กระทู้ที่แล้วที่ผมตั้งไปว่า การจัดการ ศูนย์แสดงในไทยเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลไทย ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเดินสายจัดการประเทศรอบข้าง
ทั้ง พม่า ลาว กัมพูชา ซึ่ง หลังจากได้บัตรผ่านจากจีน พม่า-ลาวก็ให้ความร่วมมือแล้ว แต่กัมพูชาไม่ กระทั่งลุกลามบานปลายยกเรื่องพื้นที่พิพาทมาให้พวกคลั่งชาติหลงประเด็น ฝรั่งก็หลงประเด็นไปพูดเรื่อง มรดกเจ้าอาณานิคมไปกันใหญ่ ทั้งที่เป็นเรื่องหม้อข้าวของฮุนเซ็น
กลับมาที่ Entertainment complex ที่ รัฐบาลเพื่อไทยโดนขวางจากกลุ่มผลประโยชน์ ที่ลือกันว่า เจ้าเดียวกับเขมรสูงเขากระโดง ที่มีผลประโยชน์กับบ่อนชายแดน จึงกระทำการIO ขวางทุกทาง ไม่ให้เกิดขึ้น อ้างมอมเมา ผิดศีลธรรม แม้แต่พรรคส้มที่อ้างว่าก้าวหน้าที่สุด ก็ขวางเพราะอยากทำเอง(เพื่อไทยทำไม่น่าไว้ใจ แต่ถ้าะรรคส้มทำ มันจะดีแน่นอน ว่าซั่น)
ในขณะที่บ้านเรา GDP ตกต่ำ จากยุคทักษิณ 7ลุ้น8 ยิ่งลักษณ์ประคองที่ 7
รัฐประหารไป 2 รอบ เจอสงครามการค้า สงครามยูเครน โควิด ร่วงลงมา 2
เพื่อไทยเป็นรัฐบาลมา 2ปีกว่า โดนโจมตีทุกรูปแบบ จากฝ่ายค้าน พรรคร่วม องค์กรอิสระ
สื่อที่ถูกซื้อให้ด่ารัฐบาล ผู้ว่าแบงก์ชาติที่ไม่ออกนโยบายให้สอดคล้องกับนโยบายการเงินรัฐบาลเลย
คนอวยทหารบางกลุ่มก็อยากให้รัฐประหารเหลือเกิน
พอ GDP สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ (1.8 )
ได้ ครึ่งปีที่2.8 และภาพรวมน่าจะ 3
สื่อที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลก็เอาใหญ่
ทำกราฟฟิคบอกว่าGDPไทยต่ำสุดในอาเซียน
ด่ารัฐบาลกันสนุก แต่ไม่เคยคิดเลยว่า ทำไมจากยุค ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ มันตกมาถึงระดับนี้เพราะอะไร
เข้าสู่ประเด็นตามหัวข้อ
ผมสังเกตว่า 2-3 ที่ผมเฝ้ามองการนำเสนอข่าว
ของสื่อไทย ถ้าไม่ใช่เรื่องกีฬานะ
ไทยมีมุมมองต่อเวียดนามดีมาก ดีเกินไปแบบแปลกๆ
การอวยเวียดนาม ว่าการเมืองเข้มแข็ง
เพราะเขาไม่มีฝ่ายค้าน ก็เป้็นปกติของคนไทยที่ชอบส่งเสียงวิจารณ์รัฐบาลตัวเอง แต่ชื่นชม ระบอบการปกครองแบบ สิงคโปร์/เวียดนาม
(ทั้งที่เคยได้การปกครองแบบนั้นไปแล้ว 10ปี ในสมัยประยุทธ์ แต่พอได้รัฐบาลพลเรือนจากการเลือกตั้ง ก็บ่นอยากให้ทหารมาปกครองอีก เพราะนักการเมืองมันชั่ว)
การที่คนไทยชื่นชมว่า การเมืองเวียดนาม มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ไร้คอรัปชั่น ในขณะที่ เสรีภาพสื่อของเวียดนาม อยู่อันดับต่ำกว่าเขมร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะตอนที่อยู่ในรัฐบาลประยุทธ์ ข่าวจีนเทา จิอห์นนี่มือปราบ เขากระโดง ก็ไม่มีมาให้คนไทยรู้สึกว่าบ้านเมืองชิbหาย (พอมารัฐบาลนี้ อยู่ๆเราเสียดินแดนให้เขมรไปได้ไงตั้ง 11จุด)
แต่ที่ผมไม่เข้าใจ คือกระทั่งข่าว เวียดนามปลูกทุเรียนแข่งกับไทย
(เห็นไทยปลูกขายจีนได้ราคาดี เลยปลูกตาม) หรือ ตามที่จีนเข้มงวดเรื่องสารปนเปื้อน จนทุเรียนเวียดนามส่งขายจีนไม่ได้
มีทะลักเข้าทางไทย มาแอบเนียนปน
ผมสัง้เกตนะว่า ในคอมเม้นท์ คนไทยด่าเวียดนามน้อยมาก มีแต่ด่าคนไทยหรือคนจีนที่เอาเข้ามา
ผมนี่อะเมซซิ่งมาก เวียดนามในสายตาคนไทยดูดีมากเลยว่ะ
เอาจริงๆ ผมเองก็มองเวียดนามดีนะ
กระทั่งมี Entertainment complex ก็ได้แต่อนุโมทนา ยินดีไปกับเขาด้วยที่ไม่ต้องสู้กับฝ่ายค้านแบบเรา ไม่ต้องโดนฮุนเซนหาเรื่องล้มรัฐบาล
เพื่อขวางทาง (รัฐบาลเวียดนามเขย่ายากไม่เหมือนรัฐบาลไทยที่มีคนพร้อมร่วมลงแขก)
ผมก็ได้ไปรู้มาว่า ในขณะที่เศรษฐกิจไทยซบเซา จากการรัฐประหาร นักลงทุนไทย เจ้าสัวทั้งหลาย ก็้อาเงินไปลงทุนในเวียดนาม เพราะคงรำคาญความวุ่นวายทางการเมืองของไทย
โยกเงินไปลงทุนที่อื่นก่อน รอให้มันคลี่คลายก่อน
การที่เวียดนามเจริญเติบโตไป พวกเจ้าสัวไทยก็ได้อานิสงส์
คิดๆไปถึงวงล้อประวัติศาสตร์
สงครามเย็น เวียดนาม ยืนหยัดจะเป็น คอมมิวนิสต์ แบบรัสเซีย แท้ต้นตำรับจะล้มสลายเพราะพ่ายแพ้กับทุนนิยม
แต่ "จินตนาการใหม่" ของระบบเศรษฐกิจ "ทุนนิยมโดยรัฐ" อาจจะสมบูรณ์แบบที่สุดได้ที่เวียดนาม ที่มีขนาดเล็กกว่าจีน และใหญ่พอที่จะเป็นคอมมิวนิสต์ผสมทุนนิยม
ไทยที่ยืนหยัดจะเป็นประเทศ เสรีประชาธิปไตย
ต้านภัยคอมมิวนิสต์ ลุ่มๆดอนๆ กับเผด็จการทหาร ได้เสรีภาพสื่อที่ใช้เต็มอัตราเฉพาะในรัฐบาลพลเรือน เสรีภาพที่ว่าถูกเอามาทำลายเสถียรภาพของตัวเอง เหมือนอเมริกาถูกทำให้WOKE จนคนเลือกทรัมป์
จากสงครามเย็น มาสงครามการค้า
เวียดนาม คอมมิวนิสต์+ "จินตนาการใหม่"
กับ
ไทย เสรีประชาธิปไตย
ที่รัฐบาลถูกเครือข่ายเผด็จการทำให้อ่อนแอ
จนออกนโยบายอะไรไม่ได้
อุดมการณ์ไหนจะชนะ
คำตอบอาจจะอยู่ไม่ไกลจากตอนนี้
Entertainment complex การเอาคืนไทยของคอมมิวนิสต์เวียดนาม ผ่านโลกทุนนิยม
ทั้ง พม่า ลาว กัมพูชา ซึ่ง หลังจากได้บัตรผ่านจากจีน พม่า-ลาวก็ให้ความร่วมมือแล้ว แต่กัมพูชาไม่ กระทั่งลุกลามบานปลายยกเรื่องพื้นที่พิพาทมาให้พวกคลั่งชาติหลงประเด็น ฝรั่งก็หลงประเด็นไปพูดเรื่อง มรดกเจ้าอาณานิคมไปกันใหญ่ ทั้งที่เป็นเรื่องหม้อข้าวของฮุนเซ็น
กลับมาที่ Entertainment complex ที่ รัฐบาลเพื่อไทยโดนขวางจากกลุ่มผลประโยชน์ ที่ลือกันว่า เจ้าเดียวกับเขมรสูงเขากระโดง ที่มีผลประโยชน์กับบ่อนชายแดน จึงกระทำการIO ขวางทุกทาง ไม่ให้เกิดขึ้น อ้างมอมเมา ผิดศีลธรรม แม้แต่พรรคส้มที่อ้างว่าก้าวหน้าที่สุด ก็ขวางเพราะอยากทำเอง(เพื่อไทยทำไม่น่าไว้ใจ แต่ถ้าะรรคส้มทำ มันจะดีแน่นอน ว่าซั่น)
ในขณะที่บ้านเรา GDP ตกต่ำ จากยุคทักษิณ 7ลุ้น8 ยิ่งลักษณ์ประคองที่ 7
รัฐประหารไป 2 รอบ เจอสงครามการค้า สงครามยูเครน โควิด ร่วงลงมา 2
เพื่อไทยเป็นรัฐบาลมา 2ปีกว่า โดนโจมตีทุกรูปแบบ จากฝ่ายค้าน พรรคร่วม องค์กรอิสระ
สื่อที่ถูกซื้อให้ด่ารัฐบาล ผู้ว่าแบงก์ชาติที่ไม่ออกนโยบายให้สอดคล้องกับนโยบายการเงินรัฐบาลเลย
คนอวยทหารบางกลุ่มก็อยากให้รัฐประหารเหลือเกิน
พอ GDP สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ (1.8 )
ได้ ครึ่งปีที่2.8 และภาพรวมน่าจะ 3
สื่อที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลก็เอาใหญ่
ทำกราฟฟิคบอกว่าGDPไทยต่ำสุดในอาเซียน
ด่ารัฐบาลกันสนุก แต่ไม่เคยคิดเลยว่า ทำไมจากยุค ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ มันตกมาถึงระดับนี้เพราะอะไร
เข้าสู่ประเด็นตามหัวข้อ
ผมสังเกตว่า 2-3 ที่ผมเฝ้ามองการนำเสนอข่าว
ของสื่อไทย ถ้าไม่ใช่เรื่องกีฬานะ
ไทยมีมุมมองต่อเวียดนามดีมาก ดีเกินไปแบบแปลกๆ
การอวยเวียดนาม ว่าการเมืองเข้มแข็ง
เพราะเขาไม่มีฝ่ายค้าน ก็เป้็นปกติของคนไทยที่ชอบส่งเสียงวิจารณ์รัฐบาลตัวเอง แต่ชื่นชม ระบอบการปกครองแบบ สิงคโปร์/เวียดนาม
(ทั้งที่เคยได้การปกครองแบบนั้นไปแล้ว 10ปี ในสมัยประยุทธ์ แต่พอได้รัฐบาลพลเรือนจากการเลือกตั้ง ก็บ่นอยากให้ทหารมาปกครองอีก เพราะนักการเมืองมันชั่ว)
การที่คนไทยชื่นชมว่า การเมืองเวียดนาม มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ไร้คอรัปชั่น ในขณะที่ เสรีภาพสื่อของเวียดนาม อยู่อันดับต่ำกว่าเขมร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะตอนที่อยู่ในรัฐบาลประยุทธ์ ข่าวจีนเทา จิอห์นนี่มือปราบ เขากระโดง ก็ไม่มีมาให้คนไทยรู้สึกว่าบ้านเมืองชิbหาย (พอมารัฐบาลนี้ อยู่ๆเราเสียดินแดนให้เขมรไปได้ไงตั้ง 11จุด)
แต่ที่ผมไม่เข้าใจ คือกระทั่งข่าว เวียดนามปลูกทุเรียนแข่งกับไทย
(เห็นไทยปลูกขายจีนได้ราคาดี เลยปลูกตาม) หรือ ตามที่จีนเข้มงวดเรื่องสารปนเปื้อน จนทุเรียนเวียดนามส่งขายจีนไม่ได้
มีทะลักเข้าทางไทย มาแอบเนียนปน
ผมสัง้เกตนะว่า ในคอมเม้นท์ คนไทยด่าเวียดนามน้อยมาก มีแต่ด่าคนไทยหรือคนจีนที่เอาเข้ามา
ผมนี่อะเมซซิ่งมาก เวียดนามในสายตาคนไทยดูดีมากเลยว่ะ
เอาจริงๆ ผมเองก็มองเวียดนามดีนะ
กระทั่งมี Entertainment complex ก็ได้แต่อนุโมทนา ยินดีไปกับเขาด้วยที่ไม่ต้องสู้กับฝ่ายค้านแบบเรา ไม่ต้องโดนฮุนเซนหาเรื่องล้มรัฐบาล
เพื่อขวางทาง (รัฐบาลเวียดนามเขย่ายากไม่เหมือนรัฐบาลไทยที่มีคนพร้อมร่วมลงแขก)
ผมก็ได้ไปรู้มาว่า ในขณะที่เศรษฐกิจไทยซบเซา จากการรัฐประหาร นักลงทุนไทย เจ้าสัวทั้งหลาย ก็้อาเงินไปลงทุนในเวียดนาม เพราะคงรำคาญความวุ่นวายทางการเมืองของไทย
โยกเงินไปลงทุนที่อื่นก่อน รอให้มันคลี่คลายก่อน
การที่เวียดนามเจริญเติบโตไป พวกเจ้าสัวไทยก็ได้อานิสงส์
คิดๆไปถึงวงล้อประวัติศาสตร์
สงครามเย็น เวียดนาม ยืนหยัดจะเป็น คอมมิวนิสต์ แบบรัสเซีย แท้ต้นตำรับจะล้มสลายเพราะพ่ายแพ้กับทุนนิยม
แต่ "จินตนาการใหม่" ของระบบเศรษฐกิจ "ทุนนิยมโดยรัฐ" อาจจะสมบูรณ์แบบที่สุดได้ที่เวียดนาม ที่มีขนาดเล็กกว่าจีน และใหญ่พอที่จะเป็นคอมมิวนิสต์ผสมทุนนิยม
ไทยที่ยืนหยัดจะเป็นประเทศ เสรีประชาธิปไตย
ต้านภัยคอมมิวนิสต์ ลุ่มๆดอนๆ กับเผด็จการทหาร ได้เสรีภาพสื่อที่ใช้เต็มอัตราเฉพาะในรัฐบาลพลเรือน เสรีภาพที่ว่าถูกเอามาทำลายเสถียรภาพของตัวเอง เหมือนอเมริกาถูกทำให้WOKE จนคนเลือกทรัมป์
จากสงครามเย็น มาสงครามการค้า
เวียดนาม คอมมิวนิสต์+ "จินตนาการใหม่"
กับ
ไทย เสรีประชาธิปไตย
ที่รัฐบาลถูกเครือข่ายเผด็จการทำให้อ่อนแอ
จนออกนโยบายอะไรไม่ได้
อุดมการณ์ไหนจะชนะ
คำตอบอาจจะอยู่ไม่ไกลจากตอนนี้