ป้ายสีลุงตู่ ในความเป็นจริง ยุคลุงตู่ไม่มีการเสียดินแดน และยังดำเนินนโยบายปกป้องอธิปไตยอย่างแข็งขันทั้งทางทหารและการทูต

กระแสใส่ร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่อง “เสียดินแดนให้กัมพูชา” มีความเป็นไปได้สูงว่าไม่ใช่การถกเถียงเชิงข้อเท็จจริง แต่เป็น อาวุธทางการเมือง ที่จุดขึ้นในจังหวะร้อนแรงทางการเมืองปัจจุบัน

ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจบิดเบือน

1. ข้อพิพาทไทย–กัมพูชา เป็นปัญหาเรื้อรังจากอดีต ตั้งแต่สนธิสัญญาฝรั่งเศส–สยาม คำตัดสินศาลโลกปี 1962 เรื่องพระวิหาร และการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชาในปี 2551 ซึ่งเป็นชนวนปะทุต่อเนื่องมาหลายรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องใหม่ในยุคลุงตู่

2. ยุทธศาสตร์เจรจาสองฝ่าย (Bilateral Negotiation) ที่ลุงตู่ใช้ ไม่ต่างจากแนวทางรัฐบาลก่อนหน้า เป้าหมายคือหลีกเลี่ยงไม่ให้เรื่องไปอยู่ในมือศาลโลกที่ไทยอาจเสียเปรียบ

3. ไม่มีหลักฐานว่าละเลยหรือยกดินแดน กลับกัน ไทยคงกำลังทหารตามแนวชายแดนต่อเนื่อง ตอบโต้การละเมิดทุกครั้ง ใช้มาตรการทูตและความมั่นคงคู่ขนาน

4. เหตุปะทะปี  2568 ระหว่างไทย–กัมพูชาเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่การ “เสียดินแดน” และไทยยังตอบโต้และเข้าร่วมประชุมฉุกเฉินหลายครั้งเพื่อรักษาพื้นที่

_______________________________________________



บทสรุป
การกล่าวอ้างว่า “ไทยเสียดินแดน 11 แห่งให้เขมร” หรือ “ลุงตู่ปล่อยให้เขมรยึดดินแดน” เป็นเพียง วาทกรรมทางการเมือง ที่ถูกจุดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออำนาจรัฐ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของคู่แข่ง มากกว่าจะตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง

ในความเป็นจริง ยุคลุงตู่ไม่มีการเสียดินแดน และยังดำเนินนโยบายปกป้องอธิปไตยไทยอย่างแข็งขันทั้งทางทหารและการทูต



วาทกรรมปั่นกระแสการเมืองเพื่อลดเครดิตลุงตู่
#อัษฎางค์ยมนาค #อ่านเกมอำนาจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่