****ขอแท็กการวางแผนการเงิน เพราะเชื่อว่าการตัดสินใจ มันมีเรื่องเงิน เรื่องค่าใช้จ่าย เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน***
วันนี้คำถามมาหนักหน่อย ปกติก็โดนแซวว่าชอบถามยากๆ อยู่แล้ว ฮี่ๆๆๆ
แต่อยากชวนทุกคน มาร่วมพูดคุย ถกกันเรื่องนี้จริงๆนะ
คุณแม่จขกท. เคยป่วยหนักมากๆ จนต้องอยู่ icu เกือบๆ 2 เดือน จขกท. เป็นคนเฝ้าและดูแลคุณแม่ เป็นช่วง 2เดือน ที่เห็นคนตายเยอะมากๆ มีคนเสียชีวิตทุกวันๆ ก็มันวอร์ด icu
จขกท. และญาติๆคนไข้อื่นๆ เราอดหลับอดนอน ดูแลคนป่วยที่เรารัก เราเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน เราไม่รู้ชื่อกันด้วยซ้ำ แต่ทุกครั้งที่มีญาติใครสักคน อาการทรุดหนัก จนต้องปั๊ มหัวใจ ซ็อค... พวกเราจะรีบปลอบใจกัน ช่วยเหลือกัน สนับสนุนกัน ท่ามกลางการป่วยหนักของแม่ๆ ของพวกเราเสมอ
เราแบ่งปันความเข้มแข็ง ให้กำลังใจกันเสมอ เพราะไม่ใช่แค่คนป่วยที่หนัก ญาติคนป่วยก็ใจจะขาด กับสถานการณ์ที่ยืนอยู่ ไม่รู้หมอจะถาม จะให้ตัดสินใจอะไรยังไง ตอนไหน
จขกท. ได้เห็นเคสนึง
มี ผช.คนนึง คุยโทรศัพท์ ไม่ได้แอบฟังนะ แต่ด้วยสถานการณ์ อารมณ์ของเขา รวมทั้งพื้นที่ค่อนข้างจำกัด พอจับใจความได้ว่า คุณแม่ของเขาป่วยหนัก และคุณหมอให้ญาติตัดสินใจ ว่าจะปล่อยไป หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อยื้อชีวิตให้นานที่สุด
เขาโทรหาอีกฝั่ง ว่าจะเอายังไง ให้ทุกคนช่วยตัดสินใจ เหมือนอีกฝั่งจะบอกให้เขาตัดสินใจเลย เขาเลยพูดแบบมีอารมณ์ว่า เหมือนทุกคนโยนให้เขา บีบให้เขาตัดสินใจคนเดียว คือถ้าแม่ตายก็จะให้เขา รู้สึกผิดคนเดียวเหรอ ทำไมไม่ข่วยกันตัดสินใจ...
อีกเคส ญาติคนป่วยไล่โทรถามญาติๆ กลางดึก ว่าคิดเห็นจะตัดสินใจกันอย่างไร กับอาการผู้ป่วย ที่ทรุดหนัก จนหมอให้ญาติตัดสินใจเลือกว่าจะยื้อหรือจะปล่อย
กลายเป็นโทรไปดึกๆ ติดต่อคนโน้น คนนี่ไม่ได้ คนที่ติดต่อได้ ก็ไม่กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ต้องมานั่งทะเลาะกันไปมา
จขกท. แค่ได้ฟังได้เห็นแบบบังเอิญ ยังหน่วงแทบตาย ลองสมมติว่าเป็นตัวเอง ก็คิดไม่ตกว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี
จึงเป็นที่มาของคำถามนี้ค่ะ
คุณ และคนในครอบครัว ได้เคยพูดคุย ตกลง สั่งเสียกันไว้บ้างไหม ว่าถ้าใครเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุรุนแรง จนหมอต้องถามญาติ ว่าจะยื้อชีวิตผู้ป่วย หรือปล่อยผู้ป่วยไป ให้ตัดสินใจ หรือจัดการกันอย่างไร
มันก็เป็นเรื่องที่หนัก และหน่วงจริงๆ แต่ถ้าได้เคยมีการพูดคุยกันไว้ ถึงวาระสุดท้ายของชีวิต คนจากไปก็สบายใจ คนยังอยู่ก็ไม่มีอะไรค้างคาใจ
อย่างน้อยๆ ถ้าสองเคสข้างบน เขาเคยพูดคุย ตกลงร่วมกัน กับผู้ป่วยมาก่อน เขาคงไม่รู้สึกผิด ไม่เสียใจ ลังเลใจ แบบนี้
ได้เคยพูดคุยสั่งเสียตกลงกันไว้ไหม ว่าถ้าเจ็บป่วย/เกิดอุบัติเหตุรุนแรงให้ยื้อชีวิตหรือจัดการยังไงกับวาระสุดท้ายของชีวิต?
วันนี้คำถามมาหนักหน่อย ปกติก็โดนแซวว่าชอบถามยากๆ อยู่แล้ว ฮี่ๆๆๆ
แต่อยากชวนทุกคน มาร่วมพูดคุย ถกกันเรื่องนี้จริงๆนะ
คุณแม่จขกท. เคยป่วยหนักมากๆ จนต้องอยู่ icu เกือบๆ 2 เดือน จขกท. เป็นคนเฝ้าและดูแลคุณแม่ เป็นช่วง 2เดือน ที่เห็นคนตายเยอะมากๆ มีคนเสียชีวิตทุกวันๆ ก็มันวอร์ด icu
จขกท. และญาติๆคนไข้อื่นๆ เราอดหลับอดนอน ดูแลคนป่วยที่เรารัก เราเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน เราไม่รู้ชื่อกันด้วยซ้ำ แต่ทุกครั้งที่มีญาติใครสักคน อาการทรุดหนัก จนต้องปั๊ มหัวใจ ซ็อค... พวกเราจะรีบปลอบใจกัน ช่วยเหลือกัน สนับสนุนกัน ท่ามกลางการป่วยหนักของแม่ๆ ของพวกเราเสมอ
เราแบ่งปันความเข้มแข็ง ให้กำลังใจกันเสมอ เพราะไม่ใช่แค่คนป่วยที่หนัก ญาติคนป่วยก็ใจจะขาด กับสถานการณ์ที่ยืนอยู่ ไม่รู้หมอจะถาม จะให้ตัดสินใจอะไรยังไง ตอนไหน
จขกท. ได้เห็นเคสนึง
มี ผช.คนนึง คุยโทรศัพท์ ไม่ได้แอบฟังนะ แต่ด้วยสถานการณ์ อารมณ์ของเขา รวมทั้งพื้นที่ค่อนข้างจำกัด พอจับใจความได้ว่า คุณแม่ของเขาป่วยหนัก และคุณหมอให้ญาติตัดสินใจ ว่าจะปล่อยไป หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อยื้อชีวิตให้นานที่สุด
เขาโทรหาอีกฝั่ง ว่าจะเอายังไง ให้ทุกคนช่วยตัดสินใจ เหมือนอีกฝั่งจะบอกให้เขาตัดสินใจเลย เขาเลยพูดแบบมีอารมณ์ว่า เหมือนทุกคนโยนให้เขา บีบให้เขาตัดสินใจคนเดียว คือถ้าแม่ตายก็จะให้เขา รู้สึกผิดคนเดียวเหรอ ทำไมไม่ข่วยกันตัดสินใจ...
อีกเคส ญาติคนป่วยไล่โทรถามญาติๆ กลางดึก ว่าคิดเห็นจะตัดสินใจกันอย่างไร กับอาการผู้ป่วย ที่ทรุดหนัก จนหมอให้ญาติตัดสินใจเลือกว่าจะยื้อหรือจะปล่อย
กลายเป็นโทรไปดึกๆ ติดต่อคนโน้น คนนี่ไม่ได้ คนที่ติดต่อได้ ก็ไม่กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ต้องมานั่งทะเลาะกันไปมา
จขกท. แค่ได้ฟังได้เห็นแบบบังเอิญ ยังหน่วงแทบตาย ลองสมมติว่าเป็นตัวเอง ก็คิดไม่ตกว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี
จึงเป็นที่มาของคำถามนี้ค่ะ
คุณ และคนในครอบครัว ได้เคยพูดคุย ตกลง สั่งเสียกันไว้บ้างไหม ว่าถ้าใครเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุรุนแรง จนหมอต้องถามญาติ ว่าจะยื้อชีวิตผู้ป่วย หรือปล่อยผู้ป่วยไป ให้ตัดสินใจ หรือจัดการกันอย่างไร
มันก็เป็นเรื่องที่หนัก และหน่วงจริงๆ แต่ถ้าได้เคยมีการพูดคุยกันไว้ ถึงวาระสุดท้ายของชีวิต คนจากไปก็สบายใจ คนยังอยู่ก็ไม่มีอะไรค้างคาใจ
อย่างน้อยๆ ถ้าสองเคสข้างบน เขาเคยพูดคุย ตกลงร่วมกัน กับผู้ป่วยมาก่อน เขาคงไม่รู้สึกผิด ไม่เสียใจ ลังเลใจ แบบนี้