
ช่วงหลังนี่ Nicholas Cage กลายเป็นเหมือน “เจ้าพ่อหนังแปลก” ไปแล้ว จากที่เคยเป็นพระเอกหนังบล็อกบัสเตอร์ในยุค 90–2000 ตอนนี้กลายเป็นนักแสดงที่ชอบเลือกเล่นหนัง ฟอร์มเล็ก แต่มีคาแรกเตอร์จัด ๆ ดูเหมือนตั้งใจจะสร้างงาน cult มากกว่าหาหนังตลาด ซึ่ง The Surfer ก็เป็นอีกเรื่องที่ Cage โผล่มาแบกทั้งเรื่องแบบเต็ม ๆ

🏄♂️🏄♂️🏄♂️
หนังเล่าเรื่องของชายคนหนึ่ง (Cage) ที่กลับมาบ้านเกิดริมทะเลออสเตรเลีย แล้วอยากกลับไปโต้คลื่นบนหาดที่เขาคุ้นเคย แต่ปัญหาคือที่นั่นโดนแก๊งวัยรุ่นเจ้าถิ่นยึดครองอยู่แล้ว Cage ก็เลยโดนไล่ ด่าทอ ข่มเหงสารพัดตั้งแต่เช้าจรดเย็น... เรียกว่ากลายเป็นการ โดนกลั่นแกล้งกลางหาดทราย + คลื่นทะเล แบบ non-stop จนคนดูอยากตะโกน “ปล่อยพี่แกเถอะ!”

🏄♂️🏄♂️🏄♂️
ถ้าคุณชอบฟีลหนังที่ทำให้ “อึดอัด ใจไม่ดี แต่หยุดดูไม่ได้” เรื่องนี้ตอบโจทย์มาก ๆ ทั้งภาพ เสียง คลื่นทะเล และการแสดงบ้าพลังของ Cage มันกดดันตั้งแต่ต้นยันท้าย หนังยาวประมาณ 100 นาที แต่เล่นใหญ่คือ เกือบ 70–80 นาทีคือการกลั่นแกล้ง Cage ล้วน ๆ คนดูเลยอินกับความหงุดหงิดไปพร้อม ๆ กันแบบไม่รู้ตัว

🏄♂️🏄♂️🏄♂️
ถึงจะบอกว่าน่าสนใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่า The Surfer ยืดไปหน่อย บางช่วงมันหม่นจนเกินไป และอาจจะ “ติสต์จัด” เกินสำหรับคนที่อยากได้ความบันเทิงสบาย ๆ ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบบรรยากาศที่บีบคั้นตลอดเวลาแบบนี้

🏄♂️🏄♂️🏄♂️
The Surfer เป็นหนังที่โชว์ให้เห็นว่า Nicholas Cage ยังเป็นตัวพ่อในการเลือกบทที่ท้าทายและโคตรแปลก ใครที่ชอบดูหนัง กดดัน ๆ แบบอินดี้ + การแสดงสุดขั้วของ Cage ก็ควรลองสักครั้ง แต่ถ้าอยากได้หนังเบา ๆ ฮา ๆ ไว้ดูชิล ๆ นี่ไม่ใช่หรอกนะครับ
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Reivew] The Surfer กูจะเซิร์ฟ - พี่เคจกับหนัง Cult ที่มีคาแรคเตอร์อีกแล้ว
ช่วงหลังนี่ Nicholas Cage กลายเป็นเหมือน “เจ้าพ่อหนังแปลก” ไปแล้ว จากที่เคยเป็นพระเอกหนังบล็อกบัสเตอร์ในยุค 90–2000 ตอนนี้กลายเป็นนักแสดงที่ชอบเลือกเล่นหนัง ฟอร์มเล็ก แต่มีคาแรกเตอร์จัด ๆ ดูเหมือนตั้งใจจะสร้างงาน cult มากกว่าหาหนังตลาด ซึ่ง The Surfer ก็เป็นอีกเรื่องที่ Cage โผล่มาแบกทั้งเรื่องแบบเต็ม ๆ
🏄♂️🏄♂️🏄♂️
หนังเล่าเรื่องของชายคนหนึ่ง (Cage) ที่กลับมาบ้านเกิดริมทะเลออสเตรเลีย แล้วอยากกลับไปโต้คลื่นบนหาดที่เขาคุ้นเคย แต่ปัญหาคือที่นั่นโดนแก๊งวัยรุ่นเจ้าถิ่นยึดครองอยู่แล้ว Cage ก็เลยโดนไล่ ด่าทอ ข่มเหงสารพัดตั้งแต่เช้าจรดเย็น... เรียกว่ากลายเป็นการ โดนกลั่นแกล้งกลางหาดทราย + คลื่นทะเล แบบ non-stop จนคนดูอยากตะโกน “ปล่อยพี่แกเถอะ!”
🏄♂️🏄♂️🏄♂️
ถ้าคุณชอบฟีลหนังที่ทำให้ “อึดอัด ใจไม่ดี แต่หยุดดูไม่ได้” เรื่องนี้ตอบโจทย์มาก ๆ ทั้งภาพ เสียง คลื่นทะเล และการแสดงบ้าพลังของ Cage มันกดดันตั้งแต่ต้นยันท้าย หนังยาวประมาณ 100 นาที แต่เล่นใหญ่คือ เกือบ 70–80 นาทีคือการกลั่นแกล้ง Cage ล้วน ๆ คนดูเลยอินกับความหงุดหงิดไปพร้อม ๆ กันแบบไม่รู้ตัว
🏄♂️🏄♂️🏄♂️
ถึงจะบอกว่าน่าสนใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่า The Surfer ยืดไปหน่อย บางช่วงมันหม่นจนเกินไป และอาจจะ “ติสต์จัด” เกินสำหรับคนที่อยากได้ความบันเทิงสบาย ๆ ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบบรรยากาศที่บีบคั้นตลอดเวลาแบบนี้
🏄♂️🏄♂️🏄♂️
The Surfer เป็นหนังที่โชว์ให้เห็นว่า Nicholas Cage ยังเป็นตัวพ่อในการเลือกบทที่ท้าทายและโคตรแปลก ใครที่ชอบดูหนัง กดดัน ๆ แบบอินดี้ + การแสดงสุดขั้วของ Cage ก็ควรลองสักครั้ง แต่ถ้าอยากได้หนังเบา ๆ ฮา ๆ ไว้ดูชิล ๆ นี่ไม่ใช่หรอกนะครับ
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้