ทำงานที่บ้าน+ เลี้ยงดูคนแก่ไปด้วย จะปรับบาลานซ์สภาพจิตใจยังไงดี

ก่อนหน้านี้เราไปทำงานต่างประเทศมาแล้วเราก็มีเงินเก็บจำนวนนึง
เราเลยไม่อยากเข้าไปทำงานในกรุงเทพ อยู่บ้านมีพื้นที่กว้างขวาง สบายใจ
แล้วเราเป็นฟรีแลนซ์ทำงานอยู่กับบ้าน เดือนนึงรายได้ไม่เยอะ ไม่มีค่าใช้จ่ายมากมายอะไร

แต่ต้องดูแลตายายที่อายุเกือบ 80 ที่งอแงมากจนบางทีเราก็เผลอใส่น้ำเสียงโดยที่ไม่รู้ตัว
เรื่องคือไม่มีมารยาทเวลาเข้าออกห้อง หรือเวลาเช้าๆ จะเสียงดังมาก เราพูดไปหลายครั้งก็ไม่ช่วยอะไร
บางทีเราคุยงานมันจะกลานเป็นทำให้เราหงุดหงิดไปเลย เพราะความไม่รู้กาละเทศะของเค้า

แต่ที่เราเหนื่อยมาก ตือ เรื่องกิน แค่กินยากเป็นเรื่องปกติของคนแก่
แต่ความเหนื่อยคือ เวลาที่เราซื้ออะไรมาไว้ในตู้เย็น หรือตุนกับข้าวไว้จะได้ไม่ต้องออกบ่อยๆ
เค้ามักจะเอาไปทิ้ง หรือเอาไปให้คนอื่น หรือ เอาทุกอย่างมาผัดรวมกัน
กลายเป็นว่ากับข้าวแทนที่จะอยู่ได้ทั้งอาทิตย์ กลับต้องซื้อใหม่ทุกวัน

เราเลยแก้ปัญหาด้วยกันไม่ซื้ออะไรเลย
สุดท้ายก็ออกตลาดทุกวัน ซึ่งใช้เงินวันละ 500 ในการไปตลาดครั้งหนึ่ง
บางทีถ้ามีของใช้ก็ถึงหลักพัน แล้วต้องซื้อของถวายพระทุกคน ข้าว น้ำ ขนม ต้องครบเซ๋ตถ้าวันพระก็เพิ่มดอกไม้ ธูปเทียน ไปอีก

แล้วชอบกินทิ้งกินขว้าง ไม่กินค้างมื้อ ไม่กินแกงถุง
บางอย่างเราอยากกินซื้อมาไว้กินเองแต่เขาไม่กิน เขาก็เอาไปทิ้ง
เราเคยบอกว่าไม่กินอะไรก็วางทิ้งไว้เดี๋ยวก็กินเอง
วันไหนที่มีงานกินเลี้ยง ออกไปข้างนอกเขาก็ไม่เคยบอกเราเลย ปล่อยให้เราทำกับข้าวเก้อ แล้วพอค้างมื้อก็ไม่กินอีก
แล้วทุกมื้อต้องมีผลไม้ ของหวานให้ตบท้ายไปด้วยอีก

และเลือกกินแต่ของแพงๆ ที่มันไม่ได้ดีต่อสุขภาพ อย่างปลาหมึก หอยนางรม สตอ
อย่างเราจะได้หมูได้ผักมาฟรี จากญาตที่ขายหมู แทนทีเราจะเก็บไว้ทำกับข้าว
แล้วแบ่งส่วนที่เหลือให้คนอื่นนิดหน่อยแต่เราต้องมีกินก็ไม่ได้
เขามองว่าน่าเกลียด ให้ต้องให้เยอะๆให้จนหมด แต่ตัวเองแทบจะไม่มีกิน

ใส่น้ำยาปรัยผ้านุ่มดาวน์นี่ทีเดียวครึ่งถุงทั้งๆที่เราบอกว่ามันหอมนะ ใส่นิดเดียวก็พอแล้ว บอกอยิ่งนี้มาตั้งแต่ก่อนไปต่างประเทศ กลับมาก็ยังเป็นเหมือนเดิม
แล้วชอบทิ้งขว้างของทั่วบ้าน กินตรงไหนทิ้งตรงนั้น สาดเศษอาหารรอบพื้น ทั้งๆที่ทั้งขยะก็อยู่ตรงหน้า

เรารู้สึกว่าเขาใช้ของกินของทิ้งขว้างเกินไป เหมือนคนไม่รู้คุณค่าของิน
ยังติดอยู่ในยุค ไข่ฟองละบาท หมูโลละ50 น่ำมันลิตรละ 15 บาท
บางอย่างมันไม่จำเป็นต้องเสียเงินก็ทำให้มันเสียจนได้

ล่าสุดเค้าขอเงินเราแสนนึงเพื่อเอาไปซ่อมบ้าน
เราไปปรึกษาเรื่องนี้กับญาติ เพราะเราก็ยังมีความใันที่ต้องใช้เงิน
และเรามองว่า บ้านยังอยู่ได้ บ้านแถวนี้เก่ากว่าเราทั้งนั้น เขายังอยู่กันได้เลย
แต่เรากับโดนด่าว่า เห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่นึกถีงใจคนอื่นบ้าง
เราเลยยิ่งดาวน์ลงไปเรื่อยๆๆ จนเริ่มหางานที้กรุงเทพแล้ว แต่ก็ยังแพนิคกับการทำงานออฟฟิศอยู่

ซึ่งการกระทำของเรา ที่บางทีบ่น ขึ้นเสียงเขาบอกว่ามันบาป
เราเลยอยากรู้ว่าการกระทำของเขา มันไม่บาปต่อเราบ้างเหรอ
แล้วเราต้องตอบแทนบุญคุณกันไปถึงเมื่อไหร่ ทั้งที่เราก็ส่งเงินให้ทั้ง พ่อ แม่(ที่แยกกันอยู่) ให้ตายายไปลงทุนทำเกษตร และยังเลี้ยงดูทุกวัน+รานเดือนอีก
แต่เรายังเป็นคนเห็นแก่ตัวอยู่อีกหรอ ทั้งๆที่เราโตมาโดยไม่เรยใช้เงินพวกเขาเลยสักบาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่