ขอสอบถามประสบการณ์หรือความเห็นหน่อยค่ะ
ส่วนตัวได้ใบขับขี่มาแล้วอาทิตย์กว่ารวมถึงได้ไปเรียนเพิ่มความมั่นใจในการขับในเมืองมาจนจบคอร์สแล้ว (ขับไปกลับประมาณ 30 กิโลพร้อมคุณครูโดยใช้รถส่วนตัว ไม่มีเบรกที่นั่งครู) จนวันนี้ตัดสินใจขับออกจากบ้านคนเดียวโดยได้เลือกช่วงเวลาประมาณ 6.20 น. ออกจากบ้านเพื่อฝึกขับเพิ่มประสบการณ์ในเมืองช่วงวันหยุดที่รถไม่เยอะ โดยส่วนตัวเราขับชิดซ้ายอยู่ที่ไม่เกิน 40 กม./ชั่วโมงค่ะ
จนขับมาถึงประมาณแถวหน้ามหาวิทยาลัยเราลดความเร็วลงจนเหลือ 30 แต่จู่ๆมีรถตุ๊กๆ (แบบของภาคใต้นะคะ ไม่เหมือนกรุงเทพ) เร่งแซงหน้ามาจากขวาเพื่อรับผู้โดยสารที่โบกมือ (ตำแหน่งคนโบกอยู่ประมาณด้านข้างของรถเราขณะขับ ซึ่งเขาชะลอแล้วค่อยเบี่ยงเข้าซ้ายได้แต่ไม่ทำ) จากนั้นมาเบรกตัดหน้า ระยะไม่ถึง 1 เมตรจนเราเบรกไม่ทันเกิดการชนเล็กน้อย (โชคดีที่บนรถเขายังไม่มีผู้โดยสาร)
ซึ่งรถลุงก็เกิดรอยถลอกเล็กน้อยตรงสีท้ายรถค่ะ ในขณะที่รถเราบริเวณตัวรถฝั่งหลังไฟหน้าหน้าซ้ายเปิดออกมาเล็กน้อย และกันโคลนเบี้ยว เพราะเป็นรถอีโค่คาร์ขนาดเล็ก เก่ามากที่บ้านใช้มาเป็นสิบปี
เบื้องต้นเราก็ทำการคุยเคลียร์กันกับลุงเรียบร้อย เพราะไม่ได้มีประกันกันทั้งสองฝ่าย (อันนี้ประมาทเองค่ะ) โดยเราจ่ายค่าถลอกให้ลุง 500 บาท และลุงไม่ต้องจ่ายค่าอะไรให้ (เป็นความคิดในตอนนั้นว่าให้จบ ๆ ไปไม่อยากมีเรื่อง แต่คิดไปคิดมาเสียดายมากน่าจะเรียกตำรวจ)
ขับกลับบ้านมาในสภาพนั้น ด้วยความที่เป็นมือใหม่ด้วย เจอคนมองตลอดทางเลยค่ะแถมเกิดอาการสั่นนิด ๆ ยังดีที่ประคองไว้ได้แต่พอถึงบ้านแล้วรู้สึกได้เลยว่าขาสั่น เกิดความรู้สึกกลัวขับรถนิด ๆ ขึ้นมาอีก เพราะตอนนี้กลายเป็นเราเพิ่มค่าใช้จ่ายให้คนในบ้านไปอีก (ยังเป็นนักศึกษาอยู่ค่ะ เรียนขับรถเพราะจะรับส่งแม่) เบื้องต้นแม่บอกแล้วว่าไม่เป็นไรเป็นประสบการณ์ แต่ตอนนี้เราเครียดเรื่องการซ่อมรถ กลัวขับไปทั้งแบบนี้แล้วรถมีปัญหา แต่ถ้าเอาไปซ่อนนานจนไม่ค่อยได้ขับก็กลัวความรู้ที่ได้มาใหม่ ๆ มันจะหายไปหมดน่ะค่ะ
ตอนเกิดเหตุเราก็ได้ความเห็นใจมาจากคุณลุงคุณป้าที่เขาตักบาตรซื้อกับข้าวกันแถวนั้น แต่ด้วยความเด็กกว่าเราเลยยอมลุงคนขับตุ๊กๆไปเพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้วย ตอนนี้กลับบ้านมาเซ็งมากเลยค่ะ อยากได้คำแนะนำแล้วก็คำบอกเล่าจากประสบการณ์ของพี่ ๆ ในเว็บที่ผ่านมาเห็นทุกคนหน่อยค่ะว่าเราควรทำยังไงดี
ขับออกถนนครั้งแรก โดนรถตุ๊กๆแซงจากขวาแล้วเบรกตัดหน้า ทำยังไงให้กลับมากล้าขับ?
ส่วนตัวได้ใบขับขี่มาแล้วอาทิตย์กว่ารวมถึงได้ไปเรียนเพิ่มความมั่นใจในการขับในเมืองมาจนจบคอร์สแล้ว (ขับไปกลับประมาณ 30 กิโลพร้อมคุณครูโดยใช้รถส่วนตัว ไม่มีเบรกที่นั่งครู) จนวันนี้ตัดสินใจขับออกจากบ้านคนเดียวโดยได้เลือกช่วงเวลาประมาณ 6.20 น. ออกจากบ้านเพื่อฝึกขับเพิ่มประสบการณ์ในเมืองช่วงวันหยุดที่รถไม่เยอะ โดยส่วนตัวเราขับชิดซ้ายอยู่ที่ไม่เกิน 40 กม./ชั่วโมงค่ะ
จนขับมาถึงประมาณแถวหน้ามหาวิทยาลัยเราลดความเร็วลงจนเหลือ 30 แต่จู่ๆมีรถตุ๊กๆ (แบบของภาคใต้นะคะ ไม่เหมือนกรุงเทพ) เร่งแซงหน้ามาจากขวาเพื่อรับผู้โดยสารที่โบกมือ (ตำแหน่งคนโบกอยู่ประมาณด้านข้างของรถเราขณะขับ ซึ่งเขาชะลอแล้วค่อยเบี่ยงเข้าซ้ายได้แต่ไม่ทำ) จากนั้นมาเบรกตัดหน้า ระยะไม่ถึง 1 เมตรจนเราเบรกไม่ทันเกิดการชนเล็กน้อย (โชคดีที่บนรถเขายังไม่มีผู้โดยสาร)
ซึ่งรถลุงก็เกิดรอยถลอกเล็กน้อยตรงสีท้ายรถค่ะ ในขณะที่รถเราบริเวณตัวรถฝั่งหลังไฟหน้าหน้าซ้ายเปิดออกมาเล็กน้อย และกันโคลนเบี้ยว เพราะเป็นรถอีโค่คาร์ขนาดเล็ก เก่ามากที่บ้านใช้มาเป็นสิบปี
เบื้องต้นเราก็ทำการคุยเคลียร์กันกับลุงเรียบร้อย เพราะไม่ได้มีประกันกันทั้งสองฝ่าย (อันนี้ประมาทเองค่ะ) โดยเราจ่ายค่าถลอกให้ลุง 500 บาท และลุงไม่ต้องจ่ายค่าอะไรให้ (เป็นความคิดในตอนนั้นว่าให้จบ ๆ ไปไม่อยากมีเรื่อง แต่คิดไปคิดมาเสียดายมากน่าจะเรียกตำรวจ)
ขับกลับบ้านมาในสภาพนั้น ด้วยความที่เป็นมือใหม่ด้วย เจอคนมองตลอดทางเลยค่ะแถมเกิดอาการสั่นนิด ๆ ยังดีที่ประคองไว้ได้แต่พอถึงบ้านแล้วรู้สึกได้เลยว่าขาสั่น เกิดความรู้สึกกลัวขับรถนิด ๆ ขึ้นมาอีก เพราะตอนนี้กลายเป็นเราเพิ่มค่าใช้จ่ายให้คนในบ้านไปอีก (ยังเป็นนักศึกษาอยู่ค่ะ เรียนขับรถเพราะจะรับส่งแม่) เบื้องต้นแม่บอกแล้วว่าไม่เป็นไรเป็นประสบการณ์ แต่ตอนนี้เราเครียดเรื่องการซ่อมรถ กลัวขับไปทั้งแบบนี้แล้วรถมีปัญหา แต่ถ้าเอาไปซ่อนนานจนไม่ค่อยได้ขับก็กลัวความรู้ที่ได้มาใหม่ ๆ มันจะหายไปหมดน่ะค่ะ
ตอนเกิดเหตุเราก็ได้ความเห็นใจมาจากคุณลุงคุณป้าที่เขาตักบาตรซื้อกับข้าวกันแถวนั้น แต่ด้วยความเด็กกว่าเราเลยยอมลุงคนขับตุ๊กๆไปเพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้วย ตอนนี้กลับบ้านมาเซ็งมากเลยค่ะ อยากได้คำแนะนำแล้วก็คำบอกเล่าจากประสบการณ์ของพี่ ๆ ในเว็บที่ผ่านมาเห็นทุกคนหน่อยค่ะว่าเราควรทำยังไงดี