สวัสดีค่ะ อยากได้คำแนะนำ อยากได้แนวทางที่พอเป็นไปได้ค่ะ
ตอนนี้ อายุ 47 ปี ควรเป็นวัยที่ชีวิตมีความมั่นคงแล้ว แต่สำหรับเรามันไม่ได้เป็นไปตามนั้นเลย เป็นวัย 47 ที่รู้สึกมืดมน หม่นหมองมากค่ะ อดีตเคยทำงานด้านบัญชีมาตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ชีวิตก็ปกติทั่วไป ทำงาน มีเงินเก็บทุกเดือน มีเงินให้พ่อแม่ทุกเดือน แล้วที่เหลือก็ใช้กินเที่ยวตามประสาค่ะ
จนกระทั่งเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน แม่เราป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ใช้สิทธิบัตรทองในการรักษา แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่าย คือค่าห้อง ยานอกบัญชี ตัวเราเองก็ลาออกจากงานมาดูแลแม่ ดูแลร้านแทนแม่ และเงินเก็บที่เรามีก็หมดไปกับค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ตอนนั้น แต่ไม่เป็นไร ขอแค่ให้แม่หายก็พอ และสุดท้ายแม่ก็ได้กลับบ้าน หลังจากที่ต้องอยู่รพ.เป็นเดือนๆ
ตอนนั้นปรับระบบงานที่ร้าน เพราะแม่ยกให้เรารับผิดชอบ เราก็ทำร้านไปพร้อมดูแลแม่ด้วย และเริ่มมีเงินเก็บอีกครั้ง พอแม่หายดีเราก็คืนกิจการให้แม่ไป และเราไปเริ่มทำธุรกิจกับญาติเราเอง ซึ่งในส่วนนี้ขออนึญาตไม่เอ่ยถึงนะคะ เพราะจะกระทบกับบุคคลอื่น แต่เอาเป็นว่า เราหมดตัวอีกครั้งจากธุรกิจนี้
หลังจากนั้น ชีวิตก็ลุ่มๆดอนๆมาตลอด แล้วเราก็มีลูกสาว 1 คน แต่ปัจจุบันนี้ เราคือแม่เลี้ยงเดี่ยว ก็ต้องพยายามหาเงินเพื่อเลี้ยงลูกให้ได้ ด้วยอายุขนาดนี้ การจะหางานประจำทำมันยากเย็นจริงๆ แทบไม่มีความหวังเลยว่าจะได้งาน แต่เราถือคติไม่เลือกงาน ไม่ยากจน เราจึงไปสมัครงานแม่บ้านออนไลน์ ผ่านการอบรมหลักสูตรแม่บ้านมืออาชีพ และรับงานผ่านแอปอยู่ประมาณครึ่งปี ได้รีวิว 5 ดาวจากลูกค้ามาตลอด จนมาเจอเคสหนึ่งที่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงตัดสินใจลาออก และเริ่มรับงานเอง ด้วยการโพสรับงานในกลุ่มแถวบ้าน ได้รับการตอบรับที่ดีเหลือเชื่อ รับงานแทบไม่ทันเลยค่ะ
แต่แล้วเมื่อปลายปี 66 เราตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ระยะ 3 และมีการลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง จำเป็นต้องขอยกเลิกงานที่รับจองไว้ เพื่อเตรียมตัวผ่าตัด หลังผ่าตัดหยุดรับงานไปเกือบปี เงินเก็บที่มีก็หมดลงอีกครั้ง จึงตัดสินใจเริ่มกลับมารับงานอีกครั้ง แต่กลับมาครั้งนี้ไม่เหมือนอย่างเคย ลูกค้าหายหน้าหายตาไปหมด แถมยังมีคนหันมารับงานแบบนี้เต็มไปหมด ทำให้งานน้อยมาก เหลือบ้านที่เข้าประจำทุกสัปดาห์แค่ 2 หลัง และนานๆจะมีลูกค้าขาจรมาสักที ประกอบกับร่างกายที่อ่อนแอลงจากผลข้างเคียงของยาต้านฮอร์โมนที่ต้องกิน ยอมรับว่ารู้สึกท้อค่ะ ปกติไม่เคยก้มหัวให้โชคชะตา แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเหนื่อยเหลือเกิน ยังไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานไหม เป็นห่วงก็แต่ลูกที่อายุเพิ่ง 10 ขวบ ถ้าเป็นอะไรไปก่อนที่เค้าจะดูแลตัวเองได้คงตายตาไม่หลับ
ตอนนี้มีความคิดมีสูตรในการทำสินค้าตัวหนึ่ง อยากทำขายและคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่น่าจะขายได้ หากสำเร็จ อย่างน้อยคงมีอะไรเหลือไว้ให้ลูกบ้าง แต่ติดตรงที่ไม่เหลือเงินทุนพอให้ทำอะไรได้อีกแล้ว การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็ยากมากๆ เพราะไม่มีงานประจำ อยากทราบว่า พอจะมีทางไหนที่จะหาเงินมาลงทุนได้บ้างคะ ขอแนวทาง ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ
ไม่มีงานประจำ เงินเก็บหมดไม่เหลือแล้ว อายุก็มาก อยากเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ตอนนี้ อายุ 47 ปี ควรเป็นวัยที่ชีวิตมีความมั่นคงแล้ว แต่สำหรับเรามันไม่ได้เป็นไปตามนั้นเลย เป็นวัย 47 ที่รู้สึกมืดมน หม่นหมองมากค่ะ อดีตเคยทำงานด้านบัญชีมาตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ชีวิตก็ปกติทั่วไป ทำงาน มีเงินเก็บทุกเดือน มีเงินให้พ่อแม่ทุกเดือน แล้วที่เหลือก็ใช้กินเที่ยวตามประสาค่ะ
จนกระทั่งเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน แม่เราป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ใช้สิทธิบัตรทองในการรักษา แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่าย คือค่าห้อง ยานอกบัญชี ตัวเราเองก็ลาออกจากงานมาดูแลแม่ ดูแลร้านแทนแม่ และเงินเก็บที่เรามีก็หมดไปกับค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ตอนนั้น แต่ไม่เป็นไร ขอแค่ให้แม่หายก็พอ และสุดท้ายแม่ก็ได้กลับบ้าน หลังจากที่ต้องอยู่รพ.เป็นเดือนๆ
ตอนนั้นปรับระบบงานที่ร้าน เพราะแม่ยกให้เรารับผิดชอบ เราก็ทำร้านไปพร้อมดูแลแม่ด้วย และเริ่มมีเงินเก็บอีกครั้ง พอแม่หายดีเราก็คืนกิจการให้แม่ไป และเราไปเริ่มทำธุรกิจกับญาติเราเอง ซึ่งในส่วนนี้ขออนึญาตไม่เอ่ยถึงนะคะ เพราะจะกระทบกับบุคคลอื่น แต่เอาเป็นว่า เราหมดตัวอีกครั้งจากธุรกิจนี้
หลังจากนั้น ชีวิตก็ลุ่มๆดอนๆมาตลอด แล้วเราก็มีลูกสาว 1 คน แต่ปัจจุบันนี้ เราคือแม่เลี้ยงเดี่ยว ก็ต้องพยายามหาเงินเพื่อเลี้ยงลูกให้ได้ ด้วยอายุขนาดนี้ การจะหางานประจำทำมันยากเย็นจริงๆ แทบไม่มีความหวังเลยว่าจะได้งาน แต่เราถือคติไม่เลือกงาน ไม่ยากจน เราจึงไปสมัครงานแม่บ้านออนไลน์ ผ่านการอบรมหลักสูตรแม่บ้านมืออาชีพ และรับงานผ่านแอปอยู่ประมาณครึ่งปี ได้รีวิว 5 ดาวจากลูกค้ามาตลอด จนมาเจอเคสหนึ่งที่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงตัดสินใจลาออก และเริ่มรับงานเอง ด้วยการโพสรับงานในกลุ่มแถวบ้าน ได้รับการตอบรับที่ดีเหลือเชื่อ รับงานแทบไม่ทันเลยค่ะ
แต่แล้วเมื่อปลายปี 66 เราตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ระยะ 3 และมีการลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง จำเป็นต้องขอยกเลิกงานที่รับจองไว้ เพื่อเตรียมตัวผ่าตัด หลังผ่าตัดหยุดรับงานไปเกือบปี เงินเก็บที่มีก็หมดลงอีกครั้ง จึงตัดสินใจเริ่มกลับมารับงานอีกครั้ง แต่กลับมาครั้งนี้ไม่เหมือนอย่างเคย ลูกค้าหายหน้าหายตาไปหมด แถมยังมีคนหันมารับงานแบบนี้เต็มไปหมด ทำให้งานน้อยมาก เหลือบ้านที่เข้าประจำทุกสัปดาห์แค่ 2 หลัง และนานๆจะมีลูกค้าขาจรมาสักที ประกอบกับร่างกายที่อ่อนแอลงจากผลข้างเคียงของยาต้านฮอร์โมนที่ต้องกิน ยอมรับว่ารู้สึกท้อค่ะ ปกติไม่เคยก้มหัวให้โชคชะตา แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเหนื่อยเหลือเกิน ยังไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานไหม เป็นห่วงก็แต่ลูกที่อายุเพิ่ง 10 ขวบ ถ้าเป็นอะไรไปก่อนที่เค้าจะดูแลตัวเองได้คงตายตาไม่หลับ
ตอนนี้มีความคิดมีสูตรในการทำสินค้าตัวหนึ่ง อยากทำขายและคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่น่าจะขายได้ หากสำเร็จ อย่างน้อยคงมีอะไรเหลือไว้ให้ลูกบ้าง แต่ติดตรงที่ไม่เหลือเงินทุนพอให้ทำอะไรได้อีกแล้ว การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็ยากมากๆ เพราะไม่มีงานประจำ อยากทราบว่า พอจะมีทางไหนที่จะหาเงินมาลงทุนได้บ้างคะ ขอแนวทาง ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ