วันที่ 14 ส.ค. 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา กองทัพกัมพูชาได้จัดคณะลงพื้นที่ พร้อมคณะผู้ตรวจการณ์ชั่วคราว (Initial Observation Team – IOT) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก 7 ประเทศสมาชิก ได้แก่ บรูไน, อินโดนีเซีย, ลาว, เมียนมา, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เดินทางไปยังพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว เพื่อทำการตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในระยะหลัง
เส้นทางการตรวจสอบ คณะได้ลงพื้นที่ 2 จุดหลัก คือ
1. จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
2. จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
ทั้งสองจุดเป็นพื้นที่ติดแนวเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา และมีหลักเขตแดนปรากฏชัดเจน
ฝ่ายกัมพูชาได้นำคณะผู้ตรวจการณ์ไปดูยางรถยนต์เก่า และลวดหนามหีบเพลงที่ฝ่ายไทยติดตั้งไว้บริเวณแนวชายแดน โดยอ้างว่าเป็นการปิดกั้นเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านของชาวกัมพูชา และยังกล่าวหาว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศ
แหล่งข่าวฝ่ายไทยยืนยันว่า พื้นที่ที่กัมพูชากล่าวถึงนั้นอยู่ในเขตแผ่นดินไทยตามหลักเขตแดนอย่างชัดเจน การวางยางรถยนต์และลวดหนามเป็นการปฏิบัติภายในอธิปไตยของไทย เพื่อรักษาความมั่นคงและควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ชายแดน ไม่ได้เป็นการละเมิดข้อตกลงใดๆ
นอกจากการนำชมพื้นที่แล้ว ฝ่ายกัมพูชายังได้กล่าวต่อคณะผู้ตรวจการณ์ว่า ตนเองนั้นมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการรักษาข้อตกลงหยุดยิง ปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี และจะรักษาอธิปไตยรวมถึงบูรณภาพแห่งดินแดนของตนทุกวิถีทาง โดยมีการสื่อสารในลักษณะโยนความผิดให้ฝ่ายไทย
บรรยากาศการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปอย่างเคร่งเครียด มีทหารทั้งสองฝ่ายประจำจุดควบคุมและเฝ้าระวังตลอดเวลา ขณะที่คณะผู้ตรวจการณ์ได้จดบันทึกและถ่ายภาพเพื่อใช้ประกอบรายงาน ซึ่งจะถูกนำเสนอในระดับภูมิภาคต่อไป
ไทยยืนยัน! เป็นเขตอธิปไตยไทย มีหลักเขตแดนชัดเจน หลังกัมพูชาพาผู้ตรวจการณ์ 7 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดน กล่าวหาไทยปิดทางเข้า-
เส้นทางการตรวจสอบ คณะได้ลงพื้นที่ 2 จุดหลัก คือ
1. จุดผ่านแดนบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
2. จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
ทั้งสองจุดเป็นพื้นที่ติดแนวเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา และมีหลักเขตแดนปรากฏชัดเจน
ฝ่ายกัมพูชาได้นำคณะผู้ตรวจการณ์ไปดูยางรถยนต์เก่า และลวดหนามหีบเพลงที่ฝ่ายไทยติดตั้งไว้บริเวณแนวชายแดน โดยอ้างว่าเป็นการปิดกั้นเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้านของชาวกัมพูชา และยังกล่าวหาว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศ
แหล่งข่าวฝ่ายไทยยืนยันว่า พื้นที่ที่กัมพูชากล่าวถึงนั้นอยู่ในเขตแผ่นดินไทยตามหลักเขตแดนอย่างชัดเจน การวางยางรถยนต์และลวดหนามเป็นการปฏิบัติภายในอธิปไตยของไทย เพื่อรักษาความมั่นคงและควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ชายแดน ไม่ได้เป็นการละเมิดข้อตกลงใดๆ
นอกจากการนำชมพื้นที่แล้ว ฝ่ายกัมพูชายังได้กล่าวต่อคณะผู้ตรวจการณ์ว่า ตนเองนั้นมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการรักษาข้อตกลงหยุดยิง ปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี และจะรักษาอธิปไตยรวมถึงบูรณภาพแห่งดินแดนของตนทุกวิถีทาง โดยมีการสื่อสารในลักษณะโยนความผิดให้ฝ่ายไทย
บรรยากาศการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปอย่างเคร่งเครียด มีทหารทั้งสองฝ่ายประจำจุดควบคุมและเฝ้าระวังตลอดเวลา ขณะที่คณะผู้ตรวจการณ์ได้จดบันทึกและถ่ายภาพเพื่อใช้ประกอบรายงาน ซึ่งจะถูกนำเสนอในระดับภูมิภาคต่อไป