ไปทางไหนดี

กระทู้สนทนา
คือเรากับสามีอยู่ด้วยกันมาครบ 10 ปีแต่เราอยากเลิกกับเขาแล้วไม่อยากอยู่ด้วยแล้วเพราะว่าเราเหนื่อยมาก ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาเขาไม่เคยเป็นผู้นำเลยแต่ก่อนหน้านี้มันก็ยังพอทำเนาไปได้ แต่หลังจากกลับมาอยู่กับเขาที่ต่างจังหวัดที่บ้านของเขาเราก็มีปัญหากันมากขึ้นเกิดการทะเลาะกันที่หนักขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็เคยกลับมาแล้วแต่เขานอกใจเราไปหาแฟนเก่าไปมีอะไรกับแฟนเก่าซึ่งเราจับได้ เราก็กลับไปกรุงเทพฯไปหางานทำ แต่สักพักเขาก็กลับตัวได้ก็เลยกลับมาง้อเราแล้วก็พากันกลับมาอยู่ที่ต่างจังหวัด แต่ทีนี้ทุกอย่างมันแย่ลงเพราะมีความเครียดจากืการเงิน การขายของ ชีวิตครอบครัว เพราะเราอยู่ในบ้านเขาก็จะมีพี่เขา แม่เขา ญาติเขา ซึ่งมันค่อนข้างจะท็อกซิก เราก็เลยพยายามที่จะปรับตัวที่จะอยู่กับเขา อะไรก็แล้วแต่เราก็โอนอ่อนยอมไปหมด แต่ทุกครั้งที่เกิดการทะเลาะกันกับเขาอ่ะเ ขาจะมีความอดทนกับเราน้อยมากจนถึงขั้นตบตี เขาเริ่มตบตีเราบ่อยขึ้นตั้งแต่กลับมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดกับเขา คือตอนนี้เรามีปัญหากับพี่เขาเรากับเขาเลยตัดสินใจกันออกมาอยู่ข้างนอก แต่เขาก็ยังคงเป็นแบบเดิมอยู่ นั่นก็คือมีความอดทนน้อยคอยแต่กดดันเราคอยแต่พยายามจะให้เราหาทางออก หาทางแก้ปัญหาของการเงิน แต่เขาอ่ะไม่เคยที่จะพยายามทำอะไรเลย พอเวลาเราคิดแผนอะไรหรือบอกเขาว่าเรามีวิธีแก้ปัญหา 1 2 3 อะไรก็แล้วแต่ เขาก็ไม่เคยจะถูกใจหรือพอใจ เขาจะพูดกับสิ่งที่เขาคิดว่ามันทำได้สถานการณ์ขายของๆเราอ่ะมันทำไม่ได้ทั้งๆที่เขาก็รับรู้อยู่ แต่เขาพยายามที่จะบอกว่าก็เธอพูดแล้วเธอสัญญาแล้วมันก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่เราแค่คิดว่าทำไมเขาถึงไม่ไปตามสถานการณ์นั้นนั้นๆว่าเฮ้ยมันไม่ได้เป็นไปได้ทุกอย่างนะมันมีหลายๆเรื่องมากเลยทั้งการ support ในการใช้ชีวิตยกตัวอย่างเช่นเราไม่สบายแต่เรายังทำงานปกติเราทำของขาย ออกไปขายของ
เราปวดท้องเมนส์ เราก็ยังต้องไปยืนขายของแบบปวดท้อง คือเขาไม่เคยซัพพอร์ตตรงนี้เลยแต่ในขณะที่เขาอ่ะไม่สบายเราไปซื้อยาให้ หาของกินให้ดูแลเขาทุกอย่างทำของในส่วนของเขาด้วย ทำงานในส่วนของเขาทั้งหมด ขายของแทนเขาบางทีเขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเรารู้สึกว่ามันก็ 10 ปีแล้วนะ ทั้งๆที่ปากเขาพูดว่าเขารักเราเขาเห็นเราเป็นเมีย แต่เราแค่รู้สึกว่าทำไมเขารักแต่ตัวเองเอาแต่ตัวเองสบายเขาถึงไม่คิดเลยว่า เออการใส่ใจมันคืออะไร แต่เขาค่อยมาถามว่าทำไมเรารักเขาน้อยลงเราใส่ใจเขาน้อยลง แต่จริงๆแล้วไม่เลยเราทำทุกอย่าวตามปกติเลยแต่เราแค่รู้ว่าความรู้สึกของเราที่มีกับเขามันน้อยลงเพราะว่าเราเหนื่อย เราเหนื่อยกับเขาจริงๆเรามีอีกหลายเรื่องในชีวิตเลยที่เขาไม่เคยซัพพอร์ต อย่างเช่นปัญหาทางบ้านเราเวลาที่เรารับฟังมา อันนี้เราก็ผิดที่เราอินกับเรื่องที่บ้าน แต่เค้าจะไม่รับฟังแล้วเอาแต่ซ้ำเติมและพูดปัญหาเพิ่มเข้าไปอีกเพื่อให้เราเครียดกว่าเดิมสุดท้ายพอเกิดการทะเลาะกันเขาก็จะบอกว่า เป็นเพราะเรื่องทางบ้านเราที่ทำให้มันเกิดขึ้น ทั้งๆที่บางทีเราทิ้งเรื่องทางบ้านไปแล้วแต่ที่เราทะเลาะกับเขาเพราะว่าคำพูดของเขา การกระทำของเขาซึ่งทุกวันนี้เราจะไม่สามารถแสดงอารมณ์อะไรได้เลย เราไม่มีสิทธิ์หงุดหงิด ไม่มีสิทธิ์ขึ้นเสียงถ้าเราขึ้นเสียง ทุกอย่างจะรุนแรงในทันทีเขาแทบจะไม่มีความอดทนในการรับฟังเราเลย เราทำได้แค่เพียงทำหน้าปกติหรือยิ้มมีความสุขเท่านั้น ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเราจะกลายเป็นคนผิด และเขามักจะพูดว่าเป็นคนผิดก็สำนึกผิดให้มันมากๆรู้สึกอย่างนั้นไปเลย รู้สึกอย่างนั้นมันไปให้ที่สุดแล้วก็รับผิดชอบทุกอย่างด้วยนะ เรารู้สึกว่าเออนี่เราต้องเจอกับอะไรแต่เราก็ไม่สามารถเลิกกับเขาได้ เพราะเราก็บอกตรงๆว่าเราไม่มีที่ไปที่บ้านก็ ไม่ใช่เซฟโซนของเราเพราะที่บ้านก็มีปัญหาของตัวเองเหมือนกัน เราไม่อยากกลับบ้านเลยแต่เราก็ไม่มีที่ไหนให้ไป เราก็เลยได้แต่ทนไปอย่างนี้จนกว่าวันนึงเราจะเก็บตังค์ได้แล้วเราคงจะเดินออกมา ก่อนหน้านี้เราเป็นคนร่าเริงมากเลยนะเราทำงานอย่างสนุก แต่พอเรากลับมาอยู่กับเขากับที่บ้านเขาเราเริ่มมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิต ทีแรกเราก็คิดว่าคงเป็นเพราะความเครียดมากเกินไป แต่วันหนึ่งเราก็ยอมที่จะไปปรึกษาจิตแพทย์ คนเขาบอกว่าเราอ่ะต้องพยายามที่จะพูดมันออกมาแต่เราก็ไม่กล้า เราได้แค่ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์นั้นๆ เรากลายเป็นโรควิตกกังวลมีภาวะซึมเศร้าซึ่งมันแย่มากๆเลยนะ เรากลัวไปหมดแม้กระทั่งเสียงแชทเราต้องคอยเปิดเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ตลอดเวลาเพราะกลัวว่าจะตอบแชทที่บ้านช้า แล้วก็จะเกิดปัญหาการนอยด์มันขึ้นมาอีก กลัวในการตัดสินใจทุกๆอย่างทั้งๆที่ก่อนเราเป็นคนมั่นใจมาก กลัวการโดนว่าหรือแม้แค่การตำหนิเพียงครั้งเดียวเราก็จะคิดอยู่นานมาก กลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ เราเสียตัวเราไปเลย เราเคยหวังว่าวันหนึ่งเราจะกลับไปเป็นคนเดิมที่ไม่กลัวอะไรเลย แล้วก็กล้าตัดสินใจที่จะเดินออกไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่