เราอยากจะมาขอความช่วยเหลือ หรือความคิดเห็นสำหรับปัญหาที่เรากำลังเจออยู่ตอนนี้
ว่าพอจะมีใครเคยเจอแบบเราแล้วมีวิธีแก้ไขยังไง หรือผู้รู้ในเรื่องที่เราเจออยู่ตอนนี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจแก้ไขปัญหา
...เราได้ทำการขอสินเชื่อ เพื่อซื้ออาคารพาณิชย์ (ไม่ใช่ตึกใหม่) กับธนาคารนึง
โดยในการพูดคุยเรื่องรายละเอียดเพื่อขอสินเชื่อ ก็ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการทำประกันสินเชื่อว่าเราจะทำด้วยมั้ย
ซึ่งเรามองว่า เออ เท่าที่เจ้าหน้าที่สินเชื่ออธิบาย มันก็ดูโอเคเลยในเรื่องถ้าเราเป็นอะไรไปมันจะได้ไม่เป็นภาระของคนข้างหลัง
และมันก็ได้ดอกเบี้ยถูกกว่าการขอสินเชื่อที่ไม่ได้ทำประกันเอาไว้
โดยเจ้าหน้าที่สินเชื่อเค้าก็บอก ว่า จะทำประกันสินเชื่อกับธนาคารเค้าพ่วงไปเลยก็ได้ หรือว่าเราจะไปทำประกันสินเชื่อแยกข้างนอกก็ได้
ด้วยที่เรารู้สึกประทับใจการพูดคุยของเจ้าหน้าที่คนนี้ เราเลยเลือกที่จะทำประกันกับธนาคารของเค้า (ตอนไปคุยรายละเอียดเรากับสามีไปคุยต่อหน้ากับเจ้าหน้าที่เลยนะ ไม่ใช่คุยโทรศัพท์ ซึ่งก็ไปๆ มาๆ หลายรอบก่อนจะทำเรื่องขอสินเชื่อ)
พอทำเรื่องขอสินเชื่อ เจ้าหน้าที่คนนี้คือแบบคอยโทรติดตามผล ไลน์มาถาม รวดเร็วทันใจ
โทรไปรับตลอด ถ้าไม่ได้รับก็จะโทรกลับ ขนาดตอนทุ่มนึงยังโทรมาเลย
ผ่านไปประมาณ 1 เดือน ....ผลสินเชื่อผ่านแล้ว
เจ้าของตึกเค้าก็รีบขายอ่ะ (ซึ่งเท่าที่เราดู คิดว่าเค้าน่าจะรู้จักกับแผนกนี้เป็นการส่วนตัวเพราะรู้ความคืบหน้าของเรื่องสินเชื่อเรา)
หลังธนาคารอนุมัติได้ 1-2 วันก็นัดไปทำเรื่องจดจำนองที่ดิน
.....ความ ฉิU รอบแรกก็มา
ด้วยที่เรากับแฟนก็นั่งหาข้อมูลเรื่องจดจำนองที่ดินมาด้วยประมาณนึง ก็เพิ่งหวังใจว่าจะได้มาตราลดหย่อนที่รัฐบาลออกมา
ก็คุยเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่เราทำกับเค้าก็ปรึกษาเรื่องนี้ด้วยเหมือนกันว่ารัฐบอกว่าราคาต้องไม่เกิน 7 ล.
มันก็จะได้ลดหย่อนจากเป็นแสนกว่า-สองแสน มันก็จะได้อยู่หลักหมื่น
พอมาถึงหน้างานที่สำนักงานที่ดิน คิดโน้น นี่ นั่น เท่ากับว่าได้คิดเรทปกติ ก็คือ แสนห้า ไม่ได้ลดวรนุชอะไรเลย
เพราะ....มันคือการเอายอดราคาตึก + กับประกันสินเชื่อ ซึ่งยอดรวมมันเกิน 7 ล. ไม่มีเจ้าหน้าที่สินเชื่อคนไหนที่บอกเราข้อนี้เลย
ไม่มีใครรู้อะไรเลย (แล้วเม่งทำเรื่องซื้อบ้าน ซื้อตึกกันมากี่หลังแล้ววะ แล้วคนที่ไปทำเรื่องกับเราก็ไม่ใช่คนที่เราทำสินเชื่อด้วย เราเห็นเค้าสามารถลากเก้าอี้เข้าไปนั่งเมาท์มอยส์กับเจ้าหน้าที่ที่ดินด้านในได้แบบมองจากดาวอังคารยังรู้ว่าสนิทกัน แต่เม่งไม่รู้เรื่องนี้ สัd )
โอเค....ด่า เม่งในใจ จนใจเริ่มนิ่ง โอนเม่งให้จบๆ มาถึงนี่แล้วมันถอยไม่ได้แล้ว
โอนไปค่ะ แสนห้า
เดือนที่ 1 ของการจ่ายสินเชื่อบ้าน และจ่ายค่าประกันสินเชื่อไป 2 บัญชี เพราะมันเป็นบัญชีแยกกัน
บัญชีสินเชื่อบ้านก็วงเงินนึง บัญชีประกันสินเชื่อก็อีกวงเงินนึง
หลังจากจ่ายค่างวดไปแค่ไม่กี่วัน มีสายเบอร์แปลกโทรมา บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายประกันสินเชื่อจากจังหวัดใกล้เคียงกับที่เราอยู่ที่ดูแลเรื่องประกันสินเชื่อของเรา โทรมาเพื่อมาแจ้งว่าขอยกเลิกประกันสินเชื่อที่เราทำไว้ อันเนื่องมาจากเรามีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน ที่เหลือคือไม่อธิบายอะไรเลย ให้เราไปคุยกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อเอง เราโมโหมากกกกกก
พอติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่สินเชื่อที่เราทำด้วย ครั้งสุดท้ายที่คุย คือ 24/7/68 โดยบอกเหตุผลกับเรามาว่า ผมเองก็ไม่เคยเจอกรณียกเลิกแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน ผมเองก็ไม่รู้ ตอนนี้ผมก็เครียด เดี๋ยวผมขอเวลาคุยกับเจ้าหน้าที่ประกันสินเชื่อก่อน ภายในวันที่ 25/7/68 ผมจะแจ้งคำตอบไปอีกที
จนวันนี้ เม่ง โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ให้โทรกลับ เม่ง ยังไม่อ่าน ไลน์ไปให้โทรกลับก็ไม่โทร
สิ่งที่ วรนุช มาก คือ กูไม่ได้เพิ่งมาอ้วน กูอ้วนของกูแบบนี้มานานแล้ว พวกก็เห็น
สอง ... ประกันสินเชื่อทำอะไรอยู่ ตอนกูทำเรื่องขออนุมัติสินเชื่อ ไม่ตรวจสอบข้อมูลของผู้ขอสินเชื่อผู้ขอประกันเลยหรอ ไม่บอกกูตั้งแต่แรก เม่งบอกว่าสินเชื่อกูผ่าน แล้วฝ่ายประกันไม่ตรวจสอบว่ะ ถ้าไม่ตรวจสอบแล้วมันจะมีบัญชีให้กูจ่ายงวดได้ไง แล้วมาบอกยกเลิกโดยเหมือนแค่แจ้งให้ทราบว่ายกเลิก ไม่ได้มีความให้การช่วยเหลือ หรือแก้ไขอะไร โอเคกูอ้วนเกินมาตรฐานกลัวกูตายหลังจ่ายงวดไม่กี่งวดใช่มั้ย ให้กูไปตรวจสุขภาพแบบละเอียดว่ากูแข็งแรงดีไม่ได้ใกล้ตายแล้วเอาผลไปให้ก็ได้ หรือให้เวลากูสักครึ่งปีให้ลดน้ำหนักมั้ยกูทำให้ คือ แบบ สัd!!!!!!
มีใครพอจะแนะนำได้บ้างว่าเรายังสามารถทำอะไรเพื่อแก้ไขไม่ให้ต้องยกเลิกประกันสินเชื่อ
หรือถ้าไม่งั้น มีใครพอจะแนะนำวิธีการหรือหนทางการดำเนินเรื่องฟ้อง สคบ. ยังไงได้บ้าง
จริงๆ ก็อยากจะบอกตัวเองว่าเสียค่าโง่ แต่ เม่ง ก็แพงเกินยอมรับได้นะ
โดนธนาคารบอกยกเลิกประกันสินเชื่อ หลังจากอนุมัติสินเชื่อและจ่ายเงินการทำเรื่องจดจำนองที่ดินแล้ว
ว่าพอจะมีใครเคยเจอแบบเราแล้วมีวิธีแก้ไขยังไง หรือผู้รู้ในเรื่องที่เราเจออยู่ตอนนี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจแก้ไขปัญหา
...เราได้ทำการขอสินเชื่อ เพื่อซื้ออาคารพาณิชย์ (ไม่ใช่ตึกใหม่) กับธนาคารนึง
โดยในการพูดคุยเรื่องรายละเอียดเพื่อขอสินเชื่อ ก็ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการทำประกันสินเชื่อว่าเราจะทำด้วยมั้ย
ซึ่งเรามองว่า เออ เท่าที่เจ้าหน้าที่สินเชื่ออธิบาย มันก็ดูโอเคเลยในเรื่องถ้าเราเป็นอะไรไปมันจะได้ไม่เป็นภาระของคนข้างหลัง
และมันก็ได้ดอกเบี้ยถูกกว่าการขอสินเชื่อที่ไม่ได้ทำประกันเอาไว้
โดยเจ้าหน้าที่สินเชื่อเค้าก็บอก ว่า จะทำประกันสินเชื่อกับธนาคารเค้าพ่วงไปเลยก็ได้ หรือว่าเราจะไปทำประกันสินเชื่อแยกข้างนอกก็ได้
ด้วยที่เรารู้สึกประทับใจการพูดคุยของเจ้าหน้าที่คนนี้ เราเลยเลือกที่จะทำประกันกับธนาคารของเค้า (ตอนไปคุยรายละเอียดเรากับสามีไปคุยต่อหน้ากับเจ้าหน้าที่เลยนะ ไม่ใช่คุยโทรศัพท์ ซึ่งก็ไปๆ มาๆ หลายรอบก่อนจะทำเรื่องขอสินเชื่อ)
พอทำเรื่องขอสินเชื่อ เจ้าหน้าที่คนนี้คือแบบคอยโทรติดตามผล ไลน์มาถาม รวดเร็วทันใจ
โทรไปรับตลอด ถ้าไม่ได้รับก็จะโทรกลับ ขนาดตอนทุ่มนึงยังโทรมาเลย
ผ่านไปประมาณ 1 เดือน ....ผลสินเชื่อผ่านแล้ว
เจ้าของตึกเค้าก็รีบขายอ่ะ (ซึ่งเท่าที่เราดู คิดว่าเค้าน่าจะรู้จักกับแผนกนี้เป็นการส่วนตัวเพราะรู้ความคืบหน้าของเรื่องสินเชื่อเรา)
หลังธนาคารอนุมัติได้ 1-2 วันก็นัดไปทำเรื่องจดจำนองที่ดิน
.....ความ ฉิU รอบแรกก็มา
ด้วยที่เรากับแฟนก็นั่งหาข้อมูลเรื่องจดจำนองที่ดินมาด้วยประมาณนึง ก็เพิ่งหวังใจว่าจะได้มาตราลดหย่อนที่รัฐบาลออกมา
ก็คุยเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่เราทำกับเค้าก็ปรึกษาเรื่องนี้ด้วยเหมือนกันว่ารัฐบอกว่าราคาต้องไม่เกิน 7 ล.
มันก็จะได้ลดหย่อนจากเป็นแสนกว่า-สองแสน มันก็จะได้อยู่หลักหมื่น
พอมาถึงหน้างานที่สำนักงานที่ดิน คิดโน้น นี่ นั่น เท่ากับว่าได้คิดเรทปกติ ก็คือ แสนห้า ไม่ได้ลดวรนุชอะไรเลย
เพราะ....มันคือการเอายอดราคาตึก + กับประกันสินเชื่อ ซึ่งยอดรวมมันเกิน 7 ล. ไม่มีเจ้าหน้าที่สินเชื่อคนไหนที่บอกเราข้อนี้เลย
ไม่มีใครรู้อะไรเลย (แล้วเม่งทำเรื่องซื้อบ้าน ซื้อตึกกันมากี่หลังแล้ววะ แล้วคนที่ไปทำเรื่องกับเราก็ไม่ใช่คนที่เราทำสินเชื่อด้วย เราเห็นเค้าสามารถลากเก้าอี้เข้าไปนั่งเมาท์มอยส์กับเจ้าหน้าที่ที่ดินด้านในได้แบบมองจากดาวอังคารยังรู้ว่าสนิทกัน แต่เม่งไม่รู้เรื่องนี้ สัd )
โอเค....ด่า เม่งในใจ จนใจเริ่มนิ่ง โอนเม่งให้จบๆ มาถึงนี่แล้วมันถอยไม่ได้แล้ว
โอนไปค่ะ แสนห้า
เดือนที่ 1 ของการจ่ายสินเชื่อบ้าน และจ่ายค่าประกันสินเชื่อไป 2 บัญชี เพราะมันเป็นบัญชีแยกกัน
บัญชีสินเชื่อบ้านก็วงเงินนึง บัญชีประกันสินเชื่อก็อีกวงเงินนึง
หลังจากจ่ายค่างวดไปแค่ไม่กี่วัน มีสายเบอร์แปลกโทรมา บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายประกันสินเชื่อจากจังหวัดใกล้เคียงกับที่เราอยู่ที่ดูแลเรื่องประกันสินเชื่อของเรา โทรมาเพื่อมาแจ้งว่าขอยกเลิกประกันสินเชื่อที่เราทำไว้ อันเนื่องมาจากเรามีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน ที่เหลือคือไม่อธิบายอะไรเลย ให้เราไปคุยกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อเอง เราโมโหมากกกกกก
พอติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่สินเชื่อที่เราทำด้วย ครั้งสุดท้ายที่คุย คือ 24/7/68 โดยบอกเหตุผลกับเรามาว่า ผมเองก็ไม่เคยเจอกรณียกเลิกแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน ผมเองก็ไม่รู้ ตอนนี้ผมก็เครียด เดี๋ยวผมขอเวลาคุยกับเจ้าหน้าที่ประกันสินเชื่อก่อน ภายในวันที่ 25/7/68 ผมจะแจ้งคำตอบไปอีกที
จนวันนี้ เม่ง โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ให้โทรกลับ เม่ง ยังไม่อ่าน ไลน์ไปให้โทรกลับก็ไม่โทร
สิ่งที่ วรนุช มาก คือ กูไม่ได้เพิ่งมาอ้วน กูอ้วนของกูแบบนี้มานานแล้ว พวกก็เห็น
สอง ... ประกันสินเชื่อทำอะไรอยู่ ตอนกูทำเรื่องขออนุมัติสินเชื่อ ไม่ตรวจสอบข้อมูลของผู้ขอสินเชื่อผู้ขอประกันเลยหรอ ไม่บอกกูตั้งแต่แรก เม่งบอกว่าสินเชื่อกูผ่าน แล้วฝ่ายประกันไม่ตรวจสอบว่ะ ถ้าไม่ตรวจสอบแล้วมันจะมีบัญชีให้กูจ่ายงวดได้ไง แล้วมาบอกยกเลิกโดยเหมือนแค่แจ้งให้ทราบว่ายกเลิก ไม่ได้มีความให้การช่วยเหลือ หรือแก้ไขอะไร โอเคกูอ้วนเกินมาตรฐานกลัวกูตายหลังจ่ายงวดไม่กี่งวดใช่มั้ย ให้กูไปตรวจสุขภาพแบบละเอียดว่ากูแข็งแรงดีไม่ได้ใกล้ตายแล้วเอาผลไปให้ก็ได้ หรือให้เวลากูสักครึ่งปีให้ลดน้ำหนักมั้ยกูทำให้ คือ แบบ สัd!!!!!!
มีใครพอจะแนะนำได้บ้างว่าเรายังสามารถทำอะไรเพื่อแก้ไขไม่ให้ต้องยกเลิกประกันสินเชื่อ
หรือถ้าไม่งั้น มีใครพอจะแนะนำวิธีการหรือหนทางการดำเนินเรื่องฟ้อง สคบ. ยังไงได้บ้าง
จริงๆ ก็อยากจะบอกตัวเองว่าเสียค่าโง่ แต่ เม่ง ก็แพงเกินยอมรับได้นะ