เรื่องมีอยู่ว่า รถยนต์ที่เช่าซื้อกับทางธนาคารโดนคนรู้จักยักยอกไปอีกทีโดยการขอยืมแล้วไม่คืน ต่อมาได้ติดต่อขอหนังสือมอบอำนาจไฟแนนซ์แจ้งรายละเอียดว่าขอเอกสารมาเพื่อแจ้งความ และก็ได้หนังสือมอบอำนาจจากไฟแนนซ์มา หลังจากนั้นก็ไม่ได้ส่งค่างวดอีกเลย
ระหว่างรอตำรวจดำเนินตามขั้นตอนได้ติดต่อกับทางธนาคารและแจ้งความคืบหน้าของคดีตลอด และถามถึงเงื่อนไขการขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือขอลดค่างวดมาตลอดแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ จนวันที่ 20.8.68 มีเจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับมาแจ้งข้อเสนอ
- ปิดจบบัญชีที่ยอด 500,000 (จากยอด 800,000 รวมค่าปรับ เบี้ย อะไรต่างๆนาๆ) และต้องชำระภายในสิ้นเดือนนี้เท่านั้น
- เจอกันที่ศาล วันที่ 6.10.68 แต่ต้องวางเงินค้างชำระ 3 เดือน (ยอดประมาณ 35,000) และให้ผ่อน 6,000 เป็นระยะเวลา 48 เดือน
คำถาม คือ
1. ตามข้อเสนอข้อแรก ถ้าเราตกลงจ่าย 500,000 ไป เราจะรู้ได้ยังไงว่าบัญชีของเราปิดแล้วจริงๆ
2. ถ้ารอไปเจอวันที่ 6.10.68 แล้วเราไม่มีเงินก้อนไปวาง เราสามารถขอผ่อนต่อ หรือ ขอผ่อนแบบลดค่างวดลงมาได้ไหม
3. วันที่ศาลนัดไฟแนนซ์จะบังคับให้ตัดสินใจเซ้นต์ยอมเลยไหม
# ขณะที่โดนกรุงศรีฟ้องแพ่งผมก็ตามเรื่องคดียักยอกควบคู่ไปด้วยอยู่ในขั้นตอนออกหมายจับแล้ว เพราะไม่มารายงานตัว 2 หมาย
ใครมีประสบการณ์โดนไฟแนนซ์รถยนต์ของกรุงศรีฟ้องบ้างครับ แชร์ประสบการณ์หน่อยครับ
ระหว่างรอตำรวจดำเนินตามขั้นตอนได้ติดต่อกับทางธนาคารและแจ้งความคืบหน้าของคดีตลอด และถามถึงเงื่อนไขการขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือขอลดค่างวดมาตลอดแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ จนวันที่ 20.8.68 มีเจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับมาแจ้งข้อเสนอ
- ปิดจบบัญชีที่ยอด 500,000 (จากยอด 800,000 รวมค่าปรับ เบี้ย อะไรต่างๆนาๆ) และต้องชำระภายในสิ้นเดือนนี้เท่านั้น
- เจอกันที่ศาล วันที่ 6.10.68 แต่ต้องวางเงินค้างชำระ 3 เดือน (ยอดประมาณ 35,000) และให้ผ่อน 6,000 เป็นระยะเวลา 48 เดือน
คำถาม คือ
1. ตามข้อเสนอข้อแรก ถ้าเราตกลงจ่าย 500,000 ไป เราจะรู้ได้ยังไงว่าบัญชีของเราปิดแล้วจริงๆ
2. ถ้ารอไปเจอวันที่ 6.10.68 แล้วเราไม่มีเงินก้อนไปวาง เราสามารถขอผ่อนต่อ หรือ ขอผ่อนแบบลดค่างวดลงมาได้ไหม
3. วันที่ศาลนัดไฟแนนซ์จะบังคับให้ตัดสินใจเซ้นต์ยอมเลยไหม
# ขณะที่โดนกรุงศรีฟ้องแพ่งผมก็ตามเรื่องคดียักยอกควบคู่ไปด้วยอยู่ในขั้นตอนออกหมายจับแล้ว เพราะไม่มารายงานตัว 2 หมาย