หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (49)...ชีวิตใหม่ ชิคาโก

กระทู้คำถาม
หัวใจสลายที่ปลายฟ้า (49)...ชีวิตใหม่ ชิคาโก
 
            ที่นี่ไม่เหมือน SIU...ซึ่งเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่น่าอยู่ และสถานที่ซึ่งโดยรอบเงียบสงบเต็มไปด้วยแมกไม้ ปลูกเลาะตามเส้นทางเดินไป
ตามตึกต่าง ๆ    แต่มหาวิทยาลัยชิคาโกมีต้นไม้ปลูกเป็นบางส่วนท่ามกลางอาคารเรียนซึ่งเป็นตัวตึกสูงหลายชั้น ถ้ามองจากภายนอกรูปทรงตึก
เรียนปลูกสร้างแบบอาคารสมัยโรมัน แต่ภายในตกแต่งทันสมัย สนามฟุตบอล สระว่ายน้ำ และ โรงยิม เป็นอาคารที่อยู่ในละแวกใกล้กัน ตัวมหาวิยาลัย
ตั้งอยู่ในเขตชุมชนไฮด์ปาร์ค...Hyde Park

             ดวงเนตรขอตัวไปพบอาจารย์คริสตี้  “ไม่ต้องรีบนะจ๊ะ เดี๋ยวเราจะเดินดูภายในมหาวิทยาลัย ประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้วพวกเราจะมารอ
หน้าตึก OK!”
            “ค่ะน้าวิว”
 
            ดวงเนตรเดินขึ้นตึกไปได้ครู่หนึ่ง แล้วเริ่มเดินวน จนกระทั่งหันไปเจอฝรั่งผู้ชายร่างสูงใหญ่ หน้าหล่อ ผมสีบรูเน็ต ตาคม ผิวตกกระ เขาน่าจะ
เป็นฝรั่งตะวันออกกลาง...ซึ่งภายหลังดวงเนตรก็รู้จากเขาว่าพ่อเป็นอเมริกัน แม่เป็นชาวจอร์แดน แต่งกายลำลองดูสุภาพ “มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”
            “ฉันชื่อนิคกี้ เป็นนักศึกษาใหม่ ฉันกำลังหาห้องอาจารย์คริสตี้อยู่ค่ะ”
            “ผมชื่อแมททิว เดี๋ยวผมพาไป...เชิญครับ”
           
            เพียงครู่เดียวก็นำมาห้องอาจารย์คริสตี้ เขาเคาะประตูห้อง และ ได้ยินเสียงเธอ
            “เข้ามาได้เลยค่ะ” ทั้งคู่เปิดประตูเข้าไป แมททิวบอกว่า "นิคกี้ต้องการพบดอกเตอร์คริสตี้ เธอเป็นนักศึกษาใหม่ครับ”
 อาจารย์คริสตี้แต่งชุดสูทสีน้ำเงิน สวมเสื้อตัวในสีฟ้าสว่าง ผมเธอซอยสั้นดูเก๋ อายุน่าจะใกล้เคียงกับดอกเตอร์จินนี่...สี่สิบห้าปีโดยประมาณ เธอเปิด
รอยยิ้มต้อนรับกว้างดูอบอุ่น
            “แมททิวขอเวลาฉันคุยกับนิคกี้สักครู่นะจ๊ะ”
            “ได้ครับ”

            อาจารย์คริสตี้เข้ามาโอบดวงเนตรเป็นการแสดงการต้อนรับ “อาจารย์จินนี่ฝากฝังมาอย่างดี เขาบอกฉันว่ามีอะไรก็ช่วยแนะนำและดูแลเธอด้วย  
เราเป็นเพื่อนสนิทกัน ถ้ามีอะไรอย่าเกรงใจนะจ๊ะนิคกี้ และอีกอย่างอาจารย์ดูจากที่นิคกี้เรียนมานี่คือตารางเรียนเทอมหน้า ลองเอาไปดูกับคู่มือลงทะ
เบียน ถ้ามีปัญหาอะไร หรืออยากเปลี่ยนวิชาที่ลงอย่างไร แล้วค่อยกลับมาคุยกันอีกที่ เพราะอาทิตย์หน้าลงทะเบียนที่ตึกถัดไป  และบางวิชาอาจเริ่ม
เรียนเลยนะ”  อาจารย์อธิบายให้ฟังด้วยรอยยิ้ม
            ดวงเนตรตั้งใจฟัง และกวาดตามองตารางที่ดอกเตอร์คริสตี้แนะนำให้ลง “คงไม่อยากเกินไป ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นค่ะ”  ก่อนกลับ
ออกมาที่จุดนัดพบ สิ่งที่เธอต้องทำหลังจากพี่ ๆ จะต้องจากไปในวันพรุ่งนี้คือเตรียมยืมหนังสือที่มีอยู่เพื่อใช้ในการเรียน หรือถ้าบางวิชาไม่มีเธออาจ
จะต้องซื้อตำราที่ใช้แล้วที่เรียกว่า “used book”  ตำราบางเล่มราคาถูกกว่าซื้อใหม่ถึงครึ่งหนึ่ง ความรู้สึกกับสิ่งใหม่รอบตัวบ่อยครั้งที่ทำให้เธอรู้สึก
หวั่นไหว หากที่นี่มีพี่หนอยอีกคนคงเป็นที่พักใจที่อ่อนล้าของเธอได้

            หลังจากนิคกี้ออกไปแล้ว ดอกเตอร์คริสตี้รู้เพียงเหตุผลสั้น ๆ จากดอกเตอร์จินนี่ ที่นิคกี้จำเป็นต้องย้ายมาที่มหาวิทยาลัยชิคาโก คงอีกสักระยะ
หนึ่งเธออาจได้คำอธิบายที่ชัดเจนจากนิคกี้เอง ผลการเรียนของเธอจากมหาวิทยาลัย SIU ดีมาก เธอกวาดเอหมดทุกวิชา สาวสวยชาวเอเชียที่มี
ดวงตาเศร้ากับรอยยิ้มเจื่อน ๆ ไม่สดใสสมวัย เธอมีรูปร่างสูงโปร่ง ผมยาวสลวย คิ้วเรียวสวย ตายาวรีสีน้ำตาลเข้ม
            “เด็กเอ๋ย” ดอกเตอร์คริสตี้เอ่ยเสียงเศร้า เธอเองก็เพิ่งสูญเสียพี่ชายฝาแฝดไป นึกถึงนิคกี้แล้วถอนหายใจ
 
            ดวงเนตรลงมารอพี่ ๆ หน้าตึก  เพียงครู่เดียวพวกเขาและสี่หนุ่มก็มาถึง “เรียบร้อยไหม” น้าวิวถาม
            “ค่ะ ได้ตารางวิชา และหนังสือตำราบางเล่มมาด้วย ตอนนี้ก็ไปเดินช็อปปิงกันได้แล้ว” ดวงเนตรเอ่ย
            น้าวิวดึงเนตรมาใกล้ขณะเดินไปที่รถ “เงินที่เป็นของพี่หนอยถ้าจำเป็น ดวงเนตรเบิกไปใช้ก่อนนะ น้าเข้าใจดีว่าหนูเป็นคนแบบไหน แต่หนูบอก
น้าวิวว่าได้จดจำนวนเงินของหนูและหนอย แยกกันไว้ในบุคแล้ว ถ้าถึงท้ายสุดของเวลา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เนตรอยากจะคืนครอบครัวเขา กลับไป   
ค่อยว่ากันนะจ๊ะ อยู่เมืองใหญ่คนเดียวขาดเหลืออะไรจะพึงใครได้ น้าวิวเป็นห่วง” เสียงเอ่ยแล้วตาแดง ดวงเนตรรู้ถึงความห่วงใยเป็นอย่างดี
            “ขอบพระคุณน้าวิวมาก อย่าห่วงเนตรมากนะคะ เนตรจะต้องเข้มแข็ง” ทั้งสองคนกอดกันแน่น พี่ศิริและพี่น้อยเห็นแล้วก็อดจะน้ำตาคลอไปกับ
เขาด้วยไม่ได้
           
            ทุกคนพร้อมลุยเมื่อมาถึงห้างใหญ่กลางเมืองชิคาโก มีน้าวิวนำหน้าและสี่หนุ่มสงขลากับพี่พลเดินปิดขบวน น้าวิวนัดเวลามาเจอกันหน้า
ร้านเครื่องกีฬา...ให้เวลาสองชั่วโมง เหล็กกำลังจะโวยกรรมการขอเวลานอกเพิ่ม แต่โดนแย้งว่ากินกลางวันแล้วจะไปอีกห้างหนึ่งด้วย เหล็กเลย
ออกอาการดีใจ  สาว ๆ เดินเกาะกลุ่มไปด้วยกัน พี่พลไปกับพวกหนุ่ม ๆ  
            น้าวิวดูจะเป็นคนเดียวที่ไม่มีปัญหาหาในการใช้จ่ายเงิน เพราะฐานะทางบ้าน แต่เธอก็เลือกซื้อเฉพาะของที่ชอบ พี่น้อยใช้ทุนพ.ม.(พ่อ แม่)
เช่นเดียวกับดวงเนตรทั้งสองจึงต้องระมัดระวังการใช้จ่ายเสมอ พี่ศิริได้ทุนมาเรียนปริญญาโททางด้านการโฆษณาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
การใช้จ่ายเงินก็เลยไม่ต่างจากทุนพ่อแม่นัก
            ส่วนสี่หนุ่มสงขลา...พ่อเป็นนายหัวใหญ่เมืองสงขลา เรื่องการเงินไม่เดือดร้อน แต่หมากเป็นคนที่มีวินัยเรื่องนี้มากกว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นจะ
ซื้ออะไรก็ต้องให้พี่ใหญ่อนุมัติอยู่ดี พี่พลของเราเป็นประเภทชอบกินอยู่พอเพียง และไม่ขวนขวายหาเรื่องเสียเงิน เขาจึงเป็นพวกที่มีลักษณะที่ไม่
ค่อยแตกต่างจากที่มาเรียนด้วยทุน พ.ม.  ส่วนใหญ่จึงเข้าลักษณะWindow shop…เดินดูสบายตา และมองหาป้ายSale...ลดราคา ดวงเนตรเดินใน
กลุ่มได้สักพักก็ขอแยกเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้อนม กาแฟ  แยม และอื่น ๆ  ไม่ลืมซื้อผลไม้ด้วย ทุกคนกลับมารวมตัวกันที่หน้าร้านขายเครื่องกีฬา
ตรงตามนัด
            แวะร้านKFC กินไก่กับเฟรนซ์ฟรายส์ เป็นอันจบไปอีกหนึ่งมื้อ หมากกางแผนที่แล้วขบวนนักช็อปก็มุ่งสู่ห้างใหญ่อีกแห่ง เป็นห้างใหญ่กว่า
ห้างแรก ตอนที่มาถึงห้างก็ประมาณบ่ายสองครึ่ง น้าวิวนัดเจอกันหน้าร้านแมคโดนัลด์เวลาห้าโมงเย็น และนี้ถือว่าเป็นโปรแกรมสุดท้ายของวันสุด
ท้าย เพราะพรุ่งนี้...หลังอาหารเช้า ทุกคนที่มาส่งดวงเนตรก็ต้องกลับคาร์บอนเดล  
             อาหารเย็นดวงเนตรจะขอพาทุกคนไปที่ร้านอาหารไทยของพี่นัดดา ไปรับประทานอาหารมื้อค่ำ นั่นหมายความว่าจะต้องกลับเข้าเอาของไป
เก็บก่อน แล้วจึงจะออกมาอีกรอบ ภายในห้างใหญ่ผู้ล่าหาของถูกทุกคน และกลุ่มที่มีกำลังซื้อก็แยกกันไป ทั้งหมดแยกเดินเป็นสองกลุ่มเหมือนเดิม
ดวงเนตรเดินตามพี่ ๆ มาได้ครู่หนึ่ง  แล้วเธอก็ขอแยกเพื่อหาซื้อของ  แล้วเดินเข้าร้าน “Do It Yourself”  ซึ่งเขามีสาขาอยู่ทางแถบมิดเวสต์ด้วย
ดวงเนตรแยกไปหาของในร้าน และจะไปพบพี่ ๆ ตามนัด  เธอชอบแต่งห้อง เธอเลือกซื้อของหลายอย่างเพื่อทำโน่น นี่ นั่น ตามหนังสือโฮมแมกกะซีน
ไว้ทำของแต่งบ้าน
 
            รถตู้วิ่งกลับเข้ามาที่พัก ดวงเนตรและทุกคนๆช่วยกันคนละไม้ละมือขนของลง เธอจัดเก็บของที่ซื้อมาเข้าที่ น้าวิวเห็นจนชินตาว่า ทุกครั้ง
ดวงเนตรจะจัดเก็บของเข้าที่ ไม่วางเลอะเทอะ พวกเราบ้างคนนอนเอนหลังบ้าง นั่งบ้างคุยกันเรื่องสัพเพเหระ ดวงเนตรเล่าเรื่องที่เข้าพบดอกเตอร์
คริสตี้ให้ทุกคนฟัง น้าวิวตั้งข้อสังเกตว่า อาจารย์ใส่ใจมากขนาดวิชาที่แกแนะนำให้เรียนล้วนแต่กระจายตัวออกไป ไม่ทำให้ผู้เรียนใหม่อย่างดวงเนตร
รู้สึกว่ามันหนักเกินไป มีแผนที่แนบมาด้วยกับจดหมาย เป็นแผนผังภายในมหาวิทยาลัย ลงรายละเอียดอย่างเป็นระบบ และทำให้รู้ว่าตึกเรียนที่ตั้ง
ตระหง่านอยู่รอบ ๆ มีอะไร และจะเข้าไปใช้อุปกรณ์ หรือหาข้อมูลอะไรเพิ่มเติมได้ที่ไหน น้าวิวขอเนตรเปิดดูจดหมาย
            “ตามสบายเลยค่ะ เราคนในครอบครัวเดียวกันเนตรไม่มีอะไรเป็นความลับ  ทุกคนเริ่มขยับวงมาใกล้ด้วยความอยากรู้ น้าวิวอ่านให้ทุกคนฟัง
            
          “ถึงนิคกี้...อาจารย์ได้รับการฝากฝังมาจากดอกเตอร์จินนี่ให้ช่วยดูแล ตัวอาจารย์เองเลยเอาชื่อนิคกี้ลงมาอยู่ในกลุ่มนักศึกษาที่มีอาจารย์เป็นที่ปรึกษา ต้องขอโทษด้วยที่ทำไปโดยพละการ อาจารย์ไม่ทราบรายละเอียดปัญหาของเธอมากนัก ที่ได้ทราบมาเพียงคร่าว ๆ
จากดอกเตอร์จินนี่ อาจารย์อยากให้เธอคิดเสมอว่า อาจารย์เป็นอีกคนที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ด้วยความปรารถนาดี” ลงชื่อ
ดอกเตอร์คริสตี้
 
            หลังจากพักได้ครู่ใหญ่ทุกคนก็เตรียมออกไปรับประทานอาหารค่ำที่ร้านพี่นัดดา ช่วยกันเลือกสั่งอาหารกินกันเกือบเสร็จพี่นัดดาก็ออกมานั่ง
คุยได้ไม่นานเพราะวันนี้ลูกค้าเยอะ ก่อนเธอจะกลับเข้าไปคลุมงานในครัว เจ้าของร้านสั่งให้ลดราคาพิเศษให้ดวงเนตร แล้วพูดกำชับดวงเนตรให้
แวะมาหาบ้าง “ค่ะ ขอบพระคุณค่ะพี่ดา” พี่ดายิ้มให้แล้วเดินเข้าครัวไป
 
            กลับเข้าที่พัก พี่ ๆ อาบน้ำบ้างเก็บของบ้าง บ้างเริ่มหลับไปแล้ว ดวงเนตรอาบน้ำเป็นคนสุดท้าย เธอออกมานั่งโต๊ะนอกบ้าน มีหลอดไฟติด
สว่างด้วยฝีมือพี่พล พี่พลเดินสายไฟต่อออกมาให้ เลยเปิดไฟได้สว่างใต้ต้นเมเปิลต้นใหญ่ เธอมองเห็นรั้วข้างบ้านและบ้านพี่ภัทรที่อยู่ไม่ไกลกัน
ดวงเนตรเอาผ้าผืนเล็กเช็ดผม แล้วหวีรอให้ผมแห้ง ลมโบกโชยเอากลิ่นดอกไม้ที่เริ่มผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ ผ่านมามีกลิ่นหอมจาง ๆ ชื่นใจนัก
พี่ภัทรมองลงมาเห็นดวงเนตรนั่งเหม่อ  
            “ดูไปเธอก็น่าสงสารนะ” หนุ่มใหญ่เอ่ย แล้วหันไปเดินกลับไปที่ห้องรับแขก
            
            พรุ่งนี้พี่ ๆ และน้อง ๆ ก็จะกลับแล้ว คงเหงาอยู่ไม่นานเพราะอาทิตย์หน้าลงทะเบียน กับเรื่องอื่น ๆ ที่เธอวางแผนจะทำให้เสร็จก่อนเปิดภาคเรียน
แล้วดวงเนตรก็ปล่อยใจละลิ่วล่อง ไปตามสายลมโชย “พี่หนอย...เนตรคิดถึงพี่หนอยทุกวัน” ดวงใจที่มีความหวังว่าสักวันจะได้พบเจอ น้ำตาเธอเหือดแห้ง หัวใจอ่อนล้านัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่