โบรกเตือนแรงขายหุ้น ‘การบินไทย’ หลังราคาพุ่งเกินพื้นฐาน จับตา ‘กลุ่มสหกรณ์’ ครบกำหนดล็อกอัป

กระทู้สนทนา

โบรกเตือนแรงขายหุ้น ‘การบินไทย’ หลังราคาพุ่งเกินพื้นฐาน จับตา ‘กลุ่มสหกรณ์’ ครบกำหนดล็อกอัป
.
โบรกเตือน “การบินไทย” กลับเข้ามาซื้อขายอีกครั้งในรอบ 4 ปี “ราคาร้อนแรงเกินพื้นฐาน” แฝงด้วยความเสี่ยง แนะจับตาแรงเทขาย “กลุ่มสหกรณ์” หลังครบกำหนดห้ามขายในอีก 6 เดือน “บล.บัวหลวง” ชี้ปัจจัยหลักดันราคา “สภาพคล่อง” แม้มีกระแสข่าวกองทุนซื้อแต่ยังไม่ชัดเจน “บล.กสิกรไทย” คาดผู้บริหารกำลังพยายามหาแนวทางชะลอแรงขายหลังครบกำหมดห้ามขาย “บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล” มองราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้างแพง
.
การกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อีกครั้งในรอบ 4 ปี ของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เมื่อ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังหุ้น THAI ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายไปตั้งแต่ 25 ก.พ. 2564 ที่ราคาปิดสุดท้าย 3.32 บาท จากปัญหาด้าน “ฐานะการเงิน” และต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ หลังโดนพิษ “วิกฤติโควิด” ถล่มหลัก
.
แต่ปัจจุบันหุ้น THAI กำลังถูกสปอร์ตไลท์ส่องตั้งแต่วันแรกกลับมาซื้อขาย สะท้อนราคาหุ้นพุ่งทะยานขึ้นทำ “จุดสูงสุด” ตั้งแต่กลับมาซื้อขายอีกครั้งอยู่ที่ 19.40 บาท (ณ วันที่ 14 ส.ค.68) หากเทียบจากราคาปิดสุดท้ายราคาหุ้น THAI พุ่งกว่า 484.33%
.
ดังนั้น ด้วยระดับความร้อนแรงของหุ้น THAI จึงเริ่มมีเสียงเตือนจาก “นักวิเคราะห์” หลากหลายสำนักว่า ราคาเข้าข่ายแพงเกินปัจจัยพื้นฐานแล้ว และอาจจะถึงจุดที่ไปต่อไม่ไหวหรือป่าว และอีกหนึ่งจุดที่กำลังส่งสัญญาณอันตรายสร้างความกังวลมากขึ้นนั่นคือหุ้นบางส่วนของ “กลุ่มสหกรณ์” ครบกำหนด “ปลดล็อก” การห้ามขาย (lock-up) ภายใน 6 เดือน อาจจะก่อให้เกิดแรงขายจำนวนมาก และกดดันราคาหุ้นในตลาด แม้ผลประกอบการครึ่งแรกจะออกมา“โดดเด่น”แต่ยังมองว่าระดับราคาปัจจุบันมีความผันผวนสูง
.
นายพิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐานสายงานวิจัย บล.บัวหลวง ให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันราคาหุ้น THAI ที่ปรับขึ้นมานั้นถือว่าเกินพื้นฐานเมื่อพิจารณาจากค่าพีอี และ Valuation หรือการเทียบกับหุ้นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคาคือ สภาพคล่อง และภาวะอารมณ์ตลาด และมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีกองทุนเข้ามาถือหุ้นแม้จะยังไม่แน่ชัด
.
ทั้งนี้ ภาพรวมกำไรของ THAI ยังดูดี เนื่องจากบริษัทมี “การลดต้นทุน” อย่างมาก ทั้งค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้ผลประกอบการดีขึ้น แต่ระยะยาวทิศทางอุตสาหกรรมการบินและท่องเที่ยวโดยรวมยังไม่ได้ดีมาก
.
“ราคาหุ้นปัจจุบันได้ Price in ของการฟื้นตัวและการลดต้นทุนไปมากแล้ว และมองว่ามีความไม่แน่นอนสูงในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องของการล็อกอัพของหุ้น หากครบกำหนด 6 เดือน มีแนวโน้มสูงที่นักลงทุนจะเทขายทำกำไรออกมา”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่