ดีลอยท์ชี้คนไทย 36% ยังคงเลือกซื้อรถน้ำมันคันต่อไป

ดีลอยท์ชี้ 36% เลือกซื้อรถน้ำมันคันต่อไป เหตุค่าครองชีพ-ความคุ้มค่ายังชนะใจ

ดีลอยท์ ประเทศไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดยานยนต์ไทยจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 1,000 คน พบว่าคนไทยกลับมาให้ความสนใจรถยนต์สันดาป (ICE) มากขึ้น คิดเป็น 32% ของความสนใจรวม เพิ่มขึ้นจากปี 2024 และสอดคล้องกับแนวโน้มในหลายประเทศอาเซียน แม้กระแสโลกยังคงหนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV)

ค่าครองชีพ-ความคุ้มค่า ดึงคนกลับสู่น้ำมัน
นายมงคล สมผล ผู้นำกลุ่มธุรกิจยานยนต์ ดีลอยท์ ประเทศไทย ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคไทยกลับมามองรถน้ำมันคือความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย รวมถึงความมั่นใจในความพร้อมใช้งาน โดยผลสำรวจชี้ว่า 36% ของผู้ตอบแบบสอบถามตั้งใจซื้อรถสันดาปเป็นคันถัดไป รองลงมาคือปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) 21%, รถไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) 20% และไฮบริด (HEV) 17%

ในขณะที่ประเทศอาเซียนส่วนใหญ่ (ยกเว้นสิงคโปร์) มีความนิยมรถสันดาปเกิน 50% แต่ไทยกลับเป็นประเทศเดียวที่สัดส่วนความสนใจในประเภทเครื่องยนต์ใกล้เคียงกัน สะท้อนถึงการเปิดรับทางเลือกหลากหลาย

คนไทยใจร้อน-ชาร์จเร็วคือหัวใจ
ปัจจัยกังวลหลักสำหรับ EV คือค่าใช้จ่าย ระยะทางวิ่ง และเวลาชาร์จ โดยคนไทยถูกจัดว่า “ใจร้อน” ที่สุดในภูมิภาค เกือบครึ่งต้องการให้แบตเตอรี่ BEV ชาร์จจาก 0-80% ภายในไม่เกิน 20 นาที และ 40% ต้องการวิ่งได้เกิน 400 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

การชาร์จนอกบ้าน คนไทยให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัย ได้แก่ เวลาชาร์จสั้น ความปลอดภัย และจุดชาร์จที่หาง่าย ทั้งนี้ แม้การขาดแคลนสถานีชาร์จเป็นปัญหาใหญ่ในอาเซียน แต่ไทยกลับกังวลเรื่องนี้น้อยสุด เหลือเพียง 26% ในปี 2025 ลดลงจากปีก่อนกว่า 43% สะท้อนความเชื่อมั่นต่อโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น

แรงจูงใจให้ใช้ EV ยังมี แต่ไม่พอพลิกตลาด
สิ่งที่ดึงดูดผู้บริโภคให้สนใจ EV ได้แก่ ค่าน้ำมันที่ถูกกว่า ผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม และประสบการณ์ขับขี่ที่เงียบและเร่งดี อย่างไรก็ตาม ปัจจัยชี้ขาดในการเลือกซื้อรถของคนไทยคือคุณภาพ ราคา และออปชัน มากกว่าชื่อแบรนด์ โดยมากกว่า 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคตั้งใจเปลี่ยนยี่ห้อรถคันต่อไป

พฤติกรรมซื้อยังต้องพึ่งโชว์รูม
แม้โลกออนไลน์จะมีบทบาทมากขึ้น แต่ 93% ของคนไทยยังต้องการสัมผัสรถจริงก่อนซื้อ และ 90% ต้องการทดลองขับ สะท้อนความสำคัญของประสบการณ์ผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์

นอกจากนี้ คนไทยยังให้ความสำคัญกับการประกอบรถในประเทศสูงที่สุดในภูมิภาค (71%) และเชื่อมั่นตัวแทนจำหน่าย (Dealer) มากกว่าผู้ผลิตในการจัดการข้อมูลรถ แตกต่างจากประเทศอื่นที่ให้ความไว้วางใจผู้ผลิตเป็นหลัก

เศรษฐกิจซบ-สินเชื่อเข้ม กระทบยอดขาย EV
นายโชดก ปัญญาวรานันท์ ผู้จัดการอาวุโส แผนก Growth ดีลอยท์ ประเทศไทย เสริมว่า คนไทยขับรถทางไกลต่อเดือนมากที่สุดในอาเซียน (เกิน 100 กม.) และครึ่งหนึ่งใช้รถทุกวัน จึงยังจำเป็นต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีชาร์จต่อไป

อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หนี้เสียในระบบสูง ทำให้ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ ส่งผลให้รถมือสองขายดีขึ้น กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ EV เพราะรถน้ำมันมีวงจรอะไหล่ครบถ้วน เข้าถึงง่าย ราคาขายต่อดี และเบี้ยประกันคาดเดาได้มากกว่า

ข้อมูลข่าวจาก Motoring X

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่