำปิดบวก 29.80 ดอลลาร์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้น
หุ้นเด่น: นักวิเคราะห์มีการแนะนำหุ้นในหลายกลุ่ม รวมถึง SCC, PTTGC, DMT, CHOW, MPJ, และ HANN
หมายเหตุ: ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูล ณ เวลาที่มีการสืบค้น โปรดตรวจสอบแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพื่อข้อมูลที่อัปเดตอย่างต่อเนื่อง
เศรษฐกิจไทยวันนี้
เศรษฐกิจไทย
GDP: สภาพัฒน์และธนาคารกรุงไทยคาดว่า GDP ของไทยปี 2568 จะขยายตัวที่ 2% ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นและการชะลอตัวของปัจจัยขับเคลื่อนหลัก
ค่าเงินบาท: เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าเล็กน้อยที่ 32.57 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยนักลงทุนจับตาการไต่สวนคดีทางการเมือง
การบริโภคและการลงทุน: ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ 0.6% YoY และดัชนีการลงทุนภาคเอกชนอยู่ที่ 15.4% YoY
การส่งออก: มูลค่าการส่งออกสินค้าเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ 16.1% YoY
การท่องเที่ยว: มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยแล้ว 16.7 ล้านคนตั้งแต่ต้นปี (ถึงเดือนมิถุนายน 2568)
มาตรการภาครัฐ: คณะรัฐมนตรีอนุมัติลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อขายงานศิลปะเพื่อหนุน Soft Power และอนุมัติการกู้เงิน 200 ล้านบาทเพื่อช่วยเกษตรกรโคนม
เศรษฐกิจโลก
สหรัฐฯ: รายงานการประชุมของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชี้ว่ากรรมการมีความเห็นแตกแยกในการตรึงอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม โดยบางส่วนกังวลเรื่องเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน
อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 5.1% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภค การส่งออก และการใช้จ่ายภาครัฐ
ญี่ปุ่น: ญี่ปุ่นเล็งประกาศเป้าหมายการลงทุน 10 ล้านล้านเยนในอินเดีย
จีน: มีรายงานว่าจีนกำลังพิจารณาปิดโรงงานเก่าเพื่อปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
มาเลเซีย: การส่งออกเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตลาดการเงินและการลงทุน
ตลาดหุ้นไทย: ดัชนี SET เปิดตลาดเช้าวันที่ 21 ส.ค. 2568 ปรับตัวบวกเล็กน้อยที่ 3.96 จุด โดยกลุ่มปิโตรเคมีปรับตัวขึ้นแรง
ทองคำ: ราคาทองคำปิดบวก 29.80 ดอลลาร์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้น
หุ้นเด่น: นักวิเคราะห์มีการแนะนำหุ้นในหลายกลุ่ม รวมถึง SCC, PTTGC, DMT, CHOW, MPJ, และ HANN
หมายเหตุ: ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูล ณ เวลาที่มีการสืบค้น โปรดตรวจสอบแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพื่อข้อมูลที่อัปเดตอย่างต่อเนื่อง