ส่วนตัวคือตอนนี้ต้องรับหน้าที่ดูแลพ่อ
ซึ่งรออีก 2 เดือน จะเริ่มฟอกไตอย่างจริงจัง
ค่อนข้างเครียดเหมือนกันนะคะ เพราะว่าพี่น้องก็มีภาระต้องดูแลครอบครัวเขา ที่อยู่ต่างจังหวัด เราเป็นคนเดียวที่ทำงานที่กรุงเทพฯ (มีบ้างที่น้องมาพาพ่อไปหาหมอสลับกัน แต่พี่สาวคือน้อยครั้งมากที่จะมา ส่วนใหญ่จะจ่ายเรา 300 บาท ในการพาพ่อไป นะ บางทีเราไม่ได้อยากรับเงินหรอกนะ เราอยากให้พี่มาสลับกับเราบ้าง)
ส่วนเราเป็นคนเดียวที่ไม่ได้แต่งงานแยกครอบครัวออกไป
เราจึงต้องเป็นตัวยืนในการพาพ่อไปฟอกไต
แต่สิ่งที่เครียดก็คือ ก่อนหน้านี้ลางานจนวันละเริ่มหมด อนาคตถ้าพ่อเริ่มฟอกก็คือไม่รู้จะทำยังไงให้หัวหน้าไม่ว่าดี...เหนื่อยค่ะ
บางทีเหนื่อยนะ หาหมอประกันสังคม หมอก็รอนานนิดนึง เพราะเราก็ไม่ได้เป็นคนมีรายได้เยอะขนาดจะให้พ่อไปหาโรงพยาบาลเอกชนได้
แล้วสิทธิ์ประกันสังคมก็ไม่สามารถเบิกค่าฟอกไตได้เต็มจำนวน เหมือนต้องจ่ายส่วนต่าง
ตอนนี้เครียดทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายต่ออาทิตย์เพราะ 1 อาทิตย์จะต้องฟอกไตประมาณ 3 ครั้ง
ส่วนเกินประมาณ 450 บาทต่อครั้ง ตกเดือนๆนึงก็คูณไป
จริงๆลองไปหาข้อมูลจากเพื่อนที่ทำงาน เขาบอกว่าให้เราเอาพ่อออกจากสิทธิ์ประกันสังคม
แล้วไปทำบัตร 30 บาทแทน เราจะได้ไม่ต้องเสียค่าส่วนต่างที่เกิดขึ้น
แต่ว่าพ่อก็ไม่ยอม เพราะเขายังมีการ follow up โรคอื่นๆ ที่เป็นโรคเรื้อรังของพ่อด้วย
เราก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
ก็ได้แต่ดันทุรังพยุงรักษากันไป
ส่วนตอนนี้เราแทบจะไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองเลย
ลำพังแค่พาพ่อไปหาหมอ กลับมาบ้านก็หมอพลัง ในการหารายได้เพิ่มแล้ว เพราะบางทีหมอประกันสังคมลงตอนหกโมงครึ่ง กว่าจะหาเสร็จกลับบ้านก็เกือบสามทุ่ม
ไม่ได้โกรธที่จะต้องดูแลพ่อนะคะ
แต่ไม่ชอบตัวเองมากกว่า...ว่าทำไมเราถึงไม่เก่งพอที่จะดูแลเขาให้มันสุขสบายไปกว่านี้
เพราะเรารู้สึกว่าพ่อดูแลเรามาอย่างดีตั้งแต่เล็ก
ในฐานะลูกคนนึงอยากจะตอบแทนท่านให้มันดีกว่านี้จริงๆ
มีอะไรอยากบอกคนที่ต้อง ดูแลพ่อแม่ป่วยบ้างคะ?
ซึ่งรออีก 2 เดือน จะเริ่มฟอกไตอย่างจริงจัง
ค่อนข้างเครียดเหมือนกันนะคะ เพราะว่าพี่น้องก็มีภาระต้องดูแลครอบครัวเขา ที่อยู่ต่างจังหวัด เราเป็นคนเดียวที่ทำงานที่กรุงเทพฯ (มีบ้างที่น้องมาพาพ่อไปหาหมอสลับกัน แต่พี่สาวคือน้อยครั้งมากที่จะมา ส่วนใหญ่จะจ่ายเรา 300 บาท ในการพาพ่อไป นะ บางทีเราไม่ได้อยากรับเงินหรอกนะ เราอยากให้พี่มาสลับกับเราบ้าง)
ส่วนเราเป็นคนเดียวที่ไม่ได้แต่งงานแยกครอบครัวออกไป
เราจึงต้องเป็นตัวยืนในการพาพ่อไปฟอกไต
แต่สิ่งที่เครียดก็คือ ก่อนหน้านี้ลางานจนวันละเริ่มหมด อนาคตถ้าพ่อเริ่มฟอกก็คือไม่รู้จะทำยังไงให้หัวหน้าไม่ว่าดี...เหนื่อยค่ะ
บางทีเหนื่อยนะ หาหมอประกันสังคม หมอก็รอนานนิดนึง เพราะเราก็ไม่ได้เป็นคนมีรายได้เยอะขนาดจะให้พ่อไปหาโรงพยาบาลเอกชนได้
แล้วสิทธิ์ประกันสังคมก็ไม่สามารถเบิกค่าฟอกไตได้เต็มจำนวน เหมือนต้องจ่ายส่วนต่าง
ตอนนี้เครียดทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายต่ออาทิตย์เพราะ 1 อาทิตย์จะต้องฟอกไตประมาณ 3 ครั้ง
ส่วนเกินประมาณ 450 บาทต่อครั้ง ตกเดือนๆนึงก็คูณไป
จริงๆลองไปหาข้อมูลจากเพื่อนที่ทำงาน เขาบอกว่าให้เราเอาพ่อออกจากสิทธิ์ประกันสังคม
แล้วไปทำบัตร 30 บาทแทน เราจะได้ไม่ต้องเสียค่าส่วนต่างที่เกิดขึ้น
แต่ว่าพ่อก็ไม่ยอม เพราะเขายังมีการ follow up โรคอื่นๆ ที่เป็นโรคเรื้อรังของพ่อด้วย
เราก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
ก็ได้แต่ดันทุรังพยุงรักษากันไป
ส่วนตอนนี้เราแทบจะไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองเลย
ลำพังแค่พาพ่อไปหาหมอ กลับมาบ้านก็หมอพลัง ในการหารายได้เพิ่มแล้ว เพราะบางทีหมอประกันสังคมลงตอนหกโมงครึ่ง กว่าจะหาเสร็จกลับบ้านก็เกือบสามทุ่ม
ไม่ได้โกรธที่จะต้องดูแลพ่อนะคะ
แต่ไม่ชอบตัวเองมากกว่า...ว่าทำไมเราถึงไม่เก่งพอที่จะดูแลเขาให้มันสุขสบายไปกว่านี้
เพราะเรารู้สึกว่าพ่อดูแลเรามาอย่างดีตั้งแต่เล็ก
ในฐานะลูกคนนึงอยากจะตอบแทนท่านให้มันดีกว่านี้จริงๆ