"ณัฐพงษ์" ลงชายแดนกัมพูชารับทราบปัญหาเยียวยา เตรียมตั้งกระทู้ถามสดถามนายกฯ
.

.
"เท้ง ณัฐพงษ์" ลงพื้นที่กันทรลักษ์ พบชาวบ้านไม่รู้ช่องทางเยียวยา เตรียมตั้งกระทู้ถามสดถามนายกฯ
.
วันที่ 18 สิงหาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร ได้นำ สส. ลงพื้นที่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรับฟังปัญหาจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมบอกว่า จากการลงพื้นที่พบปัญหาเรื่องมาตรการเยียวยาของรัฐบาลชาวบ้านยังเข้าไม่ถึงและไม่ทราบช่องทางในการรับเงินช่วยเหลือ โดยเฉพาะเงินเยียวยาจาก พมจ. 3,000 บาท ที่จำกัดเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และยังมีขั้นตอนยุ่งยากต้องเสียค่าถ่ายเอกสารเพื่อพิสูจน์ความเดือดร้อนทั้งที่ทุกคนได้รับผลกระทบ ซึ่งตนจะนำปัญหาทั้งหมดที่ได้รับฟังไปตั้งกระทู้ถามสดต่อนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ เพื่อเร่งรัดให้เกิดการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนโดยเร็ว
.
ด้านนายวิโรจน์ตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่า เหตุใดจึงยังไม่มีการอนุมัติเงินช่วยเหลือแบบเหมาจ่ายรายครัวเรือน ทั้งที่ภัยสงครามก็ถือเป็นภัยพิบัติเช่นกัน
.
.
ส.ส.ปชน. ซัด ส.ว.เดชา เลอะเทอะ ปมค้านกม.คุกคามทางเพศอ้างเป็นธรรมชาติ ชี้กำลังปกป้องสิทธิผู้คุกคาม
https://www.matichon.co.th/politics/news_5329457
.
ส.ส.ปชน. ซัด ส.ว.เดชา เลอะเทอะ ปมค้านกม.คุกคามทางเพศอ้างเป็นธรรมชาติ ชี้กำลังปกป้องสิทธิผู้คุกคาม
.
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม น.ส.
ภัสริน รามวงศ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี นายเดชา นุตาลัย ส.ว. อภิปรายแสดงความไม่เห็นด้วยต่อร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดฐานคุกคามทางเพศ ว่าได้รับฟังการอภิปรายกฎหมายคุกคามทางเพศในชั้น ส.ว. มี ส.ว.ท่านหนึ่งอภิปรายคัดค้านกฎหมายโดยอ้างว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ หวั่นตีความเกินจริงนั้น ตนคิดว่าข้ออ้างของ ส.ว. ท่านนี้มีปัญหาอย่างมาก โดยขอแยกแยะเป็น 3 ประเด็น
.
1. กฎหมายพูดถึง ผู้เสียหาย เป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องสมมติว่ามีใครร้องเพลงจีบหรือแอบมองแล้วติดคุกทันทีอย่างที่ ส.ว. ท่านนี้เอามามั่วนิ่ม กฎหมายกำหนดชัดว่าต้องมีลักษณะการกระทำที่ส่อไปทางเพศ และทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ อับอาย หวาดกลัว หรือไม่ปลอดภัย ถึงจะเข้าข่ายความผิด
.
2. การเปรียบเทียบกับเนื้อเพลงหรือบทกวีเป็นการบิดเบือน เพลงที่ไม่ได้เจาะจงใครย่อมไม่ใช่การคุกคามในแบบที่กฎหมายสื่อ เพราะไม่มี “ผู้เสียหายที่ชัดเจน” ในขณะที่กฎหมายนี้เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับการคุกคามที่มีผู้ถูกกระทำ มีผู้เสียหายจริง เช่น การตามรังควาน ตามตื๊อ การส่งข้อความส่อไปทางเพศ การเฝ้ามองจนทำให้คนรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งในบริบทไทยแม้วัฒนธรรมบางอย่างอาจมองพฤติกรรม “ตื๊อ” หรือ “ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก” เป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริงอาจเป็นการคุกคามที่ฝังรากและถูกทำให้ชอบธรรมโดยไม่รู้ตัว
.
3. การอ้างว่า “ผู้หญิงถูกมองแล้วก็ตื่นเต้นใจเต้นแรง” เป็นการเหมารวมและเหยียดเพศ เพราะในความจริง ผู้หญิง ผู้ชาย หรือจะใครคนไหน จำนวนมากรู้สึกหวาดกลัวและไม่ปลอดภัย ไม่ใช่เขินอายอย่างที่ ส.ว.ท่านนี้โรแมนติไซส์ให้ดูน่ารัก
.
น.ส.
ภัสรินกล่าวว่า ทั้งหมดนี้สะท้อนทัศนคติที่ไม่เคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้อื่น การคัดค้านกฎหมายด้วยเหตุผลเลอะเทอะแบบนี้ ไม่ได้ปกป้องความเป็นธรรมชาติของมนุษย์อย่างที่อ้าง แต่คือการปกป้องสิทธิของผู้คุกคามให้ยังทำร้ายคนอื่นได้โดยไม่ถูกเอาผิดต่างหาก เราควรหยุดมองการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องธรรมดา เลิกมองว่าการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติเหมือนหมาหยอกไก่ และเริ่มสร้างสังคมที่สิทธิในการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยสำคัญกว่ามุกตลกหรือเพลงเก่าได้แล้ว
.
.
ไทยสร้างไทย ชี้ฟ้อง ‘ฮุนเซน’ในประเทศแค่ปาหี่ จี้ ‘ภูมิธรรม’ แจงความคืบหน้าฟ้อง ICC
https://www.dailynews.co.th/news/5031439/
.
ไทยสร้างไทย ชี้ฟ้อง "ฮุน เซน" ในประเทศเป็นเพียงปาหี่ จี้ "ภูมิธรรม" แจงความคืบหน้าฟ้อง ICC-ระดับนานาชาติ ไปถึงไหนแล้ว มองช้าเพราะกัมพูชาถือความลับผลประโยชน์ตระกูลชินวัตรไว้หรือไม่
.
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่พรรคไทยสร้างไทย นาย
ภัชริ นิจสิริภัช กรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทย แสดงความเห็นต่อท่าทีรัฐบาลที่เดินหน้าฟ้องร้องสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช
ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ต่อศาลไทย ว่า เป็นเพียงปาหี่ทางการเมืองที่สร้างภาพให้ประชาชนเห็นว่ามีการดำเนินการ แต่ในทางปฏิบัติไม่มีความเป็นไปได้
.
“
การจะให้ ฮุน เซน เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไทยจับกุมตัวตามหมายศาลนั้น ไม่มีใครเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง รัฐบาลจึงควรตอบคำถามสังคมตรงไปตรงมา ว่าการฟ้องร้องในประเทศนี้เป็นเพียงการซื้อเวลา หรือพยายามเบี่ยงประเด็นหรือไม่” นาย
ภัชริ กล่าว
.
นาย
ภัชริ กล่าวอีกว่า ตนขอตั้งคำถามต่อรัฐบาลว่า กระบวนการเดินหน้าฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) หรือกลไกในระดับนานาชาติที่มีอำนาจและได้รับการยอมรับมากกว่าถึงไหนแล้ว ที่ผ่านมาเคยมีการพูดถึงการใช้กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ แต่จนถึงวันนี้กลับยังไม่เห็นความคืบหน้า ดังนั้นรัฐบาลต้องออกมาชี้แจงให้ชัดว่าการฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือกลไกสากลไปถึงไหนแล้ว
.
นาย
ภัชริ กล่าวอีกว่า ตนยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า การที่รัฐบาลเลือกใช้วิธีฟ้องร้องภายในประเทศ อาจสะท้อนถึงการไม่กล้าชนกับ
ฮุน เซนจริงๆ ท้ายที่สุดแล้วคำถามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ รัฐบาลเกรงใจสมเด็จฮุน เซน เพราะยังถือความลับและผลประโยชน์บางอย่างที่เกี่ยวโยงกับตระกูลชินวัตร ไว้อีกหรือไม่ เรื่องนี้ประชาชนมีสิทธิที่จะรับรู้
JJNY : "ณัฐพงษ์"รับทราบปัญหาเยียวยา│ปชน.ซัดส.ว.เดชาเลอะเทอะ│ชี้ฟ้อง‘ฮุนเซน’ในปท.แค่ปาหี่│เตือน 10 จว.กลาง-กทม.เสี่ยงท่วม
.
.
ส.ส.ปชน. ซัด ส.ว.เดชา เลอะเทอะ ปมค้านกม.คุกคามทางเพศอ้างเป็นธรรมชาติ ชี้กำลังปกป้องสิทธิผู้คุกคาม
https://www.matichon.co.th/politics/news_5329457
.
ส.ส.ปชน. ซัด ส.ว.เดชา เลอะเทอะ ปมค้านกม.คุกคามทางเพศอ้างเป็นธรรมชาติ ชี้กำลังปกป้องสิทธิผู้คุกคาม
.
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม น.ส.ภัสริน รามวงศ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี นายเดชา นุตาลัย ส.ว. อภิปรายแสดงความไม่เห็นด้วยต่อร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดฐานคุกคามทางเพศ ว่าได้รับฟังการอภิปรายกฎหมายคุกคามทางเพศในชั้น ส.ว. มี ส.ว.ท่านหนึ่งอภิปรายคัดค้านกฎหมายโดยอ้างว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ หวั่นตีความเกินจริงนั้น ตนคิดว่าข้ออ้างของ ส.ว. ท่านนี้มีปัญหาอย่างมาก โดยขอแยกแยะเป็น 3 ประเด็น
.
1. กฎหมายพูดถึง ผู้เสียหาย เป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องสมมติว่ามีใครร้องเพลงจีบหรือแอบมองแล้วติดคุกทันทีอย่างที่ ส.ว. ท่านนี้เอามามั่วนิ่ม กฎหมายกำหนดชัดว่าต้องมีลักษณะการกระทำที่ส่อไปทางเพศ และทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ อับอาย หวาดกลัว หรือไม่ปลอดภัย ถึงจะเข้าข่ายความผิด
.
2. การเปรียบเทียบกับเนื้อเพลงหรือบทกวีเป็นการบิดเบือน เพลงที่ไม่ได้เจาะจงใครย่อมไม่ใช่การคุกคามในแบบที่กฎหมายสื่อ เพราะไม่มี “ผู้เสียหายที่ชัดเจน” ในขณะที่กฎหมายนี้เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับการคุกคามที่มีผู้ถูกกระทำ มีผู้เสียหายจริง เช่น การตามรังควาน ตามตื๊อ การส่งข้อความส่อไปทางเพศ การเฝ้ามองจนทำให้คนรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งในบริบทไทยแม้วัฒนธรรมบางอย่างอาจมองพฤติกรรม “ตื๊อ” หรือ “ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก” เป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริงอาจเป็นการคุกคามที่ฝังรากและถูกทำให้ชอบธรรมโดยไม่รู้ตัว
.
3. การอ้างว่า “ผู้หญิงถูกมองแล้วก็ตื่นเต้นใจเต้นแรง” เป็นการเหมารวมและเหยียดเพศ เพราะในความจริง ผู้หญิง ผู้ชาย หรือจะใครคนไหน จำนวนมากรู้สึกหวาดกลัวและไม่ปลอดภัย ไม่ใช่เขินอายอย่างที่ ส.ว.ท่านนี้โรแมนติไซส์ให้ดูน่ารัก
.
น.ส.ภัสรินกล่าวว่า ทั้งหมดนี้สะท้อนทัศนคติที่ไม่เคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้อื่น การคัดค้านกฎหมายด้วยเหตุผลเลอะเทอะแบบนี้ ไม่ได้ปกป้องความเป็นธรรมชาติของมนุษย์อย่างที่อ้าง แต่คือการปกป้องสิทธิของผู้คุกคามให้ยังทำร้ายคนอื่นได้โดยไม่ถูกเอาผิดต่างหาก เราควรหยุดมองการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องธรรมดา เลิกมองว่าการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติเหมือนหมาหยอกไก่ และเริ่มสร้างสังคมที่สิทธิในการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยสำคัญกว่ามุกตลกหรือเพลงเก่าได้แล้ว
.
.
ไทยสร้างไทย ชี้ฟ้อง ‘ฮุนเซน’ในประเทศแค่ปาหี่ จี้ ‘ภูมิธรรม’ แจงความคืบหน้าฟ้อง ICC
https://www.dailynews.co.th/news/5031439/
.
ไทยสร้างไทย ชี้ฟ้อง "ฮุน เซน" ในประเทศเป็นเพียงปาหี่ จี้ "ภูมิธรรม" แจงความคืบหน้าฟ้อง ICC-ระดับนานาชาติ ไปถึงไหนแล้ว มองช้าเพราะกัมพูชาถือความลับผลประโยชน์ตระกูลชินวัตรไว้หรือไม่
.
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่พรรคไทยสร้างไทย นายภัชริ นิจสิริภัช กรรมการบริหารพรรคไทยสร้างไทย แสดงความเห็นต่อท่าทีรัฐบาลที่เดินหน้าฟ้องร้องสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ต่อศาลไทย ว่า เป็นเพียงปาหี่ทางการเมืองที่สร้างภาพให้ประชาชนเห็นว่ามีการดำเนินการ แต่ในทางปฏิบัติไม่มีความเป็นไปได้
.
“การจะให้ ฮุน เซน เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไทยจับกุมตัวตามหมายศาลนั้น ไม่มีใครเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง รัฐบาลจึงควรตอบคำถามสังคมตรงไปตรงมา ว่าการฟ้องร้องในประเทศนี้เป็นเพียงการซื้อเวลา หรือพยายามเบี่ยงประเด็นหรือไม่” นายภัชริ กล่าว
.
นายภัชริ กล่าวอีกว่า ตนขอตั้งคำถามต่อรัฐบาลว่า กระบวนการเดินหน้าฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) หรือกลไกในระดับนานาชาติที่มีอำนาจและได้รับการยอมรับมากกว่าถึงไหนแล้ว ที่ผ่านมาเคยมีการพูดถึงการใช้กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ แต่จนถึงวันนี้กลับยังไม่เห็นความคืบหน้า ดังนั้นรัฐบาลต้องออกมาชี้แจงให้ชัดว่าการฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือกลไกสากลไปถึงไหนแล้ว
.
นายภัชริ กล่าวอีกว่า ตนยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า การที่รัฐบาลเลือกใช้วิธีฟ้องร้องภายในประเทศ อาจสะท้อนถึงการไม่กล้าชนกับ ฮุน เซนจริงๆ ท้ายที่สุดแล้วคำถามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ รัฐบาลเกรงใจสมเด็จฮุน เซน เพราะยังถือความลับและผลประโยชน์บางอย่างที่เกี่ยวโยงกับตระกูลชินวัตร ไว้อีกหรือไม่ เรื่องนี้ประชาชนมีสิทธิที่จะรับรู้