“ทุกคนต้องเข้าสู่ระบบภาษีเพื่อยืนยันรายได้
เอา ก็ เอา หวังว่าคงไม่เกิดความยุ่งยาก
คลังเดินหน้าพัฒนาData Lake ยกระดับนโยบายสวัสดิการปูทางใช้ “Negative Income Tax” ในปี 2570 ปลัดคลังเผยประชาชนต้องยื่นแบบภาษีทุกคน รายได้ต่ำเกณฑ์ได้รับสวัสดิการ
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเชื่อมโยงข้อมูลพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Lake) ว่าขณะนี้กระทรวงการคลังมีข้อมูลครอบคลุมกว่า 60.8 ล้านคน และ 6 แสนกิจการ โดยนำไปสู่การพัฒนาระบบเครดิตสกอริ่งของประชาชน Ari Score และยังสนับสนุนการออกแบบนโยบายสวัสดิการในลักษณะ Negative Income Tax
ซึ่งรูปแบบภาษีดังกล่าว ประชาชนทุกคนจะต้องยื่นแบบภาษี รวมถึงผู้ที่อยากรับสวัสดิการของรัฐด้วย หากมีรายได้ถึงเกณฑ์จะต้องเสียภาษี และหากรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะได้รับสวัสดิการ โดยวางเป้าหมายให้สามารถเริ่มใช้ได้ปี 2570
“ทุกคนต้องเข้าสู่ระบบภาษีเพื่อยืนยันรายได้ หากรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ก็รับสวัสดิการ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลรู้จักคนไทยมากขึ้น และช่วยให้สามารถกำหนดนโยบายการคลังเชิงรายภูมิภาคได้ เพราะคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางการเงินของประชาชนในแต่ละภาคมีความแตกต่างกัน เช่น ภาคเหนือกับภาคใต้มีคุณภาพชีวิตและความต้องการไม่เหมือนกัน หรือภาคอีสานกับภาคกลางก็แตกต่างกัน” ปลัดคลังกล่าว
โดยล่าสุด กระทรวงการคลังได้เชื่อมโยงข้อมูลกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นความร่วมมือสำคัญ เนื่องจากข้อมูลทางการเงินและข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชนเป็นข้อมูลหลักที่รัฐบาลและผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องใช้ในการจัดสวัสดิการอย่างตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ
ขณะที่คณะกรรมาธิการได้แสดงความกังวลถึงเรื่องความเสี่ยงฐานะการคลังนั้น นายลวรณกล่าวว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในความเสี่ยงทางการคลังที่เราเห็นอยู่แล้ว และปีนี้เป็นปีแรกที่กระทรวงการคลังระบุว่า หากรายได้ไม่เพียงพอก็ไม่ควรจะก่อหนี้ ถือเป็นปีแรกที่งบประมาณไม่โต งบประมาณเท่ากับปีก่อน เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของรัฐไม่ได้เพิ่มขึ้น
โดยต้องให้ความสำคัญกับการจัดเก็บรายได้ให้ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งข้อมูลที่เชื่อมโยงจาก 3 กรมจัดเก็บภาษี ได้แก่ กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต จะทำให้เห็นช่องโหว่และสามารถตรวจสอบไขว้กันได้ ซึ่งการเชื่อมโยงข้อมูลภาษีนี้เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มรายได้ของประเทศในอนาคต และเมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์ ประชาชนทุกคนที่อยู่ในประเทศและต้องการรับสวัสดิการจะต้องยื่นข้อมูลภาษีเพื่อเข้ารับสิทธิ
“บางครั้งผู้ประกอบการเสียภาษีนำเข้าต่ำ ก็จะไปเพิ่มกำไรและรายได้ธุรกิจ ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น ข้อมูลจากหลายกรมช่วยให้เรามองเห็นความสัมพันธ์แบบนี้และปิดช่องโหว่ได้” นายลวรณกล่าว
https://www.prachachat.net/finance/news-1864795?fbclid=IwQ0xDSwMLZTZleHRuA2FlbQIxMAABHkz5lCKtau2TSSAeQoIAoFDI4H15DGXLK0iu4eNVZzVFynVcVftW_P-C6329_aem_ps6PaE183g9dzX13thR1kw
เตรียมใช้ negative income tax ปี 70 ‘ปลัดคลัง’ ชี้ต้องยื่นภาษีทุกคนเพื่อรับสวัสดิการ
เอา ก็ เอา หวังว่าคงไม่เกิดความยุ่งยาก
คลังเดินหน้าพัฒนาData Lake ยกระดับนโยบายสวัสดิการปูทางใช้ “Negative Income Tax” ในปี 2570 ปลัดคลังเผยประชาชนต้องยื่นแบบภาษีทุกคน รายได้ต่ำเกณฑ์ได้รับสวัสดิการ
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเชื่อมโยงข้อมูลพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Lake) ว่าขณะนี้กระทรวงการคลังมีข้อมูลครอบคลุมกว่า 60.8 ล้านคน และ 6 แสนกิจการ โดยนำไปสู่การพัฒนาระบบเครดิตสกอริ่งของประชาชน Ari Score และยังสนับสนุนการออกแบบนโยบายสวัสดิการในลักษณะ Negative Income Tax
ซึ่งรูปแบบภาษีดังกล่าว ประชาชนทุกคนจะต้องยื่นแบบภาษี รวมถึงผู้ที่อยากรับสวัสดิการของรัฐด้วย หากมีรายได้ถึงเกณฑ์จะต้องเสียภาษี และหากรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะได้รับสวัสดิการ โดยวางเป้าหมายให้สามารถเริ่มใช้ได้ปี 2570
“ทุกคนต้องเข้าสู่ระบบภาษีเพื่อยืนยันรายได้ หากรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ก็รับสวัสดิการ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลรู้จักคนไทยมากขึ้น และช่วยให้สามารถกำหนดนโยบายการคลังเชิงรายภูมิภาคได้ เพราะคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางการเงินของประชาชนในแต่ละภาคมีความแตกต่างกัน เช่น ภาคเหนือกับภาคใต้มีคุณภาพชีวิตและความต้องการไม่เหมือนกัน หรือภาคอีสานกับภาคกลางก็แตกต่างกัน” ปลัดคลังกล่าว
โดยล่าสุด กระทรวงการคลังได้เชื่อมโยงข้อมูลกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นความร่วมมือสำคัญ เนื่องจากข้อมูลทางการเงินและข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชนเป็นข้อมูลหลักที่รัฐบาลและผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องใช้ในการจัดสวัสดิการอย่างตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ
ขณะที่คณะกรรมาธิการได้แสดงความกังวลถึงเรื่องความเสี่ยงฐานะการคลังนั้น นายลวรณกล่าวว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในความเสี่ยงทางการคลังที่เราเห็นอยู่แล้ว และปีนี้เป็นปีแรกที่กระทรวงการคลังระบุว่า หากรายได้ไม่เพียงพอก็ไม่ควรจะก่อหนี้ ถือเป็นปีแรกที่งบประมาณไม่โต งบประมาณเท่ากับปีก่อน เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของรัฐไม่ได้เพิ่มขึ้น
โดยต้องให้ความสำคัญกับการจัดเก็บรายได้ให้ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งข้อมูลที่เชื่อมโยงจาก 3 กรมจัดเก็บภาษี ได้แก่ กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต จะทำให้เห็นช่องโหว่และสามารถตรวจสอบไขว้กันได้ ซึ่งการเชื่อมโยงข้อมูลภาษีนี้เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มรายได้ของประเทศในอนาคต และเมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์ ประชาชนทุกคนที่อยู่ในประเทศและต้องการรับสวัสดิการจะต้องยื่นข้อมูลภาษีเพื่อเข้ารับสิทธิ
“บางครั้งผู้ประกอบการเสียภาษีนำเข้าต่ำ ก็จะไปเพิ่มกำไรและรายได้ธุรกิจ ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น ข้อมูลจากหลายกรมช่วยให้เรามองเห็นความสัมพันธ์แบบนี้และปิดช่องโหว่ได้” นายลวรณกล่าว
https://www.prachachat.net/finance/news-1864795?fbclid=IwQ0xDSwMLZTZleHRuA2FlbQIxMAABHkz5lCKtau2TSSAeQoIAoFDI4H15DGXLK0iu4eNVZzVFynVcVftW_P-C6329_aem_ps6PaE183g9dzX13thR1kw